เมื่อช่วงเช้าวันนี้(16 มิ.ย.68) นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ เดินทางมาที่ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา พร้อม ทนายเตชสิทธิ์ สีแดง”หลังศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีดำ อ.1023 /68 ที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นโจทก์ฟ้อง ดีเจแมน พัฒนพล เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ กรณีถูกกล่าวหาในรายการแฉและรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ เรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือคดีแชร์ Forex – 3D ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา
โดย ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยว่า “วันนี้เรามั่นใจและขอยืนยันว่าสิ่งที่โดนกล่าวหาไม่มีมูลความจริงเลย เราไม่เคยไปทำอะไรแบบนั้น วันนี้ที่มาเราอยากเปิดโอกาสให้เขาได้พูดความจริงกับประชาชนและไม่โกหกต่อไป คนพูดไม่จริงมันก็ไม่จริงอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้มันไม่เคยตรงกันสักเรื่อง คนในครอบครัวของเขาที่ออกมาพูดก็ไม่เคยตรงกับเขา แล้ว แบบนี้สังคมจะวิเคราะห์ยังไง เอาเป็นว่าคนเราผิดพลาดกันได้ ผมพร้อมให้อภัยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมไม่เคยออกมาพูดอะไรเลย ทำไมอยู่ดี ๆ ออกมาหาว่าผมกระทำ ทั้งที่ผมก็อยู่เงียบๆ แต่วันนี้ผมขอออกมารักษาสิทธิ์ตัวเอง เพราะเขาทำเกินไป ผมอยู่ของผม แต่เขาหาว่าผมไปฟ้องมั่วซึ่งมันไม่จริงเลย คนที่ล้ำเส้นต่างหากถึงต้องโดน มาด่าพ่อล่อแม่ยุ่งกับบุพการีผม ทำหลายครั้งไม่รู้จักสำนึก โกหกหลายรอบ ผมถึงต้องเข้ามา
หลักฐานเป็นคลิปในรายการทั้ง 2 รายการ และคอมเมนต์ต่าง ๆ ในโซเชียลฯ ที่ทุกคนเข้าใจผิด ผมเชื่อมั่นว่าคนที่ติดตามข่าวจะไม่เชื่อในคำพูดของเขา แต่คนที่อ่านแค่หัวข้อพาดหัวข่าวก็อาจจะมีคล้อยตามได้ อย่างที่เขาพูดว่าทำไมไม่มีใครมาตรวจเส้นทางการเงินของเรา หลักฐานก็มีว่าเราโดนตรวจสอบแล้ว เขาก็พูดแบบนี้แสดงว่าเขาด่าเจ้าหน้าที่รัฐหรือยังไง เพราะหลักฐานเราก็มีทุกอย่าง ผมไม่ได้เกี่ยวโยงหรือว่าอะไร กับใบเตย สุธีวัน เราได้คุยกันอยู่ตลอด เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงแล้ว ครอบครัวนี้น่ารักมาก คุณพ่อและคุณแม่ของใบเตยเองเขาก็ไปพูดให้หมดจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ผมกับน้องสนิทกัน เราคุยกันตลอด น้องก็มาช่วยงานผมตลอด น้องออกมาก็ยังมาช่วยผมไลฟ์ขายของอยู่เลย แบบนี้หรอครับที่จะมาหาว่าผมทำร้ายครอบครัวเขา ผมยังนึกไม่ออกเลย”
“ถามว่าผมอยากให้ดีเจแมนขอโทษและพร้อมที่จะไกล่เกลี่ยหรือเปล่า? ผมก็อยากทำให้เขาเห็นว่าผมไม่เอาอะไรเลยแค่ต้องการให้เขาพูดความจริง แม้จะมีสิทธิ์ผมยังไม่เคยทำเลย ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ที่มากล่าวหาว่าผมตบทรัพย์ ผมอยากทำให้เขาเห็นว่าคนอย่างผมไม่เคยเรียกรับเงินจากใคร ตรงนี้ผมมั่นใจมาก ยอมรับว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อผมเยอะ เวลาจะไปทำงาน ไปขายงาน บริษัททัวร์ของผมถูกยกเลิกเยอะมาก ไม่ใช่ทุกคนไม่มั่นใจในตัวผม แต่เขาอยากรอให้ทุกอย่างมันเงียบก่อน
ล่าสุดดีแมนไปแจ้งความเอาผิดผม ผมได้เห็นคำสัมภาษณ์ของเขาทั้งหมดแล้ว เอาจริงเราก็ไม่ชอบเหมือนกัน มันไม่ควรมาพิพากษาหรือเหยียบย่ำเพื่อให้ตัวเองได้งาน ไม่ใช่ออกมารับบทน่าสงสาร เพื่อให้ตัวเองได้มีงานทำต่อในการว่าร้ายคนอื่น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเค้าต้องการอะไร เขาบอกว่าไม่ได้ร่วมมือกับ หนุ่ม กรรชัย และ อี้ แทนคุณ ก็ไม่เป็นไรครับ หลังจากได้คุยกับทนายฝ่ายเขาก็สบายใจขึ้นครับ พี่ทนายเขาน่ารักคุยกับเราดี จริง ๆ อยากให้เขาเชื่อทนายความเขาเยอะ ๆ ต้องเลิกเชื่อคนกลางแล้วตัวเองกับครอบครัวจะได้อยู่อย่างสงบ เพราะเราเองก็เป็นห่วงครอบครัวเขา ครอบครัวเขาก็คุยกับเราตลอด อยากให้เขาเชื่อคนที่ไว้ใจได้ ส่วนวันที่ 2 ก.ค.68 เดี๋ยวค่อยมาคุยกันว่าจะยังไง ส่วนเราก็ยินดีอยู่แล้วที่จะไกลเกลี่ย ยินดีพูดคุยกันครับ”
ด้าน ทนายเตชสิทธิ์ เผยว่า สรุปวันนี้ไม่ได้มีการไต่สวนมูลฟ้อง เพราะทางเราและทางทนายฝั่งจำเลย มีความเห็นตรงกันว่าอยากจะลองให้ ไกล่เกลี่ย กันก่อน ให้ทั้งคู่ลองมาพูดคุยกันก่อน โดยศาลนัดวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เอาจริงๆ ปัญหามันก็ไม่ได้เกิดจากดีเจแมนโดยตรง มันมีคนกลาง ก็เลยอยากให้เจ้าตัวมาคุยกันเองมากกว่า เพราะถ้าฟังคนกลางเยอะมันก็จะเป็นปัญหา ก็คิดว่าแนวโน้มมันน่าจะดีขึ้นถ้าไม่มีการพาดพิงอะไรกันไปมา ถ้าจบแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างใช้ชีวิต
ขณะที่ ทนายอมร ทนายของ ดีเจแมน กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการคุยกันและหารือกับทางคุณฟิล์มและทนายของเขา ได้ข้อสรุปตรงกันว่าจะลองไกล่เกลี่ยกันก่อน เพราะตั้งแต่มีข่าวทั้งสองฝ่ายไม่ได้เจอกันเลย ไม่ได้คุยกันเลย จนสุดท้ายมันมีปัญหาลากยาวมาถึงในศาล ก็เลยอยากให้ได้คุยกันก่อน เพราะทั้งสองฝ่ายก็มีข้อเท็จจริงก็เลยอยากให้ลองมาคุยกันก่อน ถ้าคุยกันไม่ได้ก็ค่อยมาว่ากัน เพราะเราเป็นทนายความเราก็ไม่ได้อยากให้ต่างฝ่ายต่างมาฟ้องร้องกัน ถ้าไกล่เกลี่ยกันได้ก็อยากให้ไกล่เกลี่ย ไม่จำเป็นต้องแพ้ชนะ แมนเองก็เห็นด้วยว่าให้ลองมาคุยกัน เพราะปัญหาจะได้จบกัน เราไม่ได้พูดว่าใครผิดใครถูก เพราะทางคุณฟิล์มก็มีข้อเท็จจริงของเขา ทางเราเองก็มีข้อเท็จจริงของเรา แต่ถ้าเราวางข้อเท็จจริงแล้วลองมาคุยกัน พี่น้องกันมันคุยกันได้ ถามว่าเรามั่นใจในพยานหลักฐานที่เรามี? อย่างที่บอกทุกครั้ง ถ้าไม่พร้อมผมไม่มา ผมพร้อมทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคล ก็อย่างที่บอกถ้ามันไกลเกลียกันได้มันก็เป็นการดี เพราะเราเป็นกลุ่มดาราด้วยกันมีปัญหามันก็น่าจะคุยเคลียร์กันได้”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
