แพท ณปภา เผยเกือบล้มงานแต่ง หลังจับได้ พี ชานนท์ โกหกเรื่องนี้ เชื่ออยู่ด้วยกันได้ เพราะศีลเสมอกัน

คู่รักสุดแซ่บ แพท ณปภาพี ชานนท์ ควงคู่กันมาเปิดใจในรายการ WOODY FM เล่าถึงความรักจากวันแรกสู่วันที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน วี๊ดแตก! จับได้โดนแฟนหนุ่มหลอกมาเป็นปี เกือบจะไม่มีงานแต่งโดย พี เล่าว่า “สิ่งที่เคยทำแล้วเลิกทำหลังคบแพทคือการเลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เหล้าคือเลิกเลยไม่ได้ไปดื่ม ไม่ได้ไปเที่ยวเลย เพราะความสุขมันอยู่ที่บ้านแล้ว เราอยากอยู่กับความสุขของเรา ออกไปเที่ยวมันไม่มีความสุขแล้วครับ แต่บุหรี่ลดมาเรื่อย ๆ เพิ่งมาหยุดเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เพราะโดนจับได้ครับ เหน็บเอวไว้แล้วมันหล่น พอโดนจับได้ก็ทะเลาะกัน เพราะเราโกหกแล้วเขาจับได้ ก่อนงานแต่งอาทิตย์หนึ่ง แล้วมันก็จบไปเอง วันนั้นที่กลับไปถึงบ้านกัน แล้วผมทิ้งเลย หลังจากนั้นก็ซื้อเป็นพวกหมากฝรั่งนิโคตินแทนครับ ถึงตอนนี้ตั้งแต่มกราคมก็ 3-4 เดือนแล้วครับ มันก็อยากสูบอยู่ทุกวันแต่เราก็พยายามกินลูกอม หมากฝรั่ง กินน้ำเยอะ ๆ


ด้าน แพท เผยว่า เราเซนส์แรง เตือนเขาแล้ว คือเหล้าหรือการดื่มสังสรรค์เราไม่ติด ถามเขาได้เราไม่เคยห้าม เขาเลือกที่จะเลิกของเขาเอง เราบอกว่าถ้ามีเพื่อนมีอะไรอยากออกไป ไปเลย ไม่ต้องขออนุญาตแค่แจ้งว่ากลับกี่โมง แต่เขาไม่ไป ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เรื่องบุหรี่ เราแพ้ง่ายและมีลูกเล็ก รู้สึกว่าสุขภาพเราสำคัญ ไหนจะลูกอีก เราเข้าใจว่าเขาคงสูบหนักมาแล้วก็พยายามจะเบา แต่คำว่าเบาเขาไม่ได้แจ้งแพทว่าเขาเบา เขาแจ้งว่าเลิก ไม่สูบแล้วเลิกแล้ว เราบอกว่าอย่าโกหก เพราะสุดท้ายเขาโป๊ะ เราจับได้หลังจากที่เขาบอกว่าเลิกสูบมาเป็นปี เขาหลอกเรามาเป็นปี แต่แพทไม่เคยเชื่ออยู่แล้ว เราเป็นคนไม่จับไม่จี้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เดี๋ยวมันก็เฉลย เพราะเคยจู้จี้กับคนอื่นแล้วเราไม่มีความสุข สมองเราไม่ทำอย่างอื่นเลย อยากรู้ต้องรู้หาคำตอบมันต้องใช่ ซึ่งเราเคยพูดกับพีว่าดีแล้วที่มาเจอฉันในเวอร์ชันที่พัฒนาแล้ว เราไม่จี้ เป็นคนไม่เช็กมือถือ แต่เขาเช็กเราในช่วงแรก ๆ โดย พี ได้ให้เหตุผลที่เช็กว่าเพราะตอนนั้นไม่มั่นใจว่าเราเหมาะสมกับเขา แล้วก็กลัวว่าเดี๋ยวมีคนโน้นคนนี่มาจีบที่โปรไฟล์ดีกว่า กลัวว่าเขาจะคุยกับคนอื่น แล้วไปเลือกคนอื่นแทนเรา เพราะว่าเราไม่เหมาะสมกับเขา

จากนั้นคุณแม่สายแซ่บเล่าต่อว่าเราจับได้เรื่องบุหรี่ก่อนงานแต่ง ก่อนจะมีงาน เราบอกจะยกเลิก เพราะเราพูดกับเขาว่าคุณดูดบุหรี่มันไม่ติด มันติดที่คุณเริ่มที่จะโกหกมาเป็นปี ถ้าวันนี้คุณยอมรับกับฉันมาเลยว่าทำไม่ได้จริง ๆ ฉันจะค่อย ๆ เข้าใจคุณ แล้วจะหาวิธีช่วยกัน แต่ ณ จุดนี้ เขาเลือกที่จะพูดเลยว่า “เฮ้ย! คิดมาก อย่าจับผิด” แล้วมันโป๊ะ มันหล่นต่อหน้าเราเลย เรารู้สึกว่าความเชื่อใจของเรามันหาย แล้วเขาก็ชอบพูดว่า”ถ้าพ่อบอกแม่แล้วยังไงก็ทะเลาะกัน แพทก็บอกว่าต้องทะเลาะ แต่อันนี้มันหนัก ตอนแรกเราจะไม่เลย เขาก็ร้องไห้ รู้สึกเฟล พลาดทุกอย่างแล้ว มันจะถึงอยู่แล้ว แล้วเขารู้ว่าเราเป็นคนตรง ไม่ก็คือไม่ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ ณ วันนั้น เราช่างน้ำหนักตัวเองระหว่างเรื่องนี้กับความดี 3 ปี น้ำหนักข้างไหนมันหนักกว่ากัน ซึ่งความดีของเขามันหนักกว่าเรื่องนี้ เราไม่พูดอีกเลย เชื่อไหมว่าเขาคิดว่าจะโดนไปจนวันแต่ง จะต้องโดนไปทุกวันแน่ ๆ เราพูดวันนั้นเราไม่พูดอีกเลยถือว่าจบ ไม่รื้อฟื้น ในเมื่อเราเลือกที่จะเดินต่อแล้ว ปล่อยผ่านแล้วเขาน่าจะรู้แล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อไปในชีวิต


ถามว่ารักอะไรในตัวเขามากที่สุด เขาเป็นทุกอย่างเลย เราไม่รู้ว่าต้องพูดว่าอะไร คือ ณ ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยแต่ถ้าชีวิตจริงมันก็คงอยู่ได้แหละ แต่ในความรู้สึกแค่คิดว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเขา เราจะทำยังไง แค่นี้เลย มันคือคำตอบของเรา มันเป็นยังไง ต่อให้มันเกิดมันก็ต้องเกิด แต่เราแค่ไม่อยากให้เกิด แปลว่าเราอยากมีเขาในชีวิตทุกวันจริง ๆ ซึ่งเขาไม่รู้หรอก เพราะเราไม่ค่อยพูด เป็นคนไม่ค่อยชอบพูดหวาน ไม่ชอบซึ้ง แล้วเป็นคนไม่ชอบพูดด้วย ถ้าเกิดทะเลาะกัน นั่งอยู่ด้วยกัน แต่ไม่พูด พิมพ์ข้อความแทน ซึ่งการสื่อสารผ่านทางข้อความมันเวิร์กนะ เรารู้สึกว่าบางทีอารมณ์ ณ โมเมนต์นั้น ถ้าเราพูดอะไรออกไป ไม่รู้ว่าคำพูดของเรามันจะแรงด้วยอารมณ์โมเมนต์นั้น ซึ่งเราเป็นบ่อยมาก แล้วเราตัวติดกันอยู่แล้ว บางทีมีเรื่องไม่เข้าใจกัน เราเลือกที่จะไม่พูดออกไป พอเขาเห็นเรานั่งกดมือถือ ก็จะรู้แล้วเมียไม่ปกติแล้ว เราใช้วิธีนี้ทุกครั้งแล้วมันได้ผล และลูกก็จะไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นอะไรกัน เราเคยคุยกันว่าจะไม่ทะเลาะต่อหน้าลูกเด็ดขาด ไม่ว่าวันนั้นเราจะโกรธกันด้วยเรื่องอะไร ช็อตเดียวที่เราโวยวายใส่เขาคือที่ตอนจับได้ว่าเขาสูบบุหรี่ แค่นั้นเลย

ขณะที่ พี บอกว่าพอเขาพิมพ์มาเราอ่านซ้ำหลาย ๆ รอบ มันทำให้เราทำความเข้าใจกับมัน รู้สึกดีใจที่สามารถพิชิตใจผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว เราไม่เคยคุยเรื่องแต่งงานกันเลย แต่เขายอมแต่งงานกับเรา คือเราอยากดูแลเขา เพราะว่าวันที่เราเจอกันครั้งแรก ผมไม่ได้มีอะไรเลย แต่เขาเลือกเรา วันนั้นไม่ได้มีเงินเยอะ พออยู่พอกินของเรา แต่ระดับแม่เขานี่คือคนรวยเยอะแยะเลยครับ แต่เขาก็เลือกเรา มุมที่อยากเห็นในตัวผู้หญิงคนนี้คือมุมอ่อนหวาน ไม่ใช่แข็งโป้งป้สง มุมอ้อน มุมซบ ซึ่งนาน ๆ จะมีที” จากนั้น แพท เล่าเสริมว่า “ในโมเมนต์นั้น เราเลือกที่จะไม่คุยก็ได้ แต่เขาได้โอกาสที่เราจะคุย เขาเลยรู้สึกว่าอยากทำให้มันเต็มที่ เผื่อโอกาสนั้นมันจะพัฒนาได้ จนมาเป็นวันนี้ 3 ปีกว่าแล้ว”

“เขาเป็นทุกอย่าง เป็นทั้งคู่ชีวิต เป็น My Best Friend เป็นเพื่อนสนิทที่สุดที่ตอนนี้มี เขาอยู่กับเราในหลายเวอรชัน หลายมิติ เลยทำให้อยู่กันมาได้นาน เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ ศีลเสมอ ต่อให้เรารักเขา เขาชอบเรามากแค่ไหนแต่ถ้าศีลไม่เสมอกัน ไปด้วยกันไม่ได้ ภาพในหัวอีกอย่างหนึ่งคือไม่เคยคิดจะมีลูกเพิ่ม ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเขาด้วย จะพูดแค่ว่าการมีลูกคนหนึ่งมันเหนื่อยมาก ปีนี้ฉันจะ 39 แล้วนะ เธอเพิ่งจะ 25 ไม่เข้าใจหรอก ลูกฉัน 8 ขวบ ถ้าเกิดมีอีกคน เขาจะห่างกันเยอะมาก แล้วเขาก็ไม่เคยบังคับ คือเขาเคารพร่างกาย ถ้าวันนี้เขาอยากมีแต่ร่างกายเมียเขาไม่ได้ เขาโอเคมาก ๆ เพราะเขารักเรซซิ่งไปแล้ว แต่ลึกๆถ้ามีได้เขาก็อยากมี DNA ของเขาสักหนึ่งแมตช์ วางโครงการไว้แล้ว ใช้วิธีธรรมชาติ ตั้งใจไว้ว่าสักประมาณกลางปีนี้จะเริ่มปฎิบัติการ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


ขอบคุณภาพ pat_napapa

เข้าชม 1,864 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม