ซุง ศตาวิน ไม่ติดใจ ดิว อริสรา หากเจอหน้ายังยกมือสวัสดีได้ปกติ

กลายเป็นมหากาพย์สาวลากไส้รายวัน กับกรณีนางร้ายแม่ลูก 2 “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ที่สร้างภาพใช้ชีวิตแบบลักชัวรี่ในวงการบันเทิงมาตลอดหลายปี แต่ชีวิตจริงกลับตาลปัตรถังแตกใช้ชีวิตเกินตัวสร้างหนี้ก้อนโตสูงเกือบ 100 ล้านบาท ทั้งยืมของแบรนด์เนมจากนักธุรกิจสาวชื่อดัง “เมย์ วาสนา อินทะแสง” แล้วไม่คืน แต่กลับเอาไปจำนำและขายต่อทอดตลาด มูลค่ารวม 62 ล้านบาท


ก่อนจะดรามาถาโถมอีกรอบเมื่อ “ซุง ศตาวิน” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ออกมาแฉต่อเนื่องว่าถูกนางร้ายคนดังยืมเงินเจ้าตัวและพี่ชายคนสนิทไปร่วม 20ล้านบาท โดยเป็นเงินของหนุ่มซุง 12.5ล้านบาท และพี่ชายอีก 7.5 ล้านบาท แต่ได้เงินคืนไปแล้วแต่เหลือในส่วนของพี่ชายอีกล้านกว่าบาท พร้อมออกมาแฉต่อว่าสาวดิวได้เอาต่างหูเพชรมาวางเป็นทรัพย์สินประกันแต่สุดท้ายกลับช้ำหนักเมื่อตรวจพบว่าต่างหูคู่ดังกล่าวเป็นเพชรปลอม

และเมื่อวานนี้(19มี.ค.) หลังทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านบาท ทั้งกระเป๋า สร้อย นาฬิกาแบรนด์ดังหลายชิ้นกลายเป็นข่าวดัง หลังนักธุรกิจหญิงคนดังออกมาแฉแหลกกลางรายการโหนกระแสแบบไม่ไว้หน้านางร้ายน้องรักกับวีรกรรมการยืมของแบรนด์เนมดังไปแต่ไม่คืนตามกำหนด ก่อนมาสืบทราบภายหลังว่านางร้ายคนดังเอาทรัพย์สินที่ยืมไปเดินสายจำนำหลายที่


ล่าสุดเมื่อบ่ายวันนี้(20มี.ค.) บริษัทรับฝากซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมรีบออกมาชี้แจงเพื่อเคลียร์ตัวเองว่า “ดิว อริสรา” เอาสร้อยบูการีราคาเต็ม 15.27 ล้านบาท ของนักธุรกิจคนดังไปจำนำที่ร้านในราคา 7 ล้านบาท

ส่วนสร้อย Lotus Arts de Vivre ที่มีแค่ชิ้นเดียวในโลก มูลค่า 26.44 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ารัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ อักษรย่อ พ. รับซื้อไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดคนกลางที่รับซื้อสร้อยเส้นดังกล่าวนำเอาสร้อยเส้นดังกล่าวมาคืนกลางรายการโหนกระแส เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก่อนแฉนางร้ายคนดังเอาไปขายในราคาเพียงแค่ 8ล้านบาทเท่านั้น

ด้าน “ซุง ศตาวิน” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังเปิดใจว่า “ไม่โกรธ ไม่ติดใจสาวดิว เพราะอยากช่วยก็เลยช่วยเหลือ ส่วนตัวได้เงินคืนครบแล้ว และไม่คิดจะเอาดอกเบี้ยอะไรทั้งนั้น ก่อนบอกที่ช่วยเหลือ โดยไม่คิดอะไรเป็นเพราะพี่ชายคนสนิทมาขอให้ช่วยเหลือผู้หญิงท้องที่ทำธุรกิจ แต่ตอนหลังมารู้ว่าเป็นดิวก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเห็นภาพลักษณ์ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตหรูหราเหมือนที่ทุกคนเคยเห็น และก็เข้าใจถึงการทำธุรกิจของแต่ละคนว่าบางครั้งก็ต้องพบเจอปัญหาก็เลยให้ยืมโดยไม่ได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนพี่ชายอีกคน ที่ยังได้เงินคืนไม่ครบอีกล้านกว่าบาทหนุ่มซุงบอกไม่รู้ว่ามีการติดต่อพูดคุยกันยังไงหลังจากที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตว่าหลังจากนี้จะให้ใครยืมเงินแค่ความไว้ใจอย่างเดียวคงไม่พอคงต้องทำสัญญาให้รัดกุมมากขึ้น และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ถ้าหากจะเรียกเข้าไปพบเพื่อให้ข้อมูลทุกอย่าง ก่อนวอนทุกคนอย่าไปด่าพาดพิงถึงลูกของสาวดิวเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ส่วนความรู้สึกถึงสาวดิวก็ยังเหมือนเดิมถ้าหากเจอก็สามารถยกมือสวัสดีทักทายกันได้ปกติ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


ภาพ : Sungstarwin

เข้าชม 95 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม