เมื่อช่วงเย็นวันนี้(3 มี.ค.68) เบิร์ด เทคนิค แฟนหนุ่มของนางเอกผู้ล่วงลับ แตงโม ภัทรธิดา หรือ แตงโม นิดา เปิดใจกับสื่อเป็นครั้งแรก หลังเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นานกว่า 6 ชั่วโมงโดย เบิร์ด เผยว่า ดีใจที่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ ทำตามหน้าที่ ตามที่ดีเอสไอนัด ด้วยการให้ข้อมูลทางคดีทุกเรื่องกับทางดีเอสไอแล้ว ส่วนประเด็นที่อยู่ตนเองกับแตงโมอยู่ด้วยกันที่ จ.ภูเก็ต ก่อนที่ แตงโม จะเสียชีวิต เบิร์ด ชี้แจงว่าตนเองและแฟนสาวไป จ. ภูเก็ต วันที่ 17 ก.พ.65 และกลับมาวันที่ 19 ก.พ.65 แต่แฟนสาวลงเรือวันที่ 24 ก.พ.65 แล้วมีคนบอกว่าตนรีบกลับมาวันเดียว ซึ่งตนก็งง ไทม์ไลน์จริง ๆ คือเราเดินทางไปภูเก็ตวันที่ 17 ก.พ.65 และกลับกรุงเทพวันที่ 19 ก.พ.65 จากนั้นไม่แน่ใจว่าวันที่ 22 ก.พ65 หรือ 23 ก.พ.65 แตงโมมีถ่ายละครที่ยังถ่ายไปจบ แตงโมแจ้งตนให้ทราบก่อนจะลงเรือ 1 คืน โดยบอกกับตนว่าจะไปลงเรือกินข้าวกับเพื่อน พอตนถามว่าไปกับใคร แฟนสาวก็บอกว่าไปกับเพื่อนกระติก ตนจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ
วันที่ลงเรือก่อนออกจากบ้าน แตงโมซึ่งแต่งตัวเสร็จแล้วเดินขึ้นไปลาตนที่นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนว่า “ที่รักเค้าไปแล้วนะ เค้าออกจากบ้านแล้วนะ” พูดจบก็หอมแก้มตน ณ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่าเป็นลางอะไรเลย เป็นปกติ เพราะตอนที่ออกไปถ่ายละครแฟนสาวก็มาตนปกติ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับคนบนเรือ ไม่มีเบอร์ ไม่เคยคุย รู้จักแค่กระติกคนเดียว แต่ก็ไม่ได้สนิทกับกระติก ส่วนชื่อเอ็กซ์ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ เบิร์ด ยอมรับว่ารู้จักแต่ไม่ได้สนิทกับอีกฝ่าย รู้จักกันแค่วันเดียว เนื่องจากน็อตเพื่อนสนิทของเบิร์ด รู้จักกับเอ็กซ์ แล้ววันนั้นเบิร์ดได้ไปขับรถเล่นกับเพื่อนและรุ่นน้องที่บางแสน น็อตก็โทรชวนเอ็กซ์ ซึ่งอีกฝ่ายก็มาเจอ ตนได้เจออีกฝ่ายวันนั้นวันเดียวและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
หลังเล่าเรื่องดังกล่าวเสร็จ เบิร์ด กล่าวต่อด้วยเสียงสั่นเครือว่าตนเองได้เล่าข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้อีก ข้อความที่คุยกันหลังจากแตงโมออกจากบ้านไป อยู่ในรูปคดี มีหลักฐานทุกอย่าง ตนมอบให้ทางดีเอสไอไปหมดแล้ว ตนได้รับข้อความติดต่อจากแตงโมข้อความสุดท้ายตอน 19.19 น. ข้อความที่คุยกันคือแตงโมถามว่าตนกินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ แตงโมลงเรือกินข้าวแล้ว ตนก็ตอบกลับไปว่าตนทำงาน ส่วนตัวไม่เชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ส่วนที่สังคมโจมตีว่า 3 ปีทำไมไม่ยอมออกมาพูดสักที เบิร์ด บอกอยากให้สังคมเสพข่าวแต่ยังไม่เชื่อข่าวที่เสพทั้งหมด ควรคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ตนพูดอะไรเยอะกว่านี้ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดี ยืนยันว่าไม่มีใครขู่และตนก็ไม่กลัวใครด้วย
ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถด้วยท่าทางคล้ายคนกำลังโกรธจัด แต่ไม่นานก็กลับลงมาให้สัมภาษณ์ต่อ แม้เพื่อนที่มาด้วยจะพยายามห้ามปราบและรั้งตัวไว้ แต่ เบิร์ด สะบัดตัวออกก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางโมโหว่า “อยากพูด” และพูดต่อพร้อมกับทุบอกตัวเองว่า “ที่ผมไม่ออกมาพูด 3 ปี 3 ปีที่ไม่ได้ออกมา ผมเจ็บ ผมเสียใจ จิตใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมขอโทษที่มีอาการแบบนี้ ผมรู้สึกอึดอัดที่เจอข่าวคนโจมตี ผมแค่อยากจะบอกว่าจิตใจคนเราไม่เหมือนกัน ผมรับได้แค่นี้ก็รับได้แค่นี้ คุณรับได้เท่านั้นก็เท่านั้น ทุกวันนี้ผมเลือกทำใจตามใจผม ไม่ได้เลือกทำตามใจคนอื่น ที่ไม่ได้ออกมามา คนอื่นอยากให้ผมออกมา แต่นั่นคือทำตามพวกคุณ แต่ที่ผมไม่ออกคือผมทำใจผมครับ”
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวคณะสืบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม เผยว่า วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการสอบพยานในคดีสืบสวนทั้งหมด จะใช้เวลาตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนนี้ จะสอบพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์จะสอบทั้งเช้าทั้งบ่ายทุกวัน โดยจะเชิญพยานที่ใกล้ชิดกับบุคคลบนเรือ มีพยานหลายคนที่อยากมาให้ข้อมูล ส่วนผลของการไปลงพื้นที่ในเรื่องของการใช้โซน่าร์สแกนและโดรนดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ และพรุ่งนี้ก็จะมีพยานคือเสี่ยสมพงศ์ และ พยานที่อยากเข้ามาเองในตอนบ่าย เขายังไม่ระบุชื่อ แต่จะมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ในภาพรวมเดือนนี้ทั้งเดือนจะเป็นการสอบพยานใกล้ชิดทั้งหมด
ส่วนเบิร์ดก็ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุดเลย เบิร์ดยินดีที่จะออกสื่อ สื่อช่องไหนที่ต้องการสัมภาษณ์เดี่ยว ๆ ก็ติดต่อผ่านมาทางคณะกรรมการสอบสวนจะดำเนินการให้ วันนี้พนักงานสอบสวนสอบเบิร์ดตั้งแต่ 12.00 – 18.00 น. เป็นประโยชน์ในรูปคดีเพื่อจะขยายผลต่อไป ส่วนสอบเรื่องอะไรขอปกปิดในสำนวนที่จะขยายผลต่อไป หลังจากนี้จะลงพื้นที่ไปเก็บวัสดุที่ติดอยู่กับตัวศพไม่ว่จะเป็นน้ำหินดินทราย แต่ต้องสอบถพยานให้เสร็จก่อน ส่วนผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซน่าร์สแกน ต้องรออีกสักระยะ ส่วนโทรศัพท์ของอลิซยังไม่เสร็จ เนื่องจากยังใช้ความละเอียดรอบคอบในการดึงข้อมูลออกมา คาดว่าในสัปดาห์นี้จะเสร็จสิ้นเรียบร้อย
ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่หรือใครโทรไปหามั้ย ขอตรวจสอบก่อน ถามว่าความยากของคดีคืออะไร มันมีความยากของคดีอยู่แล้วแต่ดีเอสไอมีเครื่องมือพิเศษและใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่มาช่วยเหลือในการไขคดีแต่ต้องรออีกสักกระยะ สอบพยานเสร็จสิ้นในเดือนนี้น่าจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กำลังอยุ่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ใช้เวลานานแค่ไหนยังตอบไม่ได้ เพราะมีรายละเอียดเยอะ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
