เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้(3 มี.ค.68) นักแสดงหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมด้วยทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความส่วนตัวเดินทางมายังศาลอาญามีนบุรี กรุงเทพ เพื่อเข้ามาเป็นพยานฝ่ายจำเลย กรณีบริษัทเหรียญบิทคอยน์ฟ้องร้องบริษัท ส. โดยฝั่งโจทก์ได้ออกหมายเรียกให้ ฟิล์ม มาเป็นพยาน แต่ปรากฎว่าช่วงเช้าที่มีการนัดสืบพยานโจทย์ ศาลกับโจทย์ได้ตัดพยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟิล์ม จึงไม่ได้เข้าไปเป็นพยานในคดีนี้แล้ว แต่ ฟิล์ม ก็ได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสักคดี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องพยายามเอาเราไปเกี่ยวข้องกับทุกคดีให้ได้ ย้ำชัดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงทุน เพียงแค่ถูกว่าจ้างเป็นวิทยากรเกี่ยวกับการตลาดเท่านั้น ไม่ได้มีการโน้มน้าว เป็นการพูดเรื่องการตลาด เหมือนวิทยากรท่านอื่น ๆ ที่ถูกเชิญไป อยากให้อีกฝ่ายไปศึกษาดี ๆ ก่อนว่าตนทำอะไรมาบ้าง ตนมีความรู้ในเรื่องนี้ ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรให้กับหลาย ๆ บริษัท พูดเรื่องนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ตนไปพูดเป็น 1,000 บริษัท จะมีสัก 10 บริษัทที่เป็นคดีความกันอยู่ ฝ่ายนั้นก็10 บริษัทนั้นมาพูดเพื่อดิสเครดิสตนในสังคม
แม้จะมีหลายคดีพันรอบตัว แต่ ฟิล์ม บอกไม่เคยกังวลใจสักคดี เพราะไม่ได้ทำอะไรแบบที่เขาพูดกัน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำอะไรผิด ตนเคารพกฎหมายและอยู่กับประชาชนมานาน จะเอาตัวเองไปทำผิดทำไม การที่อีกฝ่ายไปพูดเพื่อยึดเครดิสตนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หลักฐานก็ไม่มี เพราะตนไม่เคยทำ ถ้าอีกฝ่ายบอกว่ามีหลักฐานก็เอาออกมาเลย รออยู่เหมือนกัน ตนไม่อยากให้สื่อ ผู้เสียหาย ตกเป็นเครื่องมือในกระบวนการที่เขากำลังจะทำ อยากให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวัง ทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้นดีกว่า เอาตนเป็นตัวอย่างก็ได้ แล้วมองย้อนกลับมาดูว่าสิ่งที่ตนโดนกระทำคืออะไร ถึงตนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยออกมาพูดอะไร แต่ก็ไม่ควรจะมาทำแบบนี้ ฉะนั้นเคารพกฎหมายกันดีกว่า สังคมจะได้น่าอยู่ ให้ดูที่เจตนาและการกระทำของคนแค่นี้ก็จะรู้แล้วว่าความจริงคืออะไร
ในส่วนกรณีที่อีกฝ่ายพูดถึงคดีหลอกร่วมลงทุนหุ้นดูไบ 60 ล้านบาท ที่ จ.ตรัง อ้างว่ามีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ทนายประมาณ ชี้แจงว่า “เส้นเงินที่เขากล่าวอ้างก็คือเงินที่โอนมาชำระค่าจ้างก็แค่นั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายต่าง ๆ ที่มาเป็นโจทก์ฟ้องในคดีหรือคนที่ไปแจ้งความที่กองปราบ แค่เช็กเบื้องต้นก็เห็นแล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง กลุ่มคนที่ตั้งใจจะทำลายชื่อเสียงจะอ้างว่ามีพยานหลักฐานเยอะ มีเรื่องราวที่ไปก่อกรรมทำเข็ญเยอะ ทั้งที่คดีที่เอามากล่างอ้างไม่ได้มี่ความเกี่ยวข้องกับ ฟิล์ม เลย แต่ก็เอามาสร้างเรื่องให้เกิดความเสียหาย พาคนที่ไม่รู้จักเกลียดฟิล์มไปหมด สำหรับคดีที่ ฟิล์ม แจ้งความหมิ่นประมาท อี้ แทนคุณ และ หนุ่ม กรรชัย ตอนนี้กำลังจะยื่นฟ้อง เพื่อไต่สวนมูลฟ้องในเรื่องถัดไป ถ้าเขาจะฟ้องกลับก็ฟ้องมา ถ้าเอาความเท็จมาฟ้องก็โดนอีก ก็ต้องไปว่าความกันในศาลว่าอะไรคือความเท็จอะไรคือความจริง”
นอกจากนี้ ฟิล์ม ยังถือโอกาสชี้แจงประเด็นที่ถูกชาวเน็ตพุ่งเป้าว่าเป็นดาราเรียกรับเงิน ดีเจแมน พัฒนพล และ ใบเตย สุธีวัน จำนวน 14 ล้านแลกกับการช่วยให้รอดคดี Forex-3D โดย ฟิล์ม บอกได้เห็นแล้วที่ดีเจแมนหลุดชื่อของตนเองในรายการดัง ไม่ว่าจะเป็นการหลุดชื่อ อักษรย่อ หรือการเปรียบเปรย แต่ถ้ามันมั่วก็ต้องถูกดำเนินคดีหมด ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ที่ทนายประมาณแล้ว ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลยสักเรื่อง เพราะถ้าเป็นความจริงป่านนี้ใบเตยคงออกมาพูดแล้ว ส่วนที่หลายคนมองว่าการหลุดชื่อและยืนยันว่ามีหลักฐานค่อนข้างมัดตัว ฟิล์ม ในเบื้องต้นแล้ว เจ้าตัวชี้แจงมันเป็นขบวนการยึดเครดิส หยุดสักทีเถอะการทำแบบนี้
ผู้สื่อช่าวถามต่อว่า ฟิล์มยืนยันใช่มั้ยว่าไม่ได้เรียกเงินจากแมนและใบเตยคนละ 7 ล้าน นักร้องคนดังยืนยันเสียงแข็งว่า “ไม่เคยครับ แม้เขาจะหลุดชื่อเราในรายการ ผมว่าเขาก็ต้องได้รับผลตรงนั้น ยังไงเราก็ดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่หลัง ๆ เขาก็ไม่ได้อะไร ผมก็พร้อมที่จะให้อภัยเขา เพราะยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน แต่อะไรที่มันเกินเลยก็ต้องได้รับผลกรรมตรงนั้น หลักฐานที่เขาอ้าง ไหนครับหลักฐาน ทำไมมันมีแต่การมาพูดไปเรื่อยแบบนี้ เห็นว่าเราเงียบทำไมต้องมารังแกเรา คุณบอกผมว่าคุณอยากสงบแต่ทำไมคุณถึงไม่หยุดสักที คุณบอกว่าไม่ได้ติดใจอะไรกับผม แต่ทำไมถึงต้องโจมตีผมทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยทำอะไร เพื่ออะไร ต้องการอะไร ถ้ามีก็เอาออกมาเลย”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามองว่าตัวเองเป็นเหยื่อใช่มั้ย? ฟิล์ม บอก “ใช่ครับ 4 เดือนแล้ว ไหนล่ะสิ่งที่เขาพูด บอกว่ามีหลักฐานก็เอาออกมา รอดูอยู่เหมือนกัน สังคมก็จะได้เห็นกัน ถ้าวันหนึ่งความจริงมันปรากฏ เพราะวันนี้ผมกับอาจารย์ประมาณก็วิ่งหาความจริงกันอยู่และส่งทุกความจริงให้ทุกหน่วยงานดูหมดแล้ว ที่เห็นเงียบ ๆ ผมส่งทุกหลักฐานให้ทุกหน่วยงานดูหมดแล้ว เอาเป็นว่าเดี๋ยวรอวันนั้นที่มันปรากฏ จะมีใครบ้างครับที่เห็นใจผม ผมโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ผ่านไป 1- 2ปี ค่อยมาเห็นใจผม แต่ไม่เป็นไรครับผมรอได้ เดี๋ยวรอวันนั้นที่ความจริงมันปรากฏ เห็นใจผม พ่อแม่ผมและสิ่งที่ผมโดนด้วยนะครับ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
