ณวัฒน์ ขอบคุณที่ยังเห็นความยุติธรรม ดีเอสไอ ย้ำไม่ใช่การรื้อคดีแตงโม แต่เป็นเรื่องใหม่

สืบเนื่องจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เปิดประชุมคดีแตงโม ภัทรธิดาเป็นนัดแรก ในวันนี้ (24 ม.ค. 65) เวลาประมาณ 14:00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการ ฯ แจ้งวัฒนะ โดยจะมี “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล – อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต – พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ พร้อมด้วยผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 ร่วมงานแถลงด้วย


โดยหลังจากการประชุม “ณวัฒน์” ได้เปิดเผยว่า การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเริ่มเปิดเลขในการสืบสวนสอบสวน ถือเป็นความสำเร็จจุดเล็ก ก่อนจะบอกว่า นี่ยังไม่ได้รับเป็นคดี รับสืบสวนสอบสวนก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจแล้ว เพราะกุญแจดอกแรกได้เปิดเพื่อที่จะได้หาหลักฐานตามข้อสงสัย ถ้าได้ครบทุกมิติก็จะออกเป็นหมายคดี ได้ฟังจากคณะพันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษก็ทำให้ตนรู้สึกมั่นใจ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ในการเริ่มนับหนึ่งใหม่ ขอให้ลุล่วงไปด้วยดี ขอขอบคุณที่ยังมีคนเห็นความยุติธรรมคือแก่นสารสำคัญที่สุดโดยที่จะไม่ละเว้นในกรณีใดก็ตาม เราจะได้รู้ข้อเท็จจริงที่จะนำพาไปสู่คดีใหม่หรือไม่ในเร็ว ๆ นี้

ด้าน “อ.ปานเทพ” เผยว่า วันนี้มาเพื่อแสดงความขอบคุณต่อความคืบหน้าในคดีกับทาง DSI ตนมีความรู้สึกมีความหวังมากยิ่งขึ้น พวกเรายังคงแสดงจุดยืนว่าเราแสวงหาความเป็นจริง จากที่ DSI ได้มีการแจ้งความคืบหน้า ได้เปิดประชุมแล้ว ซึ่งจะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล โดยตนก็มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือในทุกกรณี
พร้อมบอกว่า พยานคือสิ่งที่สำคัญ ซึ่งเลือนรางไปตามกาลเวลา อยากให้ผู้ที่รู้เห็น ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เร็วและลึกที่สุด ก่อนจะย้ำว่า การสืบสวนตอนนี้เน้นไปที่ประเด็นการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร ซึ่งไม่กระทบต่อประเด็นแห่งคดีหลัก กรมสอบสวนคดีพิเศษรู้ขอบเขตอำนาจทางกฎหมายชัดเจนดี หลังจากนี้ทางภาคประชาชนจะมีการทดสอบเรื่องแสง และเงา พร้อมย้ำว่า ผลการทดสอบการตกเรือที่ผ่านมา ไม่ใช่ละครเกรดบี แต่ทำให้เห็นแล้วว่ากลับมีการเริ่มต้นการหาข้อเท็จจริงของแตงโมต่อไป


ภายหลังการประชุมสืบสวนคดีแตงโม นัดแรก นานกว่า 2 ชั่วโมง พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ในฐานะผู้รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนคดีแตงโม เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติเตรียมเชิญผู้ร้อง นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง และทราบว่าทางผู้ร้องอยู่ระหว่างการประสานพยานบุคคลอื่น ๆ เพื่อเข้าให้ข้อมูล รวมไปถึงพยานสำคัญ โดยทางดีเอสไอจะมีมาตรการคุ้มครองพยานเพื่อให้บุคคลกล้าเข้ามาให้ปากคำด้วย

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นมาเกือบ 3 ปีแล้ว เป็นไปได้ที่ข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ อาจเลือนลางหายไปได้ จึงฝากประชาชน พลเมืองดีที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเกิดเหตุ แจ้งข้อมูล เบาะแส เพื่อนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ยืนยันการดำเนินการสืบสวนจะไม่ให้กระทบกับสำนวนคดีหลักที่อยู่ในระหว่างกระบวนการชั้นศาล เรียกว่าจะเป็นการสืบสวนนอกสำนวนคดีอาญาที่ดำเนินการอยู่แล้วทั้งหมด พร้อมย้ำว่าไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี เป็นการสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเดิมทั้งสิ้น เป็นเรื่องใหม่ ตามที่ผู้ร้องได้ร้องว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและขอให้ดีเอสไอตรวจสอบกลุ่มบุคคล แต่หากสืบสวนแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ดำเนินการต่อไป

ส่วนจะมีการยุติการสืบสวนก่อนจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ หากสืบสวนแล้วพบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอนั้น กรณีนี้ หากการการสืบสวนของดีเอสไอ พบว่าการกระทำผิดดังกล่าวอยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ก็สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้โดยอัตโนมัติด้วยอำนาจของอธิบดีดีเอสไอ แต่ในกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว ถ้าจะรับเป็นคดีพิเศษก็ต้องเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพราะการสืบสวนคือการแสวงหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเท่านั้น เพื่อเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่.-ไนน์เอ็นเตอรเทน


ภาพ : melonp.gallery

เข้าชม 185 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม