ทนายพัฒน์ เผยคู่กรณี จูน เพ็ญชุลี มีสิทธิ์ยื่นโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน

กรณี “จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว” อดีตภรรยา “หนุ่ม กะลา” ได้ยื่นฟ้องคู่กรณีคนดัง มีส่วนทำให้ชีวิตครอบครัวต้องจบลง ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้คู่กรณี จ่ายเงินกว่า 4 ล้านชดเชยให้ จูน แต่คู่กรณีและทนายได้ยื่นอุทธรณ์ว่าไม่ได้เป็นจริงตามข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่ จูน ชนะคดี เพราะคู่กรณีไม่ได้ไปศาล อีกทั้งการเรียกเงิน 4 ล้านมองว่าสูงเกินไป


ล่าสุดเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค. 67) “จูน เพ็ญชุลี” ได้มอบหมายให้ ทนายพัฒน์ ทนายเมียหลวง ไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ที่ศาลจังหวัดลพบุรี พร้อมอัปเดตลงโซเชียลว่า “ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จ่าย 4 ล้านบาทเช่นเดิม #คดีจูนเพ็ญชุลี” ล่าสุด ทนายพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า “เมื่อวานเป็นนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ เกี่ยวคดีที่เกี่ยวกับครอบครัว เวลาที่ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ทางคู่ความไม่พอใจคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ก็จะมีการอุทธรณ์ ให้ศาลระดับศาลชั้นอุทธรณ์ที่พิจารณา ซึ่งคดีเกี่ยวกับครอบครัวเนี้ย จะอยู่ภายใต้อำนาจของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ เมื่อวานนี้มีผมเป็นทนายโจทก์ และเสมียนทนายจำเลยไป ไม่มีคู่กรณีไป

คือตามกฎหมายเนี้ย ถ้าทางผู้ที่แพ้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์ยังไม่พอใจ หรือว่ายังมีข้อโต้แย้งกับคำพิพากษาของศาลชั้นอุทธรณ์ ก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นขออนุญาตฎีกาต่อศาลฎีกาได้ ซึ่งถ้าศาลฎีกาอนุญาต ศาลฎีกาก็จะวินิจฉัยคดีอีกรอบหนึ่ง ว่าเห็นด้วยกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไหม หรือว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ไม่อนุญาตให้ฎีกา คดีนี้ก็จะจบและก็ต้องถือคำพิพากษาของชั้นที่สุดก็คือศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ตามกฎหมายเนี้ยเขามีสิทธิ์ยื่นได้ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งในช่วงนี้ก็อยู่ในระยะเวลาของกฎหมายที่เขายื่นหรือไม่ยื่น ต้องไปสอบถามทางตัวของคู่กรณี “คือทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ศาล ว่าจะวินิจฉัยว่ายังไง เราไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่า ศาลท่านจะวินิจฉัยยังไง ซึ่งพยานหลักฐานมันก็ใช้ชุดเดิม ที่มีในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์อยู่แล้ว มันไม่ได้มีการเพิ่มพยานหลักฐานกัน ก็อยู่ในสำนวนตามที่มี” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 46 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม