จากปมร้อนระอุในโลกโซเชียลเกี่ยวกับกรณีฉากวางยาแมวดำในละคร แม่หยัว ทำให้แมวที่เขาฉากมีอาการกระตุก ตัวเกร็ง พร้อมทั้งมีการขย้อนอาหารออกมา แม้ทางผู้ผลิตและทีมงานชี้แจงว่าการถ่ายทำฉากดังกล่าวมีการวางยาสลบแมวเพื่อถ่ายทำที่สมจริง ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ หลังถ่ายทำแมวตัวที่แสดงก็ปกติดี แต่ซีนดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับคนในสังคมที่ท้วงติงการกระทำดังกล่าวว่าเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์ เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชียล จน #แบนแม่หยัว ติดเทรนด์ X ในชั่วข้ามคืน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(15 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ที่ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ตุนาค ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ มอบหมายให้สัตวแพทย์ กลุ่มสัตวแพทย์บริการ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ ตรวจสุขภาพแมวจากละครเรื่องแม่หยัว ชื่อ “สำลี” ซึ่งเป็นแมวในละครแม่หยัว ที่ถูกวางยาสลบ ตรวจสอบพบเป็นแมวเพศผู้ อายุ 5 ปี น้ำหนัก 5.5 กิโลกรัม มีสีดำปลอดทั้งตัว ทำหมันแล้ว สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายโดยทั่วไป (physical examination) ตรวจเลือดดูค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ตรวจการทำงานของตับและไต รวมทั้งเอกซเรย์ช่องอกเพื่อดูความผิดปกติของปอด ตรวจวัดขนาดของหัวใจและเอกซเรย์ช่องท้อง ณ สถานพยาบาลสัตว์ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ ปทุมธานี
สัตวแพทย์ชัยวลัญช์ เผยว่า ผลการตรวจสุขภาพของแมวสำลีพบว่าแข็งแรงสมบูรณ์ ผลเลือดปกติ ตับไต และปอดปกติ เอกซเรย์ช่องท้องไม่พบความผิดปกติใด ๆ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญที่กองถ่าย ระบุว่าดูแลตอนวางยาสลบเป็นสัตวแพทย์หรือไม่? สัตวแพทย์ชัยวลัญช์ กล่าวว่า คนที่วางยาแมวไม่ใช่สัตวแพทย์ จากการสอบถามพบเป็นโมเดลลิ่งดูแลสัตว์ของกองถ่าย ถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ถือว่ามีความผิดหรือไม่ สัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ชี้แจงว่าบทสรุปของรูปคดีจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนตัดสินอีกครั้ง ผลน่าจะออกมาเร็ว ๆ นี้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ขอบคุณที่มาจาก : มติชน , FB : Chaiwalun Tunak