สร้างความกังวลและความกลัวให้นักร้องสาวดอกหญ้าในป่าปูน ต่าย อรทัย ไม่น้อย หลังถูกมือดีแอบอ้างเป็นทีมงานและใช้ชื่อผู้จัดการส่วนตัว สร้างเอกสารเท็จไปใช้ในการหลอกลวง ทําให้เกิดความเสียหาย โดยวันที่ 2 ต.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าตัวและผู้จัดการได้เดินหน้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจไว้แล้ว ล่าสุด ต่าย เปิดใจว่า เรื่องเกิดขึ้นกับพี่เจี๊ยบ ผู้จัดการของตน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการรับงานให้ตนเต็ม ๆ ไม่เข้าใจว่าทำถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเหมือนกัน จึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งความ แม้ตอนนี้จะยังไม่มีความเสียหายมาถึงตนโดยตรง แต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะในอนาคตไม่รู้ว่ามิจฉาชีพจะเข้ามาถึงตัวตอนไหน
ก่อน ต่าย จะเล่าถึงงานเพลงล่าสุด ผู้หญิงหัวใจอีสาน และ ผู้สาวซิ่นมัดหมี่ บอกดีใจที่เป็นไวรัลในโลกโซเชียล แม้ผลงานจะเป็นที่พูดถึง แต่ลูกทุ่งคนดังก็มองว่าอาชีพในวงการบันเทิงไม่มีอาชีพที่มั่นคงถาวร มันขึ้นอยู่กับการทำผลงาน เลยทำธุรกิจเสริมอย่างการเปิดโฮมสเตย์ Nathai นาต่าย และเปิดธุรกิจสตูดิโอเพื่อรองรับความเสี่ยงไว้ด้วย ซึ่งต้องแบ่งเวลาให้กับธุรกิจต่าง ๆ อย่างดี และต้องมีทีมงานช่วยดูแลด้วย ยอมรับว่ามีปัญหาเข้ามารายวัน แต่ถือว่าสนุกที่ได้แก้ปัญหานั้น ๆ ดีใจที่เห็นเงินเข้าหลายบัญชี แต่เงินก็ออกหลายบัญชี เพราะมีสิ่งที่จำเป็นหลายอย่างต้องใช้จ่าย
ก่อนจะเล่าต่อว่าได้ยินมาเสมอว่าอาชีพนักร้องไม่มั่นคง ในทางตรงข้ามอาชีพที่ดูมั่นคงมากแค่ไหน หากบริหารไม่ดีก็อาจจะไม่มั่นคงได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องรักษาวินัย รักษาคุณภาพ รวมถึงประพฤติตนให้ดี เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพนี้ไปได้นาน ๆ และถึง จะทำอาชีพหลายอย่างก็ไม่คิดเกษียณอายุจากการร้องเพลง จะร้องเพลงจนกว่าจะเดินทางไปร้องเพลงไม่ไหว จะพยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อสื่อสารทางเสียงเพลงกับแฟน ๆ ให้ได้ ส่วนประเด็นเรื่องการรับงานโดยไม่ให้กระทบกับชื่อเสียง ลูกทุ่งคนดังบอกต้องขอบคุณทางค่ายที่ช่วยสกรีนงาน จึงไม่ค่อยมีความผิดพลาด ตั้งแต่ทำงานยังมา 22 ปียังไม่มีงานไหนที่สร้างผลกระทบให้กับตนและเจ้าตัวก็ไม่กลัวที่จะโดนผลกระทบ เนื่องจากโซเชียลและข่าวสารต่าง ๆ เตือนให้คอยสร้างความระวัง ลั่น!เงินก็อยากได้ แต่ต้องคำนึงในหลาย ๆ ด้าน หากทำแล้วจะมีผลไม่ดีกับตัวเองก็ต้องปฏิเสธผู้ว่างจ้างแบบนุ่นนวล.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ขอบคุณภาพ tai_orathai