บอสพอล ขอเลื่อนชี้แจงไปอีก 15 วัน พนง.สคบ. ลั่น ไม่อนุญาต! จ่อส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินคดี อาจเพิกถอนใบอนุญาต ดิไอคอนกรุ๊ป

วันนี้ (16 ต.ค. 67) นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเชิญนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท The icon group จำกัด มาชี้แจงในวันนี้ ว่า การที่ สคบ. ส่งหนังสือเรียกบอสพอล มาให้ข้อเท็จจริงในวันนี้เวลา 10:00 น. ผลปรากฏว่า ทนายความของบอสพอล พยายามติดต่อมาว่า วันนี้บอสพอลไม่มา และขอเลื่อนออกไปอีก 15 วัน แต่พนักงานสอบสวนของ สคบ. แจ้งกลับไปอย่างชัดเจนว่า ไม่อนุญาต


สำหรับขั้นตอนต่อไป เราจะส่งกรณีที่บอสพอลขัดหนังสือเรียกของ สคบ. ไปเปรียบเทียบกับตำรวจ โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ทนายความของบอสพอล ก็เลี่ยงขอมาในช่วงบ่ายวันนี้แทน แต่เราแจ้งไปแล้วว่า กรณีนี้เป็นเหตุเร่งด่วน และจำเป็นต้องเรียกมาสอบข้อเท็จจริงภายในวันนี้ตามเวลาที่แจ้ง และไม่ให้มีการเลื่อนออกไป


ส่วนสาเหตุที่บอสพอลแจ้งกับ สคบ. ถึงการไม่มาในวันนี้ เพราะ เจ้าตัวไม่พร้อม แต่ไม่ได้แจ้งเหตุผล เพียงแต่บอกว่าขอเลื่อนเป็นช่วงบ่ายวันนี้ โดยจะส่งผู้รับมอบอำนาจมาแทน แต่เรามองว่า ในข้อเท็จจริง เราควรได้รับคำชี้แจงจากปากของบอสพอลโดยตรง

สคบ. ส่งหนังสือเชิญ บอสดารา เตรียมประชุมชี้ขาด บอสพอล ใบอนุญาต ดิไอคอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเชิญ 3 บอสดารา มาในวันพรุ่งนี้(17ต.ค.) นายจิติภัทร์ กล่าวว่า เป็นเพียงหนังสือเชิญ ไม่ใช่การส่งหนังสือเรียกเหมือนกรณีบอสพอล และจะต้องดูเหตุผลความจำเป็น หากพรุ่งนี้ 3 บอสดาราไม่มา ก็จะพิจารณาออกหนังสือเรียกเหมือนกรณีนี้

ส่วนในเรื่องคดี นายจิติภัทร์ เราได้สืบข้อเท็จจริงมาบางส่วนแล้ว เพื่อมาประกอบการพิจารณา ส่วนหลักฐานพยานที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา การฉ้อโกงประชาชน จะสรุปตามพยานหลักฐานที่ได้ และส่งข้อมูลให้ตำรวจ ปคบ. ต่อไป


ขณะที่การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจการขายตรง อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิกถอน ซึ่งจะมีการพูดคุยในที่ประชุมช่วงบ่ายวันนี้ รวมถึงความผิดตามมาตรา 19 ที่จะเสนอเข้าคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงว่า มีความผิดหรือไม่

เมื่อถามว่า 3 บอสดารา ที่มีหนังสือเชิญในวันพรุ่งนี้ จะมีการพูดคุยในประเด็นใดบ้าง นายจิติภัทร์ ระบุว่า จะพูดคุยถึงการประกอบธุรกิจว่า กลุ่มบอสดาราเป็นเครือข่ายร่วมด้วยหรือไม่ และมีผลประโยชน์เป็นอย่างไร ซึ่งเราต้องไปดูว่าเข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยถึงเทวดา สคบ. คอยคุ้มครองอยู่ ว่ามีการสอบสวนไปถึงไหนแล้วนั้น นายจิติภัทร์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ และจะมีการสอบย้อนหลังตั้งแต่การเริ่มธุรกิจของบริษัท

ส่วนเพิกถอนโล่รางวัลของ สคบ. ในปี 64 นั้น นายจิติภัทร์ ระบุว่า ทางกองขายตรง ได้ตั้งเรื่องนี้ส่งเข้าที่ประชุมชุดใหญ่แล้ว และได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสอบว่าบริษัทนี้ได้นำโล่ไปใช้ประโยชน์ ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวจากที่ประชุมการคลังฯ ว่าความผิดเกี่ยวกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจะไม่เข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.ก. กู้ยืมเงินที่มาจากการฉ้อโกงประชาชนนั้น นายจิติภัทร์ กล่าวว่า องค์ประกอบนี้จะต้องดูที่พนักงานสอบสวน เพราะ สคบ. จะดูเฉพาะ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดตรง ที่อนุญาตให้ขายของออนไลน์ แต่นำไปทำในลักษณะขายเป็นเครือข่าย และทำให้เกิดความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่เราจะเสนอเพิกถอนบริษัทนี้ไปก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการในฝ่ายกฎหมายของ สคบ.

ทั้งนี้ หากนายทะเบียนมีคำสั่งเพิกถอนก็สามารถบังคับใช้ได้โดยทันที โดยในช่วงบ่ายวันนี้ที่ประชุมจะมีการพูดถึงในกรณีเพิกถอนอีกด้วย

ถามว่า ในกรณีที่บอสพอลไม่มาจะทำให้การประชุมพิจารณาเพิกถอนในช่วงบ่ายวันนี้ล่าช้าออกไปหรือไม่ นายจิติภัทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องการขอจากบอสพอล หรือในส่วนต่าง ๆ สคบ.ก็ดำเนินการอยู่ต่อเนื่อง แต่เหตุจเป๋นเร่งด่วนตอนนี้ ก็อาจะมีเหตุอื่นก็ได้ โดยตอนนี้กำลังพิจารณา

ภาพ : วรัตน์พล วรัทย์วรกุล 

เข้าชม 27 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม