บอสพอล เตรียมเยียวยาผู้เสียหายด้วยเงิน – ชีวิต ขอโทษดาราแต่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว มั่นใจบริษัทไม่ผิด พ.ร.บ.ขายตรง

เป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตากันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีที่ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีเหล่าดาราแถวหน้าเป็นพรีเซนเตอร์และนั่งแท่นผู้บริหาร อาทิ บอย ปกรณ์ ,​ กันต์ กันตถาวร ​มิน พีชญา แซม ยุรนันท์ และอีกมากมาย ดำเนินธุรกิจขายตรง สร้างดาวน์ไลน์ ขายฝันให้ประชาชนมาร่วมลงทุน แต่สุดท้ายขายสินค้าไม่ได้ เงินหด ทุนหาย จนหลายคนคิดจบชีวิตเพราะหมดตัว และกำลังเป็นคดีความใหญ่โตขณะนี้ มีผู้ร้องเรียนถึงเกือบ 800 คาดว่า อาจจะมียอดความเสียหายถึง 300 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้(14 ต.ค.67) บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) เปิดใจทั้งน้ำตาผ่านรายการโหนกระแส พร้อมเผชิญหน้าผู้เสียหายเป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวเผยว่าจริง ๆ ได้อยากมี แต่ต้องมาเพื่อชี้แจงความจริง คิดว่ามาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ดีกว่า ก่อนจะบอกว่าไม่เคยทราบเรื่องราวของผู้เสียหายมาก่อน ไม่เคยได้รับการติดต่อเลย แต่ได้ฟังเรื่องราวของผู้เสียหายที่เสียชีวิตด้วยตัวเองแล้วรู้สึกเสียใจมากที่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตเขา ถ้ารู้ก็คงไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น หลังจากนี้ก็ต้องเยียวยา ต้องรับผิดชอบ ด้วยวิธีการที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละบุคคล เอาผู้เสียหายมาวิเคราะห์ว่าใครเสียหายมากน้อยแค่ไหน กลุ่มไหนเปาะบางจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือเร่งด่วน


บอสพอล กล่าวต่อทั้งน้ำตาว่า “จะพยายามรับผิดชอบให้เต็มที่ที่สุด จนกว่าจะไม่มีอะไรเหลือ หรือจนกว่าที่ผมจะตาย ไม่ได้เตรียมตัวไม่เหลืออะไร แม้กระทั่งการมานี่งในรายการก็ไม่ใช่สิ่งที่เตรียมตัว การที่พี่หนุ่มถุามว่าเขาเสีบหายขนาดนี้ทำยังไงให้เขา ก็จะเตรียมเยียวยาวทุกอย่างเพื่อความยุติธรรมสำหรับเขา จะช่วยจนบาทสุดท้าย ผมยังเหลือชีวิตอยู่ให้ผมไปทำงานอะไรหามาช่วย ผมก็จะช่วยครับ” จากนั้น หนุ่ม กรรชัย ได้ถามว่า “ถ้าวันนี้ต้องเข้าไปอยู่ข้างในเหมือนแม่ตั๊กขายทองออนไลน์ ใครจะเป็นคนเมเนจเงินชดใช้ผู้เสียหาย เพราะทุกอย่างจะถูกฟีดตามกระบวนการกฎหมาย? บอสคนดังตอบกลัวว่ามา “ผมจะทำจนนาทีสุดท้ายที่ผมทำได้ แต่หลังจากนั้นผมเชื่อว่ารัฐจะมีวิธีจัดการ ถ้าจัดการได้เหมาะสมก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย จริง ๆ ผมยอมแพ้มานาน ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้ว่าชีวิตผมสู้อยู่กับอะไรก็ไม่รู้ (ร้องไห้สะอึกสะอื้น) ผมยอมแล้วครับ ก่อนเข้ารายการพี่หนุ่มสอนให้ผมพูดความจริง ผมพูดความจริงก็เลวอยู่ดี ผมรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ ผมไม่ได้อยากมา แต่ผมพร้อมที่จะตอบ ไม่มีแผนอะไรสำหรับชีวิตแล้ว มันหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมสู้อยู่กับอะไร”

ดิไอคอนถูกสร้างมาจากอะไร? มีช่วงที่โลกเปลี่ยนผ่านมาขายของออนไลน์เยอะขึ้น เห็นรายแบรนด์ทำ ก็เลยลองศึกษาดู เราอยากจะทำให้มันพัฒนาและมีระบบซัพพอร์ตให้มันดีขึ้น จดการตลาดแบบตรง ทำธุรกิจตามที่จดคือตลาดแบบตรง คือขายผ่านทางออนไลน์ ขายปลีกและขายส่งให้ตัวแทน แต่ตัวแทนจะขายช่องทางไหนจะออนไลน์หรือหน้าร้านสามารถเลือกขายได้ตามปกติ ผมเป็นบิ๊กบอส แล้วก็มีบอสรองลงมา ช่วงแรกมีเยอะ ช่วงที่เซ็ตอัปบริษัทมีคนสนใจ ก็มีสมัครเข้ามาเป็นบอส 20 กว่าคน สุดท้ายก็เหลือ 10 คน ซึ่ง บอส จริง ๆ คือตัวแทนจำหน่ายติดบริษัท ซึ่งแต่ละคนก็จะไปขายของและทำการตลาดต่อ อยู่ที่ว่าเขาจะเปิดรับตัวแทนมากระจายสินค้าต่อ ส่วนคำว่า บิ๊กบอส ที่เขาเรียกมันคือคำเรียกที่ให้เกียรติผมครับ ต่อให้มีแม่ทีมหรือบอสกี่คน แต่เวลาเปิดบิลต้องเปิดกับบริษัท เพราะบริษัทเป็นผู้ผลิต บริษัทก็เตรียมสินค้าไว้ในคลัง ถ้าเขาฝากก็จะอยู่ในคลัง แต่ถ้ากดก็จะเอาไปส่งตามบ้านลูกค้า ปีแรก ๆ มีสินค้าตัวเดียวคือคอลลาเจน ต่อมาก็มีกาแฟ แล้วก็ดูตลาดอาหารเสริมว่ามีตัวไหนที่น่าสนใจ จนตอนนี้มี 14 ตัว ยูสเซอร์ที่ซื้อของกับผมมี 3-4 แสนคน ส่วนคนที่ซื้อสินค้าก็มีทั้งคนที่เป็นยูสเซอร์และคนข้างนอก ก่อนที่คนจะซื้อของ ผมบอกตลอดว่าให้ทดลองก่อน เพราะเวลาแนะนำสินค้าจะได้ออกมาจากความรู้สึกของคนที่ใช้จริง ๆ


สำหรับบอสรอง ได้ค่าตอบแทนจากผลกำไรจากการขายของ คนไหนเก่ง ขายเก่ง ขายได้ยอดเยอะก็ได้รายได้เยอะ คนไหนเก่งน้อยก็ได้รายได้น้อย คนที่ซื้อรถหรูเขาซื้อได้จริง ๆ แต่กว่าจะได้แบบนั้นเขาก็ตั้งใจทำจริง ๆ และผ่านอะไรมาเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ มันต้องมีความวิริยะอุตสาหะ ส่วนการเอาโค้ชเข้ามาสอน สอนยิงแอด ขออธิบายแยกกันว่าการโฆษณาคือการเรียนออนไลน์ค่าเรียนน้อย ๆ เขาก็ยิงแอดไปมันก็จะเห็นโดยทั่ว คนที่สนใจอยากเรียนรู้การทำธุรกิจออนไลน์จริง ๆ เขาก็ตัดสินใจเข้ามาเรียน เท่าที่ทราบจะมีการสอนจริง ๆ แต่แต่ละคอร์สสอนไม่เหมือนกัน เคยลองสุ่มเข้าไปดู เป็นคอร์ส 3 วัน วันแรกเขาสอนจริง ๆ วันที่ 2 มีการสอนแต่เริ่มมาการไทอินสินค้า แล้วก็กลับมาสอนต่อ พอวันสุดท้ายโปรดักไทอินจะทำตอนท้ายสุด แล้วก็ถามคนในคลาสว่าใครชอบ ไม่ชอบอะไรตรงไหน ก่อนจะพูดว่าถ้าใครสนใจแต่ยังไม่มีสินค้าให้ติดต่อเข้ามา จะบอกว่าป้ายยามั้ย ผมมองว่ามันเป็นการนำเสนอข้อมูล มันเป็นอะไรที่กลาง ๆ พูดเป็นทางเลือกว่าจะขายหรือไม่ขาย และพอจบคอร์สจริง ๆ พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่เอา มี 100 คน อาจจะมีสัก 5 คนที่สนใจ 6-7 ปี มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะมียอดขายหลักพันล้านจากคน 5 % ในคอร์สเหล่านี้ ยูสเซอร์ 4 แสน สั่งกาแฟ 10 ลัง 2.5 แสน ถ้าสั่ง 3 แสนยูสเซอร์เฉลี่ยประมาณ 9 ล้านลัง ถามว่ามีอยู่จริงมั้ย มีอยู่จริงแต่ไม่ได้อยู่พร้อมกัน เพราะในข้อเท็จจริงเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน กรณีที่ยูเซอร์สั่งซื้อสินค้าชนิดเดียวกันจำนวนมาก ๆ ในวันเดียวกัน มันไม่มีทางเกิดขึ้น วันที่ตำรวจเข้าตรวจบริษัทแล้วเห็นว่าสินค้ามีอยู่น้อย เพราะหลังจากที่เป็นข่าวยูสเซอร์กดเบิกสินค้าออกจากคลัง ความต้องการจาก 100 % เป็น 1,000 % เราจึงต้องสั่งโรงงานผลิตสินค้ามากขึ้น ในส่วนของนักแสดงเข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะพรีเซ็นเตอร์เข้ามาพรีเซนต์สินค้า ดูว่าสินค้าเหมาะกับดาราท่านไหน ก็ติดต่อเข้าไป ถ้าเขาสนใจก็ทำงานด้วยกัน แต่ถ้าเขาไม่สนใจก็ไม่ได้ทำงานด้วยกัน ในสัญญาพรีเซ็นเตอร์ไม่มีการบอกให้ชวนคนมาร่วมลงทุน สำหรับคลิปวิดีโอที่ กันต์ พูดแนะนำคนมาขายสินค้าออนไลน์ ผมมองว่ามันเป็นการชวนมาทำธุรกิจ คือการซื้อสินค้ามาขาย ผมไม่มีความรู้แชร์ลูกโซ่ เพราะผมไม่ได้ทำแบบนั้น ที่ กันต์ พูดแนะนำคนมาขายสินค้าออนไลน์ด้วยระบบที่ผมวางไว้ ผมไหว้วานให้เขาพูดครับ ส่วนคุณมิน พีชญา ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าทุกตัว ชวนลงทุนมั้ย ผมไม่ทราบ ผมว่ามันอยู่ที่บริบทมากว่าว่า ณ คลิปนั้นมันเป็นยังไง วิญญูชนเขาสามารถรับรู้ได้ว่ามันคืออะไร เพราะมันเคลียร์กันตั้งแต่สัญญาแรกว่าผมมีขอบเขตให้เขาทำอะไรได้บ้าง ถ้ามันมากหรือน้อยกว่านั้นผมคือผิดสัญญา น้อง ๆ เขาโดนคดีความตอนนี้ ผมสงสารน้อง ๆ มากเลย เมื่อวานเป็นวันเกิดคุณพ่อน้องกันต์ น้องเครียดมากครับ

หนุ่ม กรรชัย กล่าวต่อว่า “ไม่เกิน 3-4 วันจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ ณ วันนี้คุณไม่ได้เป็นผู้ต้องหาของคดีความอย่างเดียวแต่เป็นผู้ต้องหาของสังคมด้วย” บอสคนดังตอบกลับมาว่า “ถ้าในมุมของสังคมผมโดนประหาร ผมตายไปแล้วครับ” อย่างเคสของพรีเซ็นเตอร์ ผมได้ไหว้วานขอให้พูดชักชวนบ้าง เพราะถ้าขอทั้งหมดมันไม่ได้อยู่ในขอบเขตสัญญา ผมก็เกรงใจผม เราจ่ายเขาไปแค่นั้น สคริปต์ในการพูดในคลิปของดารามีอยู่แล้วครับ ฝ่ายคอนเทนต์จะเขียนโดยรวมและเขียนบูเรส ซึ่งผมก็ต้องไปไหว้วานว่าเขาสะดวกใจพูดให้มั้ย ณ วันนี้ตำรวจ ยังไม่ได้มีมากล่าวหาว่าอะไร แต่ก็เห็นทนายรวมผู้เสียหายไปแจ้งความ คลิปเสียงติดสินบนเทวดา สคบ บอสคนดังยอมรับว่าเป็นเสียงของตัวเอง คุยกับน้องคนหนึ่ง คำว่าเทวดาที่พูดคือเทวดาจริง ๆ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เวลาไปที่ไหนก็แล้วแต่ต้องไหว้เจ้าที่เจ้าทางบ้าง แต่สถานที่ราชการมันใหญ่มาก ไม่ใช่แค่เจ้าที่เจ้าทาง แต่ก็มีศาล มีเทวดา ผมก็เชื่อว่าเทวดาท่านกินบุญ ยืนยันว่าไม่ได้การเอาเงินไปยัดใคร แต่แชร์ความเชื่อส่วนบุคคล เทวดาก็กินบุย คนก็กินบุญ เทวดาเขาทำบุญไม่ได้แล้ว แต่คนทำได้ เราก็ต้องอุทิศให้เขา ส่วนกรณีวิ่งเต้น มันว่ามันไม่ต้องวิ่งเต้นอะไร เวลาเราไปติดต่ออะไรเขาก็ทำให้อยู่แล้ว ส่วนความสนิทกับอดีตคนใหญ่ใน สคบ มีภาพไปทำบุญด้วยกัน ผมก็ ถามว่าเคยถูกเรียกรับเงินมั้ย ประจำครับ ทนายบ้าง นักร้องเรียนบ้าง นักการเมืองบ้าง ไม่อยากไปก้าวล่วง ผมไม่ชอบทำให้ใครเดือดร้อน เขาไถผม ผมโง่ยอมให้เขาไถเอง เขาทำกับผมก็ให้มันจบที่ผมครับ

สำหรับคลิปดีดนิ้วแล้วจบ คนในคลิปคนหนึ่งเป็นผมจริง ๆ แต่อีกคนก็เป็นพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง ตอนนั้นผมถูกตีโดยนักร้อง มาบอกว่าจะร้องเรียนในหัวข้อเหล่านี้ ถ้าไม่อยากเดือดร้อนต้องจ่ายเท่านั้นเท่านี้ ผมยอมรับว่าจ่ายให้คนในคลิป 1 แสนบาทจริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกเดือน แต่ในคลิปคือผมโดนแบบนั้นก็คิดว่าจะทำยังไงกับคนเหล่านี้ เพราะถ้าเรื่องนี้เขาร้องแล้วเราไม่หวั่นไหว ก็มีเรื่องอื่นมาอีก เราก็ต้องเสียเงินเยอะ ที่ยอให้เพราะไม่อยากมีปัยหากับใคร ผมอาจจะไม่ใช่คนสู้คน ถามว่าที่ให้ไปเพราะกลัวโดนเปิดแผลมั้ย ก็ประมาณนั้นครับ ถามว่าผมมีแผลมั้ย มันไม่มีใครเพอร์เฟกต์ ผมก็คิดว่าเอ๊ะหรือมันจะเป็นอย่างที่เขาขู่มั้ย ผมไม่อยากมีปัญหากับใครก็ให้เงินเขาไปแล้วก็กลับมาทำงานของเรา เพราะคิดว่าเขาจะเรียกเราอีกเท่าไหร่ แล้วถ้าไม่จ่ายจะเป็นยังไง ผมก็รู้แล้วว่าไม่จ่ายเป็นยังไง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะไม่จ่ายเลยมีวันนี้ เพราะความจริงแล้วมีตัวแทนเอาของไปตัดราคาทำให้ตัวแทนคนอื่นเดือดร้อน พอยื่นโนติสต์ไปว่าจะฟ้อง เขาก็จะส่งเรื่องไปยังเพจต่าง ๆ คลิปนี้ประมาณ 2 ปีแล้วครับ ผมว่าคนเราทำธุรกิจมันมีแผลทุกคนอยู่แล้ว วันแรก ๆ ที่ผมทำธุรกิจก็มักจะโดนแบบนี้ ผมไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร ก็จะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้


ถามว่าศึกษาข้อกฎหมายขายตรงมั้ย? ศึกษาตามที่ทนายเขาให้ครับ ชักชวนให้มาลงทุนซื้อสินค้า สต๊อกสินค้า คิดว่าไม่เข้าพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรงพ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดําเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรงหรือในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคํานวณจากจํานวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น และ มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๙ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าแสน ผมว่าบริษัทไม่เข้าข่ายความผิดนี้นะครับ หลังจากนี้ผมจะตั้งศูนย์เยียวยาผู้เสียหายที่บริษัทแล้วพิจารณาว่าแต่ละคนซื้ออะไรไปบ้าง เดือดร้อนเสียหายอะเไร มีปัจจัยส่วนตัวยังไง แล้วจะมีหลักเกณฑ์พิจารณาช่วยเหลือยังไง ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการครับผิดถูกว่ากัน ส่วนตอนต้นรายการที่มีอาการแบบนั้น เพราะเพิ่งได้ทราบเรื่องของผู้เสียหายรู้สึกเสียใจและสงสารพี่ ๆ เขาครับ การที่ผมพูดว่าไม่อยากมาออกรายการ แต่มาเพราะกลัวจะตายก่อน คือผมไปไล่ดู เห็นลักษณการกระทำของพี่หนุ่มแล้วผมกลัว แต่มองแล้วน่าจะเป็นคอนเซ็ปต์รายการ ถามว่าผมมีเกณฑ์ในการเลือกบอสยังไงถึงได้เอานักเทคนิคการแพทย์ที่เรียกตัวเองว่าหมอมาเป็นบอส อย่างที่บอกว่าตอนแรกที่เปิดผมมีบอส 10 คน ผมรู้สึกว่า 10 ท่านนี้ร่วมกันมาตั้งแต่แรก ผมก็อยากให้ความเป็นธรรมกับเขา เขาก็บอกว่าเขาเป็นนักการแพทย์ แต่จะให้เรียกว่าพี่นักเทคนิคการแพทย์ก็ยาวไป ผมก็เรียกหมอเอก ฝากบอกด้วยว่าอย่าเอาหูฟังไปตรวจคนไข้ มันทำไม่ได้ สาธารณะสุขกำลังจะไปจับ ถามว่าเลือกยังไง จริง ๆ การขายของออนไลน์ไม่ได้เกี่ยวกับอาชีพเดิมที่ทำอยู่ แต่เรื่องใหม่ถ้าเขาอยากขายของออนไลน์ ก็ขายเท่านั้นเอง ไม่อยากสัมภาษณ์กับสื่อ ขอโทษพี่ ๆ สื่อ ผมคงไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไร ทำมา 6 ปีจะ 7 ปี ๆไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียว เรื่องคุกเรื่องตารางยิ่งไม่มีในหัวเลย แต่ในเมื่อมันมีเรื่องแบบนี้ก็ต้องแก้ไปตามข้อกฎหมาย ดิไอคอนเปิดคลินิกแล้วครับ จริง ๆ ผมอยากจะไปให้ถึง รพ. แต่ไม่มีการระดมทุน เงินผมเองหมดเลย ไปดูเอกสารจดทะเบียนได้เลย อันนี้น่าจะเป็นข้อกล่าวหา ไม่ใช่ข้อเท็จจริง การเยียวยาจะเริ่มต้นเก็บข้อมูล พอเริ่มข้อมูลก็เริ่มเยียวยา ให้ไปที่บริษัทได้เลย เพื่อสะดวกในการลงชื่อ เพราะคัดกรองข้อมูล ขอโทษดารานักแสดง ขอโทษผู้เสียหาย ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย วันนี้รู้แล้วก็จะพยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น

สำหรับสัญญาจ้างดารานักแสดง บอย จ้างเป็นปีต่อปี กันต์ 5 ปี ผลตอบแทนแบ่งทุก ๆ เดือนตามยอดขาย มิน ก็เหมือนกันแต้น้อยกว่ากันต์ พี่แซม ก็เหมือนกัน แต่บอย และ โดม เป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เทนสินค้าทุกตัว คือถ้าเป็นสินค้า 1 ตัวมันคิดง่าย แต่ถ้าเป็นทุกตัวมันคิดยาก ถ้าคิดเป็นรายปี เลยเอาสินค้ารายตัวมาคิดเป็นรายเดือนแบ่งให้ ถามว่าอยากจะบอกอะไรกับสังคมมั้ย ผมยอมรับสภาพ ไม่มีอะไรจะถามสังคมครับ” ทั้งนี้ก่อนจบรายการได้มีผู้เสียหายที่นั่งอยู่ในรายการบางรายได้รับการโอนเงินคืนจากบริษัทของบอสพอลแล้ว.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 77 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม