จากมหากาพย์ดรามาทองไม่ตรงปก ของแม่ค้าออนไลน์ แม่ตั๊ก หรือ กรกนก สุวรรณบุตร กับ ป๋าเบียร์ กานต์พล เรืองอร่าม ที่มีผู้เสียหายออกมาเรียกร้องผ่านรายการโหนกระแส กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักและคุมตัวทั้งคู่ไปสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และตร.คัดค้านประกันตัว เตรียมส่งตัวไปฝากขังต่อไป
ขณะที่นักร้องสาวเจ้าของค่ายเพลง เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หนึ่งในคนบันเทิงที่เคยไปร่วมไลฟ์ขายของกับ “แม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์” และมีบางไลฟ์ร่วมเชียร์ขายทอง ทำให้มีผู้เสียหายหลงซื้อไปจำนวนมากเช่นกัน งานนี้ชาวเน็ตแห่เข้าไปถามหาความรับผิดชอบจากลูกทุ่งสาว แต่อีกฝ่ายยังไม่ได้ให้คำตอบ มีเพียงพูดในไลฟ์ของตัวเองว่า ขอเวลาตั้งสติก่อน
ล่าสุดวันนี้(30 ก.ย. 2567) นักร้องสาวเดินทางมาพร้อมสามี เปิดใจหลังออกรายการโหนกระแส เล่าว่า “ที่มาวันนี้เพื่อความสบายใจของตนเองและครอบครัวจึงออกมาพูด ตกใจนิดนึงที่เห็นข่าวแม่ตั๊ก ตอนแรกกังวลว่าตนจะโดนไปด้วย แต่ยินดีออกมา เพราะมันอยู่ที่เจตนาและหลักฐาน ทัวร์ลงตนเองเยอะ เพราะตนนิ่งเงียบ วันนี้เป็นวันแรกที่ออกมาพูด
เจนนี่ ไม่เอะใจเห็นมีหน้าร้านทอง ต่อไปต้องมีทีมกฎหมายสกรีนรับงาน
ที่แม่ตั๊ก จ้างงานไปไลฟ์ขายทอง แต่ตอนนั้นไม่มีการแจ้งของผู้เสียหาย ตนไม่ได้คิดอะไร มันมีหน้าร้านทองจึงน่าเชื่อถือ มันมีไดอาล็อกของการขายที่มันเกินจริง ตนตึงต้องใช้วิจารณญาณ จึงต้องเซฟตัวเองเพื่อไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งผู้จ้างและลูกค้า ยอมรับตอนที่ไลฟ์ขายทองขายดีมาก มันไม่ได้ราคาแพงเลย จึงไม่ได้เอะใจ ตอนที่ตนไลฟ์ก็ไม่ได้มีผู้เสียหาย แต่หลัง ๆ มารู้การตลาดก็เอะใจ และไม่สบายใจเพราะตนเคยไปไลฟ์ ร้านทองของเขาร้านใหญ่มาก
ตอนที่คนไปไลฟ์ราคาทองไม่ได้แพงมาก ค่ากำเน็ตราคาถูก มองภายนอกราคาน่าซื้อมาก ตนเองก็ซื้อปีเซี้ยะกลับไป คงไม่กลับไปเช็กมูลค่าทอง ปล่อยผ่านตนรู้สึกผิดและเสียใจมาก ๆ เพราะวันนั้นลูกค้าซื้อทองไปเพราะความเชื่อใจ จึงทำให้ตนออกมาวันนี้
ตนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เอฟซีได้รับความเสียหาย อยากขอโทษแฟน ๆ ที่ไม่ได้ไตร่ตรองในการรับงาน คนก็ไม่ได้สงสัยต่อไปต้องมีฝ่ายกฎหมาย เพื่อกรองงาน 1.ไม่มีคดีติดตัว 2.ไม่มีการแจกสินค้าที่ไม่ชัดเจน ราคาลดเกินจริง กล่องสุ่มหรือซองแดง เชื่อว่าถ้าตนทำงานสุจริตยังทำได้อีกหลายงาน
ตอนนี้ไม่ได้มีหมายเรียก แต่ควรจะเข้าไปหาทางเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในอีกเรื่อง ตนเองก็ไม่กังวลใจอะไร ต่อจากนี้จะไปแสดงเจตจำนง เพราะตนได้รับค่าจ้าง ไม่ได้มีส่วนสมรู้ร่วมคิดแน่นอน มีปรึกษาทนายไว้แล้วด้วย
ก่อนหน้าให้คำนิยามว่าความสัมพันธ์คือ พี่-น้อง ตอนนี้ตนไม่อยากซ้ำเติมใคร ความสัมพันธ์จบตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว ถ้าท็อกซิกจะออกมาเอง ครั้งนี้มองว่าเป็นความผิดพลาดที่ไปร่วมงาน เพราะมีผู้เสียหาย ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพราะอยากยืนยันว่าไม่มีส่วนในการฉ้อโกงและผลิตสินค้าร่วมกันแน่นอน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ภาพ : รัชนก สุวรรณเกตุ