มิ้นต์ เดินหน้าเอาผิดฝรั่งรัสเซีย ทำร้ายน้องหลังบุกร้านในสภาพมึนเมา

ทำเอาเดือดและเสียความรู้สึกทั้งครอบครัว หลังหนุ่มมอส ราชัน วัย 30 ปี น้องชายของนางเอกสาว มิ้นต์ ชาลิดา ถูก ชายชาวรัสเซียทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเวลา 02.00 น. ของวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณหน้าบาร์ร้านอาหารของน้องชาย ม่อน ธนัชชัย ย่านรัชดาซอย 3 โดยสาวมิ้นต์และน้องชายม่อน ธนัชชัย เปิดใจกับ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า 

ขอบคุณภาพ mint_chalida


บาร์ร้านอาหารของม่อนอยู่ติดกับโรงแรมขนาดเล็กของมอส ได้มีกลุ่มชาวต่างชาติเข้ามาเช็กอินโรงแรม ก่อนชายต่างชาติ 1 คน ซึ่งมีอาการคล้ายมึนเมาพยายามเข้ามาในร้านอาหาร ซึ่งพนักงานไม่อนุญาตให้เข้าเนื่องจากร้านใกล้ปิดแล้ว อีกทั้งยังเห็นท่าทางของชายชาวต่างชาติดูคล้ายคนมึนเมาจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่การสื่อสารอาจทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด เนื่องจากชาวต่างชาติรายดังกล่าวเป็นใบ้และหูหนวก ต่อมาจึงได้มีการพยายามหลบเข้าบริเวณหลังร้านซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้าได้อยู่แล้ว ชายคนดังกล่าวจึงมีการผลักหน้าพนักงานร้านเบาๆ  ต่อมาเมื่อเห็นท่าไม่ดีพนักงานจึงมีการโทรศัพท์เรียก มอส ราชัน ซึ่งเป็นพี่ชายของหนุ่มม่อนและเป็นเจ้าของโรงแรมให้เข้ามาดูความเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์ที่ดูเหมือนสงบลงแล้ว ชายชาวต่างชาติกลับเดินลงมาจากโรงแรมอีกครั้งแล้วทำร้ายร่างกายหนุ่มมอส เตะเข้าที่บริเวณกราม ชกเข้าบริเวณใบหน้า กระชากเสื้อ ซึ่งน้องชายของสาวมิ้นต์ได้พยายามยกมือไหว้ ขอชีวิตแล้วแต่ชายชาวต่างชาติก็ไม่มีท่าทีสลด ซึ่งชายชาวต่างชาติยังแสดง ท่าทางเหมือนมีอาวุธด้วย
หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทันที ซึ่งตำรวจใช้เวลา 40 นาทีในการเดินทางมาถึงและไม่สามารถควบคุมคนก่อเหตุได้ในทันทีจึงมีการประสานเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมและควบคุมไปยังสถานีตำรวจ สาวมิ้นต์ยังเล่าอีกว่า ขณะอยู่บนสถานีตำรวจผู้ก่อเหตุยังคงไม่มีท่าทีสลดยังเดินมาหาน้องชายของตนที่นั่งอยู่ต่อหน้าตำรวจได้ตามปกติ ผู้ก่อเหตุไม่พกพาสปอร์ต มีเพียงชื่อที่สามารถให้ข้อมูลกับตำรวจได้ ก่อนจะปล่อยตัวผู้ก่อเหตุกลับบ้านไป  และบอกว่าจะใช้เวลาอีกราว 7 วัน ให้ทางเจ้าหน้าที่นิติเวชเข้าตรวจร่างกายของน้องชาย ส่วนผู้ก่อเหตุที่มีแผนเดินทางกลับประเทศในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ มิ้นต์เผยว่าสิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องนี้จะเงียบหายไป เนื่องจากตำรวจ แนะนำว่าให้อภัยผู้ก่อเหตุเพื่อเห็นแก่ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ 
มิ้นต์และม่อนยอมรับว่ารู้สึกโกรธมากกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาครอบครัวไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ พ่อแม่เห็นคลิปแล้วก็น้ำตาตกใน ส่วนตัวไม่อยากใช้ชื่อเสียงที่สร้างมากับเรื่องแบบนี้ แต่เพราะกลัวไม่มีความคืบหน้าของคดีและคนก่อเหตุจะลอยนวล จึงต้องออกมาปกป้องน้องชายพร้อมย้ำว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตอนนี้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้พยายามสืบข้อมูลของผู้ก่อเหตุด้วยตัวเอง ไม่กังวลว่าภาพลักษณ์ของร้านจะเสีย เพราะต้นเหตุไม่ได้เกิดจากร้าน แต่เกิดจากตัวชาวต่างชาติร้ายดังกล่าวเพียงคนเดียว.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 1,406 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม

ข่าวแนะนำ