ถือเป็นการสูญเสียศิลปินคุณภาพแห่งวงการบันเทิงไทย “ชรินทร์ นันทนาคร” นักร้องเสียงนุ่มชวนฝัน-นักแสดง-ผู้กำกับ และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2541 โดยก่อนหน้านี้ “ชรินทร์” มีอาการป่วยด้วยโรครุมเร้า ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ มานานเกือบปี จนทางภรรยา “เพชรา เชาวราษฎร์” และคนสนิท ผู้ที่เข้าไปดูแล “ชรินทร์” อยู่บ่อยครั้ง ต่างก็ได้ดูใจและทำใจไว้แล้ว ก่อนท้ายที่สุดตำนานครูเพลงถึงแก่กรรมอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เวลา 02.23 น. ของวันที่ 20 ส.ค. 2567 สิริอายุรวม 91 ปี
.
สำหรับนักร้องน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง ชรินทร์ นันทนาคร เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2476 ได้รับพระราชทานนามสกุลจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า “นันทนาคร” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้ให้ความรื่นรมย์แก่ชาวเมือง” เป็นศิลปินนักร้อง-นักแสดง-ผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์
ชรินทร์ ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จบมัธยมการศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ กรุงเทพมหานคร เริ่มฝึกหัดร้องเพลงกับ ไสล ไกรเลิศ และเริ่มร้องเพลงสลับละครเวทีเรื่อง นางไพร เมื่อ พ.ศ. 2492 ด้วยเพลงดวงใจในฝัน และเริ่มบันทึกแผ่นเสียงจำหน่ายเป็นครั้งแรก และตามด้วยเพลง อิเหนารำพัน เมื่อ พ.ศ. 2494 จากนั้นย้ายกลับไปเชียงใหม่ ทำงานที่บริษัทกมล-สุโกศล สาขาเชียงใหม่ แล้วสำนักงานใหญ่เรียกมาทำงานที่กรุงเทพฯ ทำตำแหน่งแผนกบัญชี แผนกต่างประเทศ ไปจนถึงแผนกแผ่นเสียง จากนั้นทำงานเป็นเลขานุกรมที่องค์การยูซ่อม
ชรินทร์ นันทนาคร เป็นผู้ริเริ่มร่วมสร้างสรรค์เพลง สดุดีมหาราชา ซึ่งส่งผลให้ได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ “สังข์เงิน” สาขาใช้ศิลป์สร้างสรรค์ให้เกิดความรักชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ขับร้องเพลงไทยสากลผสมผสานกับเพลงไทยเดิม มีท่วงทำนองสูงต่ำเอื้อนด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ชวนฟัง ออกเสียงอักขระได้ชัดเจน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงประมาณ 1,500 เพลง
ที่ผ่านมา ชรินทร์ นันทนาคร สร้างชื่อเสียงจากการร้องเพลงเป็นที่นิยมสูงสุด มีผลงานเพลงมากมายทั้ง เรือนแพ, หยาดเพชร, ผู้ชนะสิบทิศ, ทาสเทวี, ท่าฉลอม, มนต์รักดอกคำใต้, สักขีแม่ปิง, นกเขาคูรัก, อาลัยรัก, แสนแสบ, ทุยจ๋าทุย ฯลฯ ได้รับรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำจากเพลง อาลัยรัก ต่อจากนั้นได้ผันไปเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2508 มีผลงานในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดกว่า 19 เรื่อง โดยมีภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามคลอง ที่ทำรายได้สูงที่สุด และภาพยนตร์ แผ่นดินแม่ ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของประเทศไทยที่สร้างในระบบ 70 มม. และสร้างภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง บ้านสีดอกรัก (2527), ผู้การเรือเร่ (2528), เพลงรักดอกไม้บาน (2522), แผ่นดินแห่งความรัก (2523), ลูกเจ้าพระยา (2520), ผู้พันเรือพ่วง (2530), คุณจ่าเรือแจว (2531) และอีกมากมาย
นอกจากนี้ ชรินทร์ นันทนาคร ยังมีผลงานการแสดงให้แฟน ๆ ได้ติดตามไว้ไม่น้อย สาวน้อย (2501), สิบสองนักสู้ (2502), เงิน เงิน เงิน (2508), เพื่อนรัก (2509), ละครเร่ (2512), สวรรค์วันเพ็ญ (2512), เรือมนุษย์ (2513), รักเธอเสมอ (2513), หวานใจ (2513), คนใจบอด (2514), น้ำผึ้งพระจันทร์ (2515) ๆ เพราะผลงานเป็นประจักษ์ทำให้ ชรินทร์ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2541
และชีวิตส่วนตัว ชรินทร์ สมรสครั้งแรกกับ สปัน เธียรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของ ปองทิพย์ ภรรยา สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ชรินทร์และสปัน มีบุตรสาวสองคนโดยคนโตเป็นแม่ของ แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ ต่อมา ชรินทร์ ได้หย่าขาด สปัน และได้สมรสใหม่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกภาพยนตร์ชื่อดัง มีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
