ทนาย เผย “หนุ่ม กะลา” พร้อมไกล่เกลี่ย “จูน” แบ่งเงินและหนี้คนละครึ่ง ชี้ ถ้าเรื่องไม่จบอาจบวชไม่สึก!

คืบหน้ากรณีนักร้องดังฟ้องภรรยาตีทะเบียนยักยอกเงิน 66 ล้าน ล่าสุดวันนี้(10 มิ.ย. 2567) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” เปิดเผยถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของ “จูน เพ็ญชุลี” เกี่ยวกับประเด็นคําเบิกความต่อศาลที่เคยฟ้องดําเนินคดีมือที่ 3 ก่อนหน้านี้ ว่า “หนุ่ม กะลา” มีรายได้ปีละ 30 ล้านบาท แต่ในงบการเงินที่นํามาแสดงนั้นมีรายได้เพียง 14 ล้านบาท เป็นการเบิกความเท็จหรือไม่


ทนายเดชา กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทําให้ตนตั้งคําถามว่าเหตุใดจึงมีการเบิกความในเรื่องของจํานวนเงินที่แตกต่างกันค่อนข้างเยอะ อาจเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือทนายความให้ข้อมูลผิดหรือไม่ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวมีผลต่อการเรียกค่าทดแทนในคดีชู้ ส่วนกรณีที่คุณจูนระบุว่าการเบิกความต่อศาลจํานวนเงิน 30 ล้านบาทนั้น เป็นเพียงตัวเลขกลม ๆ ซึ่งการเบิกความต่อศาลไม่สามารถเบิกความแบบบ้านํ้าลายได้ เพราะต้องมีตัวเลขที่ชัดเจนและเรื่องที่ไม่เป็นความจริงไม่สามารถเบิกความต่อศาลได้

ทนายนักร้องดังกล่าวอีกว่า การที่ตนออกมาพูดนั้น ไม่ได้คิดว่าจะกระทบกับปัญหาครอบครัวของลูกความเพราะเขามีปัญหากันมานานแล้ว เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้คุยกัน เพียงแต่คุยรายละเอียดค่าใช้จ่ายกันเท่านั้น แต่อยากฝากถึงคุณจูนว่าอย่าเอาลูกมาโลกออกโซเชียล หากรักเด็กจริง เพราะมี พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 อยู่ ส่วนความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อกับลูกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะจบหรือสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่า สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ แต่อยากขอให้คุณจูนหยุดให้สัมภาษณ์กับสื่อ หรือออกรายการต่าง ๆ เพราะปัญหาภายในครอบครัวไม่ควรนำเสนอต่อสาธารณะ อีกทั้ง “หนุ่ม กะลา” ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งกระทบต่อชื่อเสียงและการรับงานเป็นอย่างมาก และคดีนอกใจก็จบไปนานแล้ว ทั้งนี้หากอยากพูดคุยหรือไกล่เกลี่ยกันสามารถเดินทางเข้ามาหาตนเองได้ ยินดีและพร้อม แต่หากยังไม่หยุดก็จะต้องดําเนินการตามกฎหมาย เพราะทาง “หนุ่ม กะลา” ก็มีอาการเครียดทุกวันจากกระแสสังคมและเขาเองก็ไม่ได้ต้องการดําเนินคดีคุณจูนจนถึงขั้นต้องติดคุกติดตาราง ซึ่งเงื่อนไขคือทรัพย์สินและหนี้สินแบ่งกันคนละครึ่ง

โดยในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ทาง “หนุ่ม กะลา” จะเข้าอุปสมบท จนกว่าเรื่องจะจบ หากเรื่องยังไม่จบอาจจะบวชไม่สึก ส่วนบ้านก็ปล่อยยึดไป ไม่มีเงินผ่อนแล้ว ซึ่งนักข่าวถามต่ออีกว่า แบบนี้ไม่เรียกบวชหนีเหรอ อาจจะว่าเป็นการบวชหนีหนี้ก็ได้ บวชเป็นพระอยู่ ก็รับงานไม่ได้ ร้องเพลงไม่ได้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 1,045 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม