แพนเค้ก เผย ในอดีตเคยทำให้แม่เสียใจ หลังแต่งงานแยกตัวมาอยู่กับพี่หมี แต่ทุกอย่างยังอยู่ในสายตาแม่

นางเอกเรื่องราวดี ๆ แพนเค้ก เขมนิจ เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW ถึงเรื่องราวดี ๆ ชีวิตหลังแต่งงานกับสามี ผู้กำกับหมี พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ พร้อมเล่าความผูกพันของแม่ลูกที่ไม่เคยห่างกัน กับ คุณแม่แพม นวลนง จามิกรณ์ และเผยเรื่องที่เคยทำให้คุณแม่ต้องเสียใจในอดีต ที่ทำให้เจ้าตัวตระหนักรู้ว่าชีวิตนี้มีปัญหากับใครก็ได้ แต่ไม่ควรมีกับแม่


โดย แพนเค้ก เล่าว่า ปกติคุณแม่จะอยู่เคียงข้างกับแพนมาตลอด พอพี่หมีเข้ามาในชีวิต หลายคนเลยมองพี่หมีเก่ง แพนว่า แม่คงแฮปปี้กับการที่ลูกมีความสุข ลูกรักใครแม่ก็รักด้วย จนเวลาผ่านไป เราสู้กันมา หลากหลายเรื่องราวที่เป็นบทพิสูจน์ แม่คงมีบททดสอบอะไรกับพี่หมีมากมาย จนมาก่อนแต่งงานก็มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้ราบรื่นซะทุกเรื่อง ต้องผ่านการคุยความเข้าใจ ทุกวันนี้เราก็ยังอยู่ในบริเวณเดียวกันเหมือนเดิม แต่เราจัดสรรพื้นที่ของแต่ละคน เราก็อยู่ของเราหลังหนึ่ง น้อง ๆ ก็อยู่หลังหนึ่ง คุณแม่ก็อยู่หลังหนึ่ง คุณพ่อก็อีกหลังหนึ่ง แม่เองก็ใช้เวลา 2 – 3 ปีเหมือนกันว่าจะคุ้นชินว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว จนเขาคิดว่ามันถึงเวลาของลูก แพนคิดแบบนั้น เพราะจริง ๆ แพนกับแม่เห็นเราใกล้กันแบบนี้ แต่บางเรื่องเราก็เหมือนไม่กล้าที่จะคุยกันตรง ๆ เนื่องจากเราคงใกล้กันแล้วห่วงความรู้สึกกัน แล้วเราก็พยายามปรับตัวกัน แม่ก็พยายามปรับตัว โอเคลูกไปมีครอบครัว มีพี่หมีมาดูแลนะ ปล่อยได้ ปกติ 4 ทุ่มแม่ต้องโทรแล้วอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับมา ทั้ง ๆ ที่ก็คบกันมานแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกห่วงและกังวล แต่ว่าพอ ณ วันนี้แต่งงานแล้ว เขาก็ปล่อยให้พื้นที่ ให้ดูแลกันแต่ก็อยู่ในสายตาเขาเหมือนเดิม แม่ไม่เคยพูดอะไรให้เรากังวลหรือรู้สึกไม่สบายใจ ให้เรารู้สึกว่าทำตัวไม่ถูกเหมือนเป็นคนกลางที่แบบ นี่แม่ นี่พี่หมี ถามว่าเคยทำอะไรให้แม่เสียใจไหม ที่ถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าไม่น่าทำเลย มีค่ะ แต่ไม่ใช่ถึงกับเป็นลูกที่เถียงแม่ที่ขึ้นเสียงหรือว่าอาละวาด แต่ก็จะมีบางอันที่ดื้อเงียบ ไม่ทำ มีพูดอะไรไปแล้วแม่ก็นิ่งไปเลย เราจะไม่ทะเลาะกันด้วยคำพูดที่แว๊ด ๆ ใส่กัน ไม่มีคำพูดอะไรรุนแรง เงียบแล้วก็ไม่คุยกัน เราก็รู้แล้วว่ามันเป็นบรรยากาศที่แย่ยิ่งกว่าการพูดอีก เราก็เลยทิ้งเวลาสักพักเพื่อที่จะค่อย ๆ กลับมาคุยหรือพูดคำว่าขอโทษที่พูดอะไรไม่ดีออกไปแบบนี้ ชีวิตนี้มีปัญหากับใครก็ได้แต่ไม่ควรมีกับแม่

แม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของแพน แม่ก็พยายามที่จะดูแลลูก ๆ อย่างดีที่สุด ในกำลังที่เขาสามารถทำได้ ทำจนเหมือนเกินกำลังของตัวเอง แต่ก็ทำ ลูกต้องดี ลูกต้องโอเค ตั้งแต่เด็กจนโตมา แม่ก็จะโดนตลอดเลยว่าเหมือนสปอยลูก ดูแลลูกซะเหลือเกิน ระวังลูกจะเสียนิสัย แต่แม่ก็จะบอกว่าอะไรที่เป็นโอกาสแม่ก็จะต้องทำ ให้ลูกไม่รู้สึกขาดอะไร ในวันนั้นเราก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ในวันนี้มองกลับไป ถึงรู้ว่าแม่คงมองแบบนั้น คงพร้อมที่จะให้อย่างเต็มที่ จนเกินตัว จนบางทีเกินกว่าที่แม่จะรับไหว ส่วนเรื่องหลาน แม่บอกว่า แม่ว่าลูกควรมีนะ แต่ว่าแม่พูดกับแพนจนแม่เลิกพูดแล้ว ไม่พูดกับแพนโดยตรงแต่จะไปพูดกับพี่หมีแทน (หัวเราะ) จะไปเก็บไข่ไว้ก่อน พร้อมแล้วค่อยมีก็ได้ แต่ถามใจเลยจริง ๆ รู้สึกว่าแพนกับพี่หมีเราอยู่กันแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าวันนี้เรามีหลาน เรามีครอบครัวใหญ่ รู้สึกแฮปปี้แล้ว มีน้องหมาที่เราดูแล อย่างหนึ่งคือเรากลัวการรู้สึกผูกพัน แต่ก็มีบางจังหวะที่เราก็คิดอีกเหมือนกันว่าหรือจริง ๆ เราก็น่าจะควรมีนะ เพราะว่าเราอาจจะเป็นคนที่ดีขึ้นก็ได้ แล้วเราก็จะได้ดูแลเขาอย่างดีที่สุด คือสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้เลยว่าคืออะไรยังไง คิดว่าก็คงมีและคงสักแป๊ปนึง ให้เวลากับตัวเองในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่เราอยากทำ แล้วคนก็บอกว่าเรามีควรมีปีมังกร เพราะเราเกิดปีมังกร แต่ว่าปีนี้ทำไม่ทันแล้ว (หัวเราะ)

ด้วยความที่พี่หมี เป็นลูกคนเดียว ไม่ได้โตมาในครอบครัวใหญ่เหมือนบ้านแพน เขาค่อนข้่งปรับตัวเยอะเหมือนกัน มันใช้เวลาเยอะมาก เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวที่อยู่ต่างประเทศ ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมาเยอะมาก ๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่เขากลับมาเจอในสังคมไทยแท้ ๆ อย่างครอบครัวของเรา ซึ่งมีลูกกัน 3 คน พ่อแม่ด้วยเป็น 5 คน ความชุลมุนวุ่นวายมันก็จะมีตลอดเวลาไง พี่แย่งของน้อง น้องแย่งของพี่ พอเขามาเจอเราที่เป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้ก็จะตกใจ เขาก็จะรู้สึกว่าทำไมต้องแย่งกัน แล้วทำไมพี่ถึงไม่แบ่งน้อง ทำไมน้องถึงเอาแต่ใจ ในช่วงแรก ๆ เมื่อถึงเวลาหิวทุกคนพร้อมกินข้าว พี่หมีก็จะแบบช็อกนิดหนึ่ง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าที่จะปรับตัวเข้าใจในวิถีของแต่ละคน ธรรมชาติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คือพี่หมีก็เป็นอีกคนที่ดูแลตัวเองได้หมด ตัดสินใจด้วยตัวเอง ทุกอย่างผิดถูกก็ตัดสินใจเอง แต่ทางนี้คือพ่อแม่ดูแลตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการที่ลูกจะตัดสินใจทำอะไรเองได้เลยก็คือคนละแบบ โตกันคนละรูปแบบกัน”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 112 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม