อุ๋ย นนทรีย์ ภูมิใจ มีส่วนทำให้ เมฆ วินัย กลับมาดังอีกครั้ง ยกนิ้วให้กับความใส่ใจ – ทุ่มเท เสียดาย! น่าจะได้อยู่ทำงานในวงการต่อไปเรื่อย ๆ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค.67 ที่ ศาลา 10 วัดศิริพงศ์ธรรมนิมิต ซอยวัชรพล แขวงท่าแรง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลร่างอดีตพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย เมฆ วินัย ไกรบุตร ได้มีครอบครัว รวมถึงเพื่อนพ้องในวงการเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพของ เมฆ เป็นจำนวนมาก อาทิ กรุง ศรีวิไล,ถั่วแระ เชิญยิ้ม, โยโกะ ทาคาโน่ , อุ๋ย นนทรีย์ , หนุ่ม คงกระพัน และอีกมากมาย


หลังเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพ อุ๋ย นนทรีย์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่ทำให้ เมฆ กลายเป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย จากภาพยนตร์เรื่อง นางนาก เมื่อปี 2542 เผยความรู้สึกหลังสูญเสียนักแสดงคนสำคัญที่เปรียบเสมือนน้องชายในวงการว่า “ผมรู้จักกับ เมฆ มานาน ตั้งแต่ตอนทำแคสติ้งหนังเรื่อง นางนาก กับ น้องทราย เจริญปุระ ผมได้ยืนยันกับบริษัทว่าขอใช้ วินัย ไกรบุตร กับ ทราย เจริญปุระ ถ้าไม่ใช่ 2 คนนี้ เราก็จะไม่ทำหนังเรื่องนี้ เพราะเรารู้สึกเชื่อในตัว เมฆ เขามีความซื่อ ความยุติธรรมอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้ผมเชื่อได้ว่าเขาเป็น “มาก” ได้จริง ๆ เมฆเป็นคนตั้งใจและใส่ใจในการทำงานมาก มีวินัยสมชื่อ ไม่เคยมาเลท มาตรงเวลาและกลับเป็นคนหลัง ๆ ตลอด เพื่อคอยถามว่าวันนี้โอเคไหม พรุ่งนี้จะทำอะไรกันต่อ เขาเป็นคนให้ความร่วมมือทุกอย่าง หลายฉากที่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเล่น แต่ เมฆ กล้าเล่น เช่น ฉากต้องปล่อยหนูออกมาหา เมฆ มันอาจจะกัดเขาได้นะ เขาก็บอกว่ามาเลย พร้อมจะทำทุกอย่าง หรือฉากที่วิ่งเข้าไปในหญ้ากก ซึ่งมันอาจจะบาดเขา เขาก็ทำ ส่งผลให้หนังประสบความสำเร็จ ด้วยตัวเขาเอง ด้วยความตั้งใจ ความใส่ใจในการทำงานให้เขามีชื่อเสียง เป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย เขาตลอด ตอนทำหนังเรื่องปืนใหญ่จอมสลัด ผมเชิญเขามาเล่นเป็นอีกาดำ เขาก็ยินดีมามาก ๆ แม้ต้องแต่งตัวนาน เป็นการทำงานค่อนข้างยาก เขาต้องไปเรียนดำน้ำ เพราะต้องถ่ายใต้น้ำ และใช้เวลาถ่ายทำเป็นปี เขาก็มาทุกคิว ทุกครั้ง ได้เจอกันตลอด กระทั่งวันปิดกล้อง เมฆ เดินมาบอกผมว่า “พี่ ผมไม่เอาตังค์กับพี่นะเรื่องนี้ ผมขอขอบคุณพี่ ที่พี่ให้ผมเป็นผมในวันนี้” เป็นความประทับใจ ต้องขอขอบคุณเขาจริง ๆ ตังค์ของเมฆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ

หลังจากนั้นยังไม่มีโอกาสได้ทำหนังร่วมกัน แต่ก็เจอกัน คุยกันตลอด แล้วผมก็เริ่มได้ยินว่าเขาป่วย ไม่สบาย เป็นโรคที่นึกไม่ออกว่าจะหายหรือเปล่า แต่เขาก็อยู่ด้วยความหวัง เราก็ให้กำลังใจกันอยู่เรื่อย ๆ เจอกันครั้งล่าสุดตอน 20 ปีนางนาก ตอนนั้นเหมือนเขาอาการดีขึ้นนิดหนึ่ง และมาร่วมงาน ได้พูดคุยบถึงความหลัง ดีใจที่วันนั้นเขาดูราวกับว่าจะดีขึ้น แต่ตอนหลังก็ทราบว่าทรุดลงไปอีก ตอนที่ได้พูดคุยกันเราเห็นถึงความป็นนักสู้ชีวิตของเขามาตลอด ทำปุ๋ย ทำดิน พยายามจะมีอาชีพทำมาหากินดูแลครอบครัวตลอด เห็นแล้วรู้สึกชื่มชม ภูมิใจมากที่เราได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้กลับมาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอีกครั้ง หลังจากนางนากเขาก็ไปเล่นหนังอีกหลายเรื่อง เราก็ติดตาม และคอยคอมเมนต์ให้เขา ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้น้องคนหนึ่งประสบความสำเร็จ ตอนนี้เราสูญเสียเขาไปแล้ว เป็นเรื่องที่เสียดายอย่างยิ่ง เมฆยังสามารถทำงานได้อีกหลายสิ่งหลายอย่างในโลกใบนี้ เขาน่าจะได้ทำงานในวงการบันเทิงต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อกี้ตอนไปเคารพศพก็บอกเขาว่า “อยากให้น้องได้พักผ่อน สู่คติอย่างสงบ ถ้ามีอะไรที่เคยล่วงเกินก็ขออโหสิกรรมต่อกัน ขอให้น้องหลับอย่างสบาย”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 26 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม