พระเอกลิเกหน้าหวาน แบงค์ ศรราม น้ำเพชร ปลื้มใจกระแสดำดงฟีเวอร์ปลุกชีพลิเก ให้คนทุกวัยมาดูได้หมด แย้มตอนนี้งานจ้างล็อกไว้ยาวถึงปี 2570 แล้ว จากที่เริ่มจากศูนย์ก่อนอยู่ห้องเช่า แต่ทุกวันนี้มีบ้าน มีรถ ดูแลครอบครัวกันได้สบาย ดีใจที่คณะลิเกศรราม น้ำเพชร เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจแฟน ๆ เผยพวงมาลัยหน้าเวทีสูงสุด 3,000,000บาท เมื่อคืนที่ผ่านมา แบงค์ ก็สร้างตำนานใหม่กระโดดลงเวทีไปรับทิปจากเจ้าภาพทั้งคณะ บอกพอดำดงดังก็ต้องหามุกหาอะไรใหม่ ๆ มาเล่นไม่งั้นคนก็จะเบื่อ แฉนางเอกลิเก นุ่น เนตรชนก ที่มารับบท ดำดง ไม่ได้เป็นบ้าที่ต้องเล่นบทนี้จนเจ้าภาพรีเควสทุกงาน แต่บ้าจริงตั้งแต่ก่อนมาเล่นแล้ว ทุกอย่างเป็นตัวเขาเอง คนเลยหลงรักความตลกธรรมชาติ เผยวันที่ 10 มี.ค.67 นี้ เตรียมประชัน ดำดง vs แก้วหน้าม้า ครั้งแรก โดย แบงค์ จะแต่งเป็นแก้วหน้าม้าอีกครั้ง ตกใจคนอยากดูมากถึงขั้นจองที่กันข้ามวันเพราะกลัวไม่ได้ดู บอกตั้งแต่เล่นลิเกมาก็เพิ่งเคยเจอปรากฏการณ์นี้ บางงานคนดูถึงขั้นปีนเมรุ นั่งระเบียงกุฎิเพื่อมาดู เพราะหน้าเวทีไม่มีที่นั่งแล้ว ในส่วนของพื้นที่คนเข้ามาดูไม่เพียงพอ ตนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นการจัดการของเจ้าภาพ ส่วนการดูแลวง ตอนนี้เพิ่มการนำผ้ามาปิดหลังเวที เพราะพักหลังคนดูล้นก็มีแฟน ๆ มาถ่ายคลิป ถ่ายรูปหลังโรงลิเก ซึ่งเป็นภาพไม่น่าดู บางครั้งแก้ผ้าเปลี่ยนชุด หรืออยากพักผ่อนส่วนตัวกันก็ลำบาก เข้าใจคนที่ชื่นชอบ ไม่ได้หวงตัวแต่ก็ต้องเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้คนในคณะด้วย
โอด! เป็น แบงค์ ศรราม ห้ามป่วย ห้ามสาย ห้ามลา ห้ามตาย เพราะคิวงานที่ไม่ได้พัก จึงต้องดูแลตัวเองให้มาก คอยเติมวิตามินตลอด เพราะรู้ตัวว่าทำงานหนัก ภูมิใจวัฒนธรรมไทยไม่สาบสูญ การสานต่อไม่ใช่เพียงต้องไปดูด้วยตัวเอง แต่ทุกคนสนันสนุนได้ด้วยการกดไลค์ กดแชร์ บอกต่อ ชวนคนมารู้จัก แค่นี้ลิเกไทยก็อยู่ได้ ส่วนการถูกเปรียบเทียบ ลิเก กับ หมอลำ นั้น ส่วนตัวตนมองว่าเทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละศาสตร์ และทุกคนดูได้ทั้ง 2 อย่าง เพียงแต่ลิเกเป็นวัฒนธรรมภาคกลาง หมอลำเป็นวัฒนธรรมอีสาน ซึ่งสนุกและดูได้หมด ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ทางวัฒนธรรม ซึ่งตนก็ภูมิใจที่คนมองว่าคณะศรราม ปลุกลิเกขึ้นมากระแสฟีเวอร์อีกครั้ง.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
