เชียร์ เผยสาเหตุเลิก บิ๊ก ครั้งแรก ยันยังรักแต่ไม่ใช่รูปแบบเดิม

หลังมีเพื่อนสนิทออกมาพูดว่าความรักระหว่าง “เชียร์ ฑิฆัมพร” กับ “ไฮโซบิ๊ก” ได้เลิกรากันแล้ว เหลือเพียงมิตรภาพที่ดีต่อกัน ล่าสุด สาวเชียร์ ออกมาเผยสาเหตุเลิกกันครั้งแรก เผยยังรักแต่ไม่ใช่รูปแบบเดิม “ตัดสินใจร่วมกัน เป็นการคุยกันครั้งแรกเลยด้วยซ้ำถึงความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ แต่ขออนุญาตแก้ข่าวนิดนึงที่ก่อนหน้านี้มีข่าวระหองระแหงอันนั้นไม่มีอะไรนะ ความสัมพันธ์ดีมาโดยตลอด คู่รักมาดเท่ไม่ใช่คู่เรา ส่วนประเด็นอันฟอลโลว์กัน ต้องบอกว่าส่วนตัวเชียร์ไม่ได้คอมมิตสเตตัสที่การฟอลโลว์กัน เราไม่ได้ฟอลโลว์เขาทางอินสตาแกรมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราติดต่อกันทางอื่น อย่างเฟซบุ๊ก ก็ไม่รู้ไปเป็นประเด็นว่าเราอันฟอลโลว์กันได้ยังไง ตอนนั้นมันไม่มีอะไร ความสัมพันธ์ยังดีมาก ๆ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องมือที่สาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้คือชัดเจนแล้วว่าเรายุติความสัมพันธ์กับการเป็นแฟนกัน


เหมือนคนเราต้องตรวจสุขภาพ เหมือนเรายังแข็งแรงแต่เราต้องตรวจสุขภาพว่าข้างในเรามันแข็งแรงจริงไหม เช่นกันกับความสัมพันธ์ที่มันเดินทางมา 4 ปีกว่า เกือบ 5 ปี มันจะต้องไปอีกสเต็ปนึงแล้ว เราต้องตรวจสุขภาพของความสัมพันธ์นี้เช่นกันว่าเรายังโอเคกันจริง ๆ ไหม มันเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ ที่อาจจะไม่ได้มีความพอดีกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่อาจจะไม่ได้พอดีกันแค่นั้นเองค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะแต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรไม่ดีเลยในการใช้คำว่าเลิกรา ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ ต่อกัน ความพอดี ไม่พอดี เชียร์ว่ามีกันทุกคู่ ก็พบว่ามันมีบางจุดที่เราเคยจะก้าวข้ามผ่านมาในความไม่พอดีบางอย่าง แต่ ณ วันนี้บางสิ่งเราเลือกที่จะเรียกว่าปรับตัวมาแล้ว แต่การปรับในบางอย่าง พอมันยังไม่พอดีกันจริง ๆ มันเหมือนจุดเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ สะสม เชียร์กับบิ๊กไม่ใช่คู่ที่มาทะเลาะกันจุกจิกเลย

เราไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งอะไรที่ชัดเจน ความสัมพันธ์มันดำเนินมาเรื่อยๆ ตลอด แต่พอมันมีสิ่งที่จะต้องโฟกัสกันทั้งคู่บางอย่างเราก็ไม่อยากจะเอามาเป็นความหนักใจ หยุมหยิมให้อีกฝ่าย บางอย่างเขาก็ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ บางข้อพอเราไม่คุยกันแล้วมันเก็บไว้กับเราทั้งคู่มันเลยเกิดจากการที่ไม่เป็นอะไร จริงๆ แล้วมันเป็นอะไร คนเริ่มพูดก่อนคือเชียร์ มันเป็นการชวนคุย แล้วมันก็ชึ้บตั้งแต่วันนั้นเลย เป็นการพูดคุยตัดสินใจร่วมกัน คำตอบที่เราได้คือกลับมาเป็นเพื่อนกัน เราเคยมองชีวิตคู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่แค่วันนี้ความสัมพันธ์ที่เราเดินมา พอเรามองย้อนกลับไปบางจุดมันไม่ได้ผ่านการพูดออกไป เราเก็บไว้ มารู้ตัวอีกทีความสัมพันธ์มันลดลงเรื่อยๆ ต่างคนต่างเก็บไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรรุนแรงเลย เป็นเรื่องของความเข้าใจของเราทั้งคู่จริง ๆ เรามาจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน การคุยกันครั้งนี้เชียร์บอกเขาว่าเราคุยกันด้วยความรัก ว่าถ้าความรักนี้มันดำเนินไปในแบบชีวิตคู่อีกแบบนึงไม่ได้ มันก็อาจจะต้องกลับมารักกันแบบเพื่อน มันไม่ใช่ใครบอกเลิกใคร เหมือนเป็นการคุยกัน แล้วมันเป็นสิ่งที่เราตกลงร่วมกันมากกว่า ตอนนี้เราก็ยังคุยกัน มีความเป็นเพื่อนเต็มที่มาก ๆ เชียร์ยังบอกเขาเลยว่า วันนี้เชียร์รักเขาไปแล้ว ยังไงเขาก็เป็นคนที่เชียร์รักอยู่ดี เพียงแค่ว่ามันไม่ได้เป็นไปในรูปแบบเดิม


การเริ่มคุยกัน มันยากสำหรับเชียร์ จริง ๆ ต้องการจะคุยเพื่อมองหาวิธีการปรับในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เรื่องของการคุยเพื่อจะยุติ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นเราเลือกคำตอบที่จะยุติกัน สำหรับเรื่องของการแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายของเชียร์ตั้งแต่แรก เราเคยคุยกันด้วยซ้ำว่าไม่อยากมีลูกนะ ถ้าอยากเราอาจจะมีระยะเวลาของเรื่องอื่นมาจำกัด อันนี้น่าจะเป็นข้อบีบบังคับเรื่องไทม์ไลน์ แต่เราไม่มีเรื่องนี้ ยังไงวันนี้เราก็ยังรักเขาอยู่ดี เขาก็ยังรักและหวังดีกับเราอยู่ดีแต่เพียงแค่มาเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง วันนี้ เชียร์ ก็อาจจะจำเป็นต้องพูด ไม่อย่างนั้นคือคนที่รักและหวังดีกับเราทั้งคู่ก็จะแบบว่าจะแต่งเมื่อไหร่อะไรแบบนี้ เหมือนเพื่อให้มันชัดเจนด้วย แล้วก็ไม่ให้มีคำถามไปถึงเขา ไม่ให้มีคำถามมาถึงเรา ทุกคนก็แล้วแต่การตัดสินใจของเราแหละทั้งฝั่งครอบครัวเรา ครอบครัวของทางบิ๊กด้วย อย่างที่บอกว่าเชียร์ไม่ได้พูดอะไรจริง ๆ มันตั้งแต่ตุลาคมแล้วด้วยซ้ำเรื่องนี้ มันคุยกันตั้งแต่ตุลาคมแล้ว แต่ว่ามันเป็นด้วยความเข้าใจกันจริง ๆ เชียร์ถึงบอกว่ามันเป็นเหมือนสถานการณ์ที่ดีในการคุยกันครั้งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เชียร์เชื่อว่าเราทั้งคู่ต่างแข็งแรงกันอยู่แล้วเราก็แค่เก็บเป็นเส้นทางดี ๆ ที่เราเดินทางกันมาค่ะ แต่ว่ามันก็ไม่ได้หายไป ตอนนี้ก็คงอยู่กับตัวเองก่อนแล้วกันทำงานในสิ่งที่มีและ เชียร์ เชื่อว่าเขาก็คงจะมีเป้าหมายที่ดีกับชีวิตเขาเหมือนกัน เพราะยังไงเราก็อยู่ในช่วงวัยที่ยุ่งกันทั้งคู่ ในธุรกิจเองหรือในสิ่งที่จะทำมันก็มีธงค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ช่วงนี้ก็ดูแลเรื่องงานดูแลตัวเองค่ะ

เราเจอหน้ากันได้ก็ยังมีทริปที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันอยู่เลย ก็มีความเป็นเพื่อนกัน ที่ทำคลิปยูทูบมันมีความหมายซ้อนความหมาย คือจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำนะ มันเหมือนเป็นความทรงจำในการเดินทางของเราค่ะ วันนี้คือมันไม่ได้จบแค่ซีซั่นมันไม่ได้จบแค่อีพี การเดินทางของคำว่าที่ยักเอ้ย ในชีวิตจริงมันก็หยุดการเดินทางจริง ๆ มันเป็นเหมือนแค่บันทึกการเดินทางของเราวันนี้มันก็เลยจบตรงนั้นไปค่ะ แต่ยังดูได้ตลอดนะคะไม่ได้ปิดช่องนะคะ” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 800 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม