ทนายรัชพล บุกแจ้งความนักร้องเพื่อชีวิต แอ๊ด คาราบาว เข้าข่ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตัวใหม่

เพิ่งจะผ่านพ้นคอนเสิร์ต 40 ปี คาราบาว ก็มีดราม่า “แอ๊ด คาราบาว” ซะแล้ว เมื่อ ชาวเน็ต ติงภาพ “น้าแอ๊ด” โพสต์รูปขณะถือกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าเข้าข่ายโฆษณาหรือไม่


ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย. 66) ทนาย “รัชพล ศิริสาคร” เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังเห็นภาพ “แอ๊ด คาราบาว” หรือ “ยืนยง โอภากุล” ถือกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง ที่ตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทในลักษณะเป็นการโฆษณา ซึ่งมีความผิดตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือปรับ 5 แสน โดยมีทางตัวแทนเจ้าหน้าที่ออกมารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พร้อมเผยว่าเรื่องที่ศิลปินคนดังคือ “ยืนยง โอภากุล” ยืนถือกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง ทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ทำการเก็บข้อมูลดังกล่าวมาก่อนแล้ว และกำลังทำหนังสือเชิญตัว “น้าแอ๊ด” มาชี้แจงรายละเอียดตามภาพที่ปรากฏอยู่ในโลกโซเซียล ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการเฝ้าระวังและติดตามในเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการโฆษณาแฝงผ่านทางคนดังหรือคนที่มีชื่อเสียงในสังคมอยู่แล้ว

ต่อมา ทนายรัชพล กล่าวภายหลังจากการยื่นเอกสารให้กับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าหลังเห็นภาพของแอ๊ด คาราบาว ถือกระป๋องตัวใหม่ในลักษณะเป็นโฆษณาเชิญชวนในโลกโซเซียลแล้ว จึงได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจนพบว่ามีการแฝงโฆษณาเบียร์ยี่ห้อดังกล่าวในแอปพลิเคชันติ๊กต่อกอีก 2 บัญชีรายชื่อเท่าที่ตรวจสอบเจอ จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเดินทางมาเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมกาควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนี้ โดยผู้แจ้งความจะได้รับรางวัลนำจับจำนวน 20% ด้วย ที่ผ่านมาตนก็พบเห็นว่ามีการชักชวนคนดังคนทีชื่อเสียงมารีวิวเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก จึงอยากฝากเตือนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่สมควรทำ เพราะมีความผิดมีโทษทั้งจำและปรับ ตนเชื่อว่าเมื่อทาง แอ๊ด คาราบาว ได้รับหนังสือเรียกตัวจากทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว คงจะเข้ามาชี้แจงและจ่ายค่าปรับก็จบเรื่องไป .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 196 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม