ด่วน! ศาลสั่งจำคุก “เอ็มมี่ แม็กซิม” พร้อมเลขา ฐากฉ้อโกงแชร์ ภายหลังลดโทษเปลี่ยนจากจำคุกเป็นกักขังแทน

เมื่อช่วงค่ำวันนี้(28 ก.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฉ้อโกงแชร์ ที่น.ส.อนุสรา อบสิน กับพวกรวม 10 คนร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ “เอมมี่ แม็กซิม” อายุ37 ปี นักแสดงและนางแบบ และ น.ส.จริยา จันทมา เลขาฯส่วนตัว ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานฉ้อโกง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่าสินไหมทดแทน กรณีที่พวกโจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพเป็นดาราและนางแบบใช้ชื่อการแสดงว่า เอ็มมี่ แม็กซิม และใช้ในโปรแกรมเฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม อีกหลายชื่อ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลสมาชิกกลุ่มผู้เล่นแชร์ “กลุ่มบ้านต่อเงินพารวย” ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยจำเลยที่ 1 โดยมีการประกาศชักชวนให้ประชาชนจำนวนมากมาร่วมกันเล่นแชร์ และได้รับความเสียหายมูลค่าหลายสิบล้านบาท คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง พวกโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1รวม 10 ปี 8 เดือน ส่วน จำเลยที่ 2 จำคุก 84 เดือน 40 วัน และให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย” จำเลยทั้งสองได้รับการประกันตัวและยื่นฎีกา


ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า กฎหมายอาญา มาตรา 86 ในความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดดังกล่าวได้เช่นกัน จำเลยที่ 2ไม่อาจอ้างว่าเป็นการกระทำตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 มาปฏิเสธความรับผิด ตามกฎหมายดังที่ฎีกาได้ ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาในทำนองขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการ ลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำ ความผิดของจำเลยที่ 1 ฐานฉ้อโกง ต่างจากที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จึงเป็นเรื่อง ที่ศาลฎีกาจะใช้ดุลพินิจกำหนดโทษในความผิดดังกล่าวต่อจำเลยที่ 2 ให้เหมาะสมแก่ พฤติการณ์ในการกระทำความผิดต่อไป ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังขึ้นบางส่วน ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341จำคุก 3 เดือน จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบ มาตรา 86 จำคุก 2 เดือน ทางนำสืบของจำเลยทั้งสอง เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 40 วัน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดย ศาลอาญามีนบุรี ออกหมายกักขังเมื่อคดีถึงที่สุด ให้ ผอ.สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี ให้กักขังนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. เป็นต้นไป.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 148 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม