“มาริโอ้” เตรียมหอบหลักฐานเข้าชี้แจง ยันไม่เอี่ยวแก๊งสวมทะเบียนรถ

หลังจากที่พระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร้อ” ได้ออกมายอมรับว่าเป็น “ดาราอักษรย่อ ม.” ที่มีชื่อไปเอี่ยวกับแก๊งสวมทะเบียนรถ ที่ตำรวจไซเบอร์ออกกวาดล้าง ล่าสุดเจ้าตัวได้ประสานขอเข้าพบเพื่อแสดงหลักฐานการครอบครองรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น G-300 สีขาว ภายในสัปดาห์นี้แล้ว โดยได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วว่าได้ติดต่อซื้อรถมาจากรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง โดยได้เพียงเล่มทะเบียน แต่ยังไม่ได้รถยนต์ ซึ่งก็ผิดปกติที่จะต้องซื้อขายรถยนต์ แต่ก็ต้องรอมาสอบสวนและดูเหตุผลประกอบว่าจะมีความผิดหรือไม่ รวมทั้งต้องเรียกคนที่ขายรถให้มาสอบสวนด้วย
พลตำรวจตรีอำนาจ ไตรรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ประชุมร่วมกับทีมสืบสวนสอบสวนในคดีการลักลอบเข้าระบบของกรมการขนส่งทางบก เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถก่อนนำเล่มทะเบียนไปขายต่อในราคาเล่มละ 1-2 ล้านบาท จนพบว่ามีรถจำนวน 65 คันถูกเปลี่ยนข้อมูล
พลตำรวจตรีอำนาจ เปิดเผยว่า คดีนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 คนที่ร่วมกันลักลอบเข้าระบบ ซึ่งถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิเตอร์ และถูกส่งศาลไปแล้ว ส่วนอีกคดีจะเริ่มสืบสวนถึงกลุ่มที่ครอครองรถทั้งหมด และจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงว่ามีส่วนรู้เห็นกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน
นอกจากนั้นก็จะเรียกผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ทั้ง 65 คัน มาตรวจสอบด้วย โดยบางส่วนได้มาสอบสวนแล้ว บางคนก็มีเพียงเล่มทั้งเบียน ไม่มีรถยนต์ บางคนมีทั้งสองส่วน บางคนมีรถแต่ไม่มีเล่ม ซึ่งก็จะต้องมาดูว่ามีส่วนรู้เห็นให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะเข้าข่ายความผิดฐาน ปลอมแปลงเอกสารทางราชการหรือไม่ พลตำรวจตรีอำนาจ กล่าวว่า ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีฐานความผิดครอบคลุมอยู่แล้ว โดยที่จะมีโทษเพิ่มตามความผิดมูลฐาน แต่น่าจะยังไม่เข้าข่ายฉ้อโกง เพราะยังไม่มีผู้เสียหาย เนื่องจากส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะสมยอมให้กระทำผิดร่วมกัน
สำหรับการสืบสวนขณะนี้ยังไม่พบความผิดของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก แม้ว่าผู้ต้องหาจะบอกว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กว่า 20 ปี และเชื่อว่าเป็นการใช้ความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่จนถูกลอบเข้าไปใช้ในระบบ ซึ่งตำรวจมีหลักฐานการลักลอบเข้าใช้ในระบบอยู่แล้ว และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าใครจะร่วมกระทำผิดบ้าง นอกจากนั้นก็จะประสานกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 101 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม