หลังอดีตแฟน “โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์” ออกมาเปิดใจไปก่อนหน้านี้ถึงปมจบรัก 10 ปีที่ถูกอดีตแฟนหนุ่ม “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” บอกเลิกก่อนเข้ารายการ ว่าตนก็ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดถึงการจบรักเพราะฝ่ายชายยังไม่เคลียร์ ยอมรับช็อกและตั้งรับไม่ทันว่าจะมีวันนี้
ล่าสุดวันนี้(23 มิ.ย. 2566) “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” พร้อมเปิดใจพูดครั้งแรกหลังเงียบมานานนับเดือน ว่า “เรื่องที่จำเป็นต้องพูด ผมก็พูดไปในที่ส่วนตัวจนหมดแล้ว และไม่ได้พูดก่อนเข้ารายการอย่างที่ออกอากาศไปตอนนั้น ผมว่าทั้งเขาและพิธีกร น่าจะสื่อสารผิดพลาด เลยทำให้เหมือนผมโทรไปบอกเลิกก่อนเข้ารายการ แต่จริง ๆ เราคุยกันก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูดหรือไม่ควรจะพูด ผมก็ไม่พูดในที่สาธารณะ และตอนนั้นที่ไม่ออกมาตอบโต้อะไรเพราะว่าสุดท้ายเวลาที่เราตอบโต้ก็เพื่อต้องการชนะ แต่ผมไม่ได้อยากชนะ ผมยังพอทนได้กับเรื่องที่ไม่จริง เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าเขาและพิธีกรไม่มีเจตนาร้ายน่าจะสื่อสารผิดกัน เรารู้จักเขาทั้งคู่ แต่ ณ ตอนนั้นผมยังไม่อยากอธิบายเพราะทั้งคนไกลตัวและคนรอบตัวยังเต็มใจที่จะเข้าใจผิดอยู่ เลยเลือกที่จะเงียบ”
“สาเหตุที่เงียบเพราะกลัวว่าจะถูกเอาไปขยายต่อ ผมมองว่าเรื่องการแยกทางกันของคนสองคนมันเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่พอถูกกระจายต่อ มันมีผลต่อคนรอบตัวและความรู้สึกเรา ดูเหมือนเราแข็งแรงแต่เรามีมุมเซนซิทีฟเหมือนกัน ส่วนความเข้าใจของคนอื่นเราไปหาทางปรับไม่ได้ แม้แต่ผมกับเขายังไม่เข้าใจกันเลย นับประสาอะไรกับคนอื่นจะเข้าใจเราสองคน จริง ๆ ผมยังรักเขานะ เราตัดสินใจออกมาเป็นเพื่อน เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนน่าจะดีที่สุดแค่นั้นเอง เรื่องมันธรรมดามาก แต่ยอมรับตัดสินใจยาก ผมเข้าใจความรู้สึกเขา และเข้าใจความรู้สึกตัวเอง ผมอยากให้เป็นอย่างที่เขาต้องการเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ผมจำเป็นต้องมันเป็นในแบบที่ผมอยากให้เป็น”
ที่ไม่ออกมาพูดอะไรเยอะ เพราะรู้สึกเราทำดีที่สุด เราไม่อยากเอาชนะใครทั้งสิ้น ไม่อยากให้เรื่องตีกลับไปมา เพราะสุดท้ายเจ็บทุกคู่ ผมอยากให้เหมือนคู่อื่นที่จบแบบธรรมดา ยอมรับเป็นห่วงเขาแต่สุดท้ายได้แต่มองอยู่ไกล ๆ และคาดหวังว่าเขาจะจัดการทุกอย่างได้ด้วยหัวใจที่เขาเข้มแข็งพอ ส่วนตนเองโชคดีที่แม่พ่อคนรอบตัวผม ไม่รีบที่จะตัดสินผม อย่างคนนอกอาจจะเต็มใจเข้าใจผิด แต่คนในครอบครัวมีการถาม เพราะเรื่องคนสองคนมันเซนซิทีฟ เหตุผลไม่มีอะไรเพราะเมื่อก่อนมันเคยได้แต่ ณ วันนี้เข้าไม่ได้แล้ว เราก็แค่แยกออกมา ไม่ใช่เรื่องยอมไม่ยอม เหมือนวิถีชีวิตเราค่อย ๆ ต่างกันไปทีละนิด ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่ความรักเริ่มมีความพยายาม นั้นแสดงว่าเรากำลังผิดทิศผิดทางหรือเปล่า
ต่างยังรักกันแบบนี้จะมีโอกาสกลับมารักกันไหม ? “ไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาทำงานไป ตอนนี้สภาพจิตใจผมโอเค ยังรับได้อยู่กับทุกย่างที่เกิดขึ้น ส่วนความมุ่งหวังผมมุ่งหวังให้จบกันแบบเงียบ ๆ ธรรมดา ๆ เพราะทุกครั้งที่ยังมองเขาอยู่ ก็ยังมองด้วยสายตาแห่งความรัก เอาจริง ๆ คือกลัววันนี้ที่สุด กลัวว่าจะพูดอะไรผิดไป จะไปกระทบเขาหรือเปล่า แต่สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง
เสียน้ำตาให้กับการจากลาครั้งงนี้ไหม ? “เราเสียใจอยู่แล้ว เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่าย แต่ตัดสินใจ ตอนนี้น่าจะเดินหน้าเต็มที่กับชีวิตเพราะมีแพลนไปต่างประเทศหลายประเทศมาก ต้องการไปโดยที่ไม่มีพันธะ อยากอยู่ทิเบตเดือนหนึ่ง อยู่ญี่ปุ่นเดือนนึง อยากไปดูไบเดือนนึง หลังจากที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำมาสักพักแล้ว แต่ชีวิตไม่ต่างจากเดิมมากเพราะที่ผ่านมาก็อยู่คนเดียวส่วนใหญ่ มุมมองความรักเปลี่ยนแต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และยังไม่พร้อมเปิดใจ ขอใช้ชีวิตก่อน”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน