“กระแต อาร์สยาม” ปล่อยโฮ โดนด่าอกตัญญู ทอดทิ้งพ่อบังเกิดเกล้า ลั่น! อีก 2 ปีเตรียมแต่งฟ้าแลบแฟนนอกวงการ

ออกมาเปิดใจเคลียร์ทั้งน้ำตา สำหรับนักร้องสาวลูกทุ่งสุดแซ่บ “แตร บุญยะเลี้ยง” หรือ “กระแต อาร์สยาม” ที่ก่อนหน้านี้เจอดราม่ารุมเร้า ทั้งเรื่องเต้นแหกขาทำวงการลูกทุ่งเสื่อมเสีย รวมถึงเรื่องที่เจ้าตัวเป็นลูกอกตัญญู เป็นนักร้องดังแต่ไม่ยอมดูแลพ่อบังเกิดเกล้า พร้อมเรื่องหัวใจกับแฟนหนุ่มนอกวงการที่ซุ่มคบมา 10 ปี และเตรียมประกาศแต่งสายฟ้าแลบเร็ว ๆ นี้ ผ่านรายการ WOODY FM


กระแต เผยว่า “ตอนช่วงแรก ๆ ที่เป็นศิลปินน้องใหม่ เราโดนถูกบีบด้วยกรอบว่า อย่าทำอย่างนี้นะ แบบนั้นไม่ดี รวมถึงโซเชียลก็มักจะมีคอมเมนต์ตามมาว่าทำไมกระแตทำแบบนี้ไม่โอเค อยากให้เราเป็นแบบที่เขาคาดหวังอะไรอย่างนี้ เหมือนเราแบกความหวังของคนทั้งโลกไว้ กลายเป็นความอึดอัดที่ไม่ได้เป็นตัวเอง หนูเป็นนักร้องลูกทุ่ง หนูจะโดนดราม่าว่าเป็นลูกทุ่งมานั่งแหกขา ใส่ชุดโป๊ ทำลูกทุ่งเสื่อมเสียอะไร โอเคเราเข้าใจและยอมรับ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันก็จริง แต่เหตุผลที่เราทำมันไม่ใช่เพื่อทำลายวงการลูกทุ่ง เวลาที่เราเอาความเป็นสากลเข้ามาหรือดนตรีที่มีความสากลเข้ามา เขาก็จะเอ๊ะสรุปนางเป็นนักร้องลูกทุ่งไหม นางยังร้องลูกทุ่งอยู่ไหม อยากจะบอกกลับไปว่าหนูร้องลูกทุ่งตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วค่ะ แต่จะให้เป็นลูกทุ่งไปตลอดชีวิตมันก็ไม่สนุกสิ เราก็อยากปรับ อยากลองหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับงาน เพราะเราเป็นคนที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ ตลอด ก็เลยรู้สึกว่าฉันอยากทำในสิ่งที่ฉันจะทำ ไม่ต้องมาจำกัดความว่าฉันเป็นใคร ถ้าทำแต่อะไรเดิม ๆ มันน่าเบื่อและทำใหเราหมดไฟ ตอนนี้เลยไม่ได้ต้องไประวังระแวงอะไรแล้ว ที่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองทำ ทำไปเลยจะได้ไม่ต้องไปเสียดาย ทำไมวันนั้นเราไม่ทำ อยากทำอะไรฉันทำเลย ไม่ใช่ทำในสิ่งที่คนอื่นชอบแต่เรารู้สึกไม่เป็นตัวเอง”

“ส่วนเรื่องครอบครัวยอมรับว่าเราโตมาในครอบครัวไม่สมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน คุณแม่จะไม่ค่อยให้พูดเรื่องครอบครัว คิดว่าเขาน่าจะอยากให้เรามีความเพอร์เฟก มีครอบครัวที่รักกัน หนูไม่ได้อยากให้ใครมองว่าครอบครัวเราไม่ดี อยากแค่ให้เห็นว่า กระแตประสบความสำเร็จในชีวิตได้ มันไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวที่เพอร์เฟก อยากให้คนที่มีปัญหาเหมือนเราสู้ เหมือนที่เราเป็นอยู่ หนูไม่เสียน้ำตากับคนที่เข้ามาด่า มาบูลลี่ แต่จะอ่อนไหวกับเรื่องครอบครัว(ร้องไห้) หนูโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยมีความรักที่สมบูรณ์ เราจนมาก คุณแม่ทำงานคนเดียวเลี้ยง 5-6 ชีวิต บางวันเราไม่มีข้าวกินเหลือมาม่าซองเดียวกินกันทั้งบ้าน เราอยากให้พ่อกับแม่รักกัน อยากถ่ายรูปมีพ่อแม่ครบพร้อมกัน แต่มันไม่มีเลย หนูลำบากใจเวลาพ่อกับแม่เลิกกัน เพราะว่าคุณพ่อก็ไม่มีเงิน แล้วหนูก็ต้องขอตังค์แม่ คือหนูโกหกแม่ตลอดว่าจะไปซื้อเครื่องสำอางแต่ว่าก็โอนให้คุณพ่อ คือแม่จะไม่ให้พ่อเลย หนูเลยตัดสินใจทำธุรกิจ เพราะไม่อยากทำบาป หนูไม่อยากโกหกแม่ ตั้งแต่เด็กเราจะให้คุณแม่เก็บตังค์ให้ ก็กลายเป็นว่าคุณแม่ดูแลเงินให้ทุกบาททุกสตางค์ ไม่เคยมีเงินเก็บเลย ถ้าจะใช้ก็ขอเขา แต่พอจะขอเพื่อเอาให้พ่อ ขอตรง ๆ ไม่ได้ เลยต้องหาเรื่องโกหกว่าวันนี้หนูไปกินข้าวนะ ไปซื้อเครื่องสำอางนะ เพราะพ่อไม่มีบ้านเขาอยู่ตามยถากรรม เวลาเราไปกินอาหารแพง ๆ อร่อย ๆ หนูนึกถึงพ่อตลอด เขาจะกินอะไรบ้างไหม อยากให้เขากินของดี ๆ (ร้องไห้) เพราะสุดท้ายเขาก็คือพ่อ หลายคนชอบว่าหนูทำไมไม่ดูแลพ่อ ทิ้งพ่ออยู่แบบนี้ เหมือนเราอกตัญญู อยากมีเงินให้พ่อโดยที่ไม่ต้องโกหกหรือขอแม่ก็เลยทำธุรกิจดีกว่า แต่ตอนนี้แม่ดีขึ้นมากแล้ว ยอมให้พ่อมาเจอหนูบ้าง ตอนนี้เราก็ได้ดูแลพ่อแล้ว

ส่วนเรื่องความรักอาจจะเป็นเพราไม่ได้เปิดตัว คนเลยคิดว่ายังไม่มีแฟนบ้าง แต่จริง ๆ หนูคบกับคนนี้มา 10 ปีแล้ว รักเดียวใจเดียวมาก (หัวเราะ) อยู่ด้วยกันจากความเข้าใจ จากตอนแรกเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเขาก็เป็นส่วนหนึ่งเลยที่ทำให้ธุรกิจเราเติบโตขึ้นด้วย เพราะว่าหนูอยู่หน้าบ้าน เขาอยู่ระบบหลังบ้าน เป็นคนที่ส่งเสริมเรา ก็มีความสุข คบมา 10 ปี ถ้าจะแต่งมันก็แต่งได้ แต่พอหลายคนไม่รู้มันเลยกลายเป็นเหมือนถ้าเราประกาศแต่ง มันก็เลยดูสายฟ้าแลบ แต่เอาจริง ๆ ตั้งใจว่าไม่เกิน 2 ปีนี้ เราตั้งเป้ากันว่าจะทำธุรกิจให้ถึงพันล้านบาทแล้วเปิดตัวเลย (หัวเราะ) หาแรงบันดาลใจ หาเป้าหมายต้องขยันทำให้ได้ แต่หนูก็คิดไว้ว่าถ้าไม่ถึงเป้า 2 ปีก็จะแต่งเพราะจะ 40 แล้วค่ะ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 410 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม