“แม่ภนิดา” แจงไม่จัดงานครบรอบการจากไป “แตงโม” ย้ำรักลูกแต่เรื่องเงินคนละส่วน ลั่นมีสิทธิ์เรียก 100 ล้านก็ได้

ครบรอบการจากไป 1 ปีของอดีตนางเอกชื่อดัง “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” จากเหตุการณ์พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างความสะเทือนใจแฟนคลับทั่วประเทศ สู่การสืบคดีมหากาพย์ของต้นเหตุการเสียชีวิตของดาราสาวที่แม้จะเจอศพแล้ว มีการจ่ายเยียวยาให้แม่แล้วบางส่วน แต่ในทางคดียังไม่สิ้นสุดเช่นกัน

ล่าสุดวันนี้(24 ก.พ. 2566) “แม่จิ๋ม ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” มาออกรายการเปิดปาก กับภาคภูมิ พร้อมเผยหลังกลุ่มแฟนคลับจัดงานรำลึก “แตงโม” ขึ้นที่ท่าน้ำพิบูลสงคราม1 ว่า “แม่ไม่ไปร่วมงานอยู่แล้ว เราบอกก่อนแล้วว่าอย่าจัดเลย มันสะท้อนใจ แม่ไม่แฮปปี้ไม่ใช่เบิร์ธเดย์ ไม่อยากมองน้ำ แต่เขาอ้าง สส.เต้ ว่าจะจัด เราเห็นว่ามีผู้ใหญ่ด้วยเลยไม่ว่าอะไร” ส่วนที่แฟนคลับบอกจะมีเปิดภาพปริศนาเพิ่มเติมในวันที่ 26 ก.พ. นี้ “แม่ไม่ทราบเลย ภาพอะไรที่ไม่เหมาะสม อยากฝากถึงแฟนคลับน้องโม ภาพที่ไม่เหมาะสม อย่าเปิดเลย เอาแค่นี้พอ คดีอยู่ในศาลแล้ว เปิดมาก็ไม่มีประโยชน์ มันต้องตามขั้นตอน เข้าใจ แต่ถ้าเป็นปริศนาเราไม่อยากให้ทำ มันเหมือนไปทำร้ายน้องโม เพราะในฐานะแม่ เดินหน้าคดีอย่างเต็มที่ 100% หลายคนไม่รู้ว่าเราทำอะไรบ้างเพราะเราไม่ได้บอกใคร”

ขณะที่พิธีกรในรายการถามแม่จิ๋มถึงเรื่องที่ชาวเน็ตมองว่าเรารักเงินมากกว่าลูกเหรอ ? “มันคนละเรื่องกัน เงินก็เงิน เรามีสิทธิ์จะได้ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องลูก แม่ทุกคนรักลูก คิดถึงด้วยมาก ๆ ส่วนเรื่องคดีอาญา แม่รอขึ้นศาลนัดแรก วันที่ 2 มีนาคมนี้ แม่ยังมั่นใจว่าไม่ใช่แตงโมไปปัสสาวะแล้วตกเรื่อ แต่เป็นเรื่องประมาทในเรือ คาดว่าทางคดีน่าจะอีก 2 ปีถึงจบ คือปี 67 แม่ต้องไปศาล 48 นัด ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหาย 9.2 ล้านบาท และเรียกเพิ่ม 40.8 ล้าน จริง ๆ แม่ตั้งเป้าไว้ที่ 50 ล้าน แม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านก็ได้ แต่แม่เรียกแค่ 50 ล้าน เพราะเมื่อไปตรวจสอบเอกสารรายรับน้องโมจริง ๆ เขามีรายรับมาก ๆ เกิน 50 ล้าน”

หลายคนมองว่าแม่ไม่เห็นร้องไห้เลย ไม่รักลูกหรือเปล่า ? “แม่ร้องไห้ที่บ้าน ไปที่บ้านแม่สิจะได้เห็น แม่ไม่ร้องออกอากาศเพราะแม่อาย ตอนแม่ร้องเพลงแม่ก็ร้องไห้ไปด้วย ร้องไห้ทั้งเพลง เหมือนที่เอาตุ๊กตาหมีน้องแตงโมไปด้วยตลอด” ถามว่าเวลาคนวิจารณ์แม่รู้สึกยังไง ” ตอนนี้เฉย ๆ มาก ถ้าเป็นเรื่องเงิน แม่ต้องรับเงิน มันเป็นสิทธิ์ของแม่ อิจฉาหรือไง อธิบายแล้วว่ามันเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม ส่วนเรื่องเรียก 40-50 ล้าน เวลาคิดต้องใช้สมอง เรื่องคดีเป็นยังไง เรื่องเงินเป็นยังไง เป็นขั้นตอนของมัน กลั่นกรองแล้ว ตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เราไปบังคับใคร และถ้าวันนี้แตงโมยังอยู่ ชีวิตเราคงไม่อ้างวาง ไม่เดียวดาย เรามีลูกสาวที่คุยทุกเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ลูกชายก็ไปมีครอบครัวแล้ว บ้านยังอยู่ ไม่ได้ขาย บ้านโมยังเหมือนเดิม ยังไม่ขาย สงสารลูกอุส่าห์ทำมาหากินแล้วซื้อบ้านด้วยตัวเอง อีกหลังก็ไม่ขายแต่มีทนายความมาเช่าเป็นออฟฟิศ รถก็ยังอยู่ ทุกวันนี้แม่ใช้รถน้องโม”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


ข้อมูล-ภาพ : รายการเปิดปาก กับภาคภูมิ

เข้าชม 760 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม