ปปง. อายัดเพนท์เฮ้าส์ 245 ล้านบาท ของสามี “หยาดทิพย์” ไว้ตรวจสอบ ปมเอี่ยวรับซื้อทรัพย์สินจาก Forex-3D

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหากับพวกรวม 24 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง กรณี การใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึงอัตราร้อยละ 60 – 80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก


และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีการตรวจค้น และอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากคดีแชร์ Forex-3D หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ เพนท์เฮ้าส์หรู ภายในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร Forex-3D ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขณะนี้ โดยเพนท์เฮ้าส์หรูดังกล่าว เป็นหนึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ดีเอสไอได้ประสานส่งมอบกับสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในคดีแพ่งมาอย่างต่อเนื่อง

จากประเด็นที่เกิดขึ้น ทำให้เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสังเกตว่า “นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ” สามีนักแสดงสาว “หยาดทิพย์ ราชปาล” อาจเกี่ยวข้องกับการรับโอนทรัพย์สินจากนายอภิรักษ์ เนื่องจากหยาดทิพย์มีความสนิทสนมกับ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี อย่างไรก็ตาม หยาดทิพย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว โดยยืนยันว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับคดี FOREX-3D พร้อมทั้งยังระบุว่า คอนโดมิเนียมนั้นซื้อมาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบถ้วน และซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้ามาก่อนที่นายอภิรักษ์ จะถูกดำเนินคดีและเป็นข่าว ตามที่มีการรายงานข่าวมาแล้วนั้น


ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงาน ปปง. ว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากฐานคดีแชร์ Forex-3D มาให้ทางปปง. ดำเนินคดีทางแพ่งต่อนั้น ซึ่งรายการทรัพย์สิน เพนท์เฮ้าส์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิทของนายรามา ทาง ปปง. ได้ดำเนินการอายัดไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการดำเนินคดีก็ยังอยู่ในชั้นศาล

รายงานเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เนื่องจากเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าวเป็นรายการทรัพย์สินที่มาจากการฟอกเงิน โดยดีเอสไอได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกอย่างจึงพบว่ามีทรัพย์สินนี้อยู่ด้วย ซึ่งหากพูดถึงในกรณีนี้ ดีเอสไอจะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางอาญา ขณะที่ ปปง. จะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางแพ่ง และสามารถพิจารณาในส่วนของการฟอกเงินในทางอาญาเช่นเดียวกัน แต่หน้าที่หลักของ ปปง. คือ พิสูจน์รายการทรัพย์สิน โดยยึดตามหลักในลักษณะว่า รู้หรือควรรู้ว่าเป็นการรับซื้อหรือได้มาโดยสุจริต หรือโดยเจตนาเป็นต้น เพื่อเรียกเจ้าของทรัพย์สินเข้ามาชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินนั้นๆ แต่เบื้องต้นตนทราบจากทางดีเอสไอว่า ปปง. ได้ยึดอายัดเพนท์เฮ้าส์หรูดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

เข้าชม 664 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม