“เอ๊ะ” ยันเอาผิดคู่กรณีถึงที่สุด หวังยกระดับความปลอดภัยศิลปิน สร้างความปั่นป่วนไม่ใช่เรื่องเท่ ขอให้ทุกคนดูคอนเสิร์ตด้วยมาตรฐานความเป็นมนุษย์

จากกรณีนักร้องชื่อดัง “เอ๊ะ จิรากร” ถูกหนุ่มรายหนึ่งที่เข้ามานั่งดื่มกินในผับแห่งหนึ่งย่านรังสิตและมีอาการมึนเมาบุกขึ้นมาต่อยหน้าบนเวที ขณะที่ “เอ๊ะ” กำลังเล่นคอนเสิร์ตร้องเพลงมอบความสุขให้คนในร้าน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ “เอ๊ะ” ได้รับบาดเจ็บ และตัดสินใจที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับหนุ่มรายดังกล่าวอย่างถึงที่สุด ต่อวานเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6 ก.พ.2566) “นายธนวัฒน์ ผิวทองงาม” หรือ “ยีนส์ คลองสาม” อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “เอ๊ะ” ได้เดินทางมาที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมแสดงตนว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปที่ขึ้นไปทำร้ายร่างกาย เอ๊ะ จิรากร ขณะทำการแสดงบนเวทีจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ยอมรับว่าวันที่ก่อเหตุเมาจนขาดสติ ส่วนเหตุผลที่ขึ้นไปแย่งไมค์ “เอ๊ะ”บนเวที เพราะตั้งใจจะประกาศตามอดีตแฟนที่เป็นพีอาร์อยู่ที่ร้านแห่งนี้ แต่โดนการ์ดเข้ามาล็อก ตนรู้สึกตกใจและไม่พอใจจึงสะบัดแขนไปโดนหน้า “เอ๊ะ” ไม่ได้ต่อยหน้าหรือทำร้ายร่างกาย “เอ๊ะ”ทุกอย่างก็เกิดขึ้นตามคลิปที่ปรากฏ พร้อมขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ส่วนกรณีที่ตนเองโพสต์รูปเกี่ยวกับอาวุธปืนนั้นเป็นการสร้างคอนเทนต์ เพราะภาพนั้นเป็นปืนบีบีกันทั้งสามกระบอก และโพสต์ไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 สำหรับในวันเกิดเหตุตนเองไม่มีอาวุธปืนติดตัวไปแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ขอโทษเอ๊ะ เพราะตื่นตกใจเพราะการ์ดเข้ามาแล้วเกิดการชุลมุนอยู่ จนถึงขณะนี้ตนเองก็ยังไม่เจอแฟนสาว ดังนั้น วันนี้ตนมาที่โรงพักและมาพบตำรวจเพื่อแสดงตัวตนเอง และตนต้องกราบขอโทษคุณเอ๊ะ ขอโทษสังคมขอให้ทุกคนอย่าไปด่าถึงบุพการีตน พร้อมกันนี้ตนขอยืนยันและสัญญาว่าหลังจากนี้ตนเองจะเลิกดื่มสุราตลอดชีวิต


ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ.2566) “เอ๊ะ” เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวผ่านรายการโหนกระแส ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการดูแลกันและกัน โดย “เอ๊ะ” ยืนยันว่าคู่กรณีไม่ได้เหวี่ยงมือมาโดนอย่างที่กล่าวอ้าง แต่เจ้าตัวโดนต่อยเข้าเต็ม ๆ ตรงหู ตรวจร่างกายแล้วไม่ค่อยโอเค ประสิทธิภาพการได้ยินลดลง ก่อนที่จะเล่าย้อนว่าวันนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งผมเล่นคอนเสิร์ตอยู่ที่ร้านดังกล่าว ชายคนดังกล่าวเดินถือแก้วเครื่องดื่มเอามาให้ผมก่อนแล้ว ก่อนจะกลับไปนั่ง ผมก็ร้องเพลงต่อ จากนั้นเขาก็เดินมารอบที่ 2 ในมือถือแก้วและโทรศัพท์ ตอนนั้นผมก็สงสัยว่าเขาจะมาขอเพลงหรือเปล่า จึงตรงเข้าโอบเขา เพราะนึกว่าเขาจะกระซิบอะไร แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้กระซิบ การ์ดก็เข้ามาล็อก เพราะเขาเดินเข้ามาบริเวณสเตจ พอโดนการ์ดล็อกเขาก็สะบัดแล้วต่อยเข้าที่หน้าผม จนผมเซและกระเด็นไปจากจุดที่ยืน ทำให้ผมวิงค์และมีรอยแดงที่หู ก่อนที่การ์ดเข้ามากัน จากนั้นก็มีเพื่อนเขาอีกคนเดินมาบนเวที ตอนแรกนึกว่าจะมาห้ามเขา แต่กลายเป็นว่าเขาเดินเข้ามาคล้ายจะเข้ามาซ้ำผม มั่นใจว่าไม่ได้มีศัตรูที่ไหน วันนั้นก็ไม่ได้พูดแซวใคร พูดสุภาพมาก ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นเหตุตามหาแฟนอย่างที่เขาว่า แต่พอมองอีกมุม ทำไมเขาต้องชุลมุนกับคนทุกกลุ่ม เจตนาเหมือนป่วนทุกคน ป่วนผม ป่วนร้าน ป่วนการ์ด ลงไปแล้วก็ยังไปต่อยการ์ด ไปโวยวายตามหาแฟน สร้างความปั่นป่วนให้คนในร้านถ้าจะเข้ามาแย่งไมค์ไปประกาศอย่างที่กล่าวอ้าง ลักษณะมือแย่งไมค์ เขาต้องคว้ามือผม แต่นี่ไม่ใช่ เขาเหวี่ยงหมัดเข้าหน้าเต็ม ๆ ถ้าจะประกาศหาแฟนอย่างที่กล่าวอ้าง มันก็ไม่เกี่ยวกับผม และผมเองก็ไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวใด ๆ กับเขา กลัวเหมือนกันว่าเขาจะเป็นลูกท่านหลานเธอหรือเปล่า หลังเกิดเรื่องให้ทีมงานสืบหาว่าเขาเป็นใคร

วันนั้นเสร็จงานผมไม่กล้ากลับบ้าน เปลี่ยนรถกลับแล้วไปอยู่เซฟเฮาท์กับเพื่อน และปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน กลัวเขาจะกลับมาเล่นงานเราอีก และไม่รู้ว่าพักพวกเขาเยอะแค่ไหน เพราะหลังเกิดเหตุเพื่อนผมเดินตามเขาไปที่รถ พอเขาเปิดรถทุกคนผงะออกมาหมด คาดว่าเขาคงมีปืนในรถ เพราะพอเพื่อนผมเดินกลับมาเขาก็บอกให้ผมไปอยู่ในห้องนักดนตรีก่อน อย่าเพิ่งออกไปจนกว่าคนกลุ่มนั้นจะกลับไป ซึ่งผู้ใหญ่ก็บอกว่าเรื่องนี้ควรต้องดำเนินคดี เพราะเราเองก็ไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน เขาเองก็ไม่ใช่แฟนเพลงของเราด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบุกขึ้นมาประชิดตัวและทำร้ายร่างกาย ตอนที่โดนเราก็ควบคุมอารมณ์ตัวเอง นึกถึงหน้าลูก-เมียไว้ หลังเกิดเรื่องผมไปตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่ามีเสียงในหู ระดับการได้ยินลดลงกว่าเดิม หูข้างซ้ายยังอื้ออยู่ วอนอย่ามองว่าทำร้ายร่างกายศิลปินเป็นแฟชัน ทำแล้วเท่ ในมุมของศิลปิน เวลาทางร้านมีคอนเสิร์ตอยากให้ยกระดับการดูแลศิลปิน อยากให้ทางร้านตอบรับที่ทางค่ายร้องขอในเรื่องการ์ด เรื่องเวที เพื่อความปลอดภัย อยากมีมีมาตรฐานตรงนี้ และเวลาไปดูคอนเสิร์ตอยากให้ทุกคนมีมาตรฐานความเป็นมนุษย์ อยากให้เกียรติกัน ไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก วันนี้จะไปแจ้งความเอาผิดทุกคน ทุกวันนี้เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตก็ยังระแวง คิดว่าถ้ามาตรฐานความปลอดภัยดีขึ้น ก็น่าจะดีกับทุกฝ่าย ขอให้ยกมาตรฐานความปลอดภัยให้เกียรติ ให้น้ำใจต่อกันน่าจะมีความสุขมากกว่าการทำตัวกร่างหรือเด่นกว่าใคร มันไม่น่ารักเลยขอให้ศิลปินทุกคน ทุกค่ายมีมาตรการดูแลตัวเอง หาจุดกึ่งกลางในการทำงาน ยืนยันว่าดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดแน่นอน ตามพยานหลักฐาน ถ้าเขามาดักขอโทษ รับรู้การขอโทษ ส่วนจะรับดอกไม้ไหม ให้พี่กันจัดการดีกว่าครับ ขอโทษแต่ก็ไม่จบ ผมไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ถ้าขอโทษ รับกระเช้าแล้วจบมันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อีก ไม่ขอเจรจาก่อน ขอดำเนินคดีกับทุกคน เพราะรู้สึกว่าทุกคนมีส่วนสมรู้ร่วมคิดกัน มันคือความปลอดภัยของอาชีพผม มาตรฐานการให้เกียรติกันมันควรจะเกิดขึ้น คิดดูว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดกับนักร้องผู้หญิงจะเป็นยังไง ส่วนตัวผมหลังจากนี้คงต้องขอเว้นระยะ ไม่ให้เข้าประชิดตัวสักพัก ขอให้คดีมันจบก่อน ถ้าเรื่องเยอะคนก็มองว่าหยิ่งไป พอเฟรนด์ลี่ก็เจอแบบนี้ มันต้องหาจุดตรงกลางว่าเราจะจัดการกันยังไงกับการเล่นคอนเสิร์ต หลังจากนี้เวลาไปโชว์การ์ดคงต้องเหนียวแน่นขึ้น ก่อนเล่นอยู่บนรถตู้ เสร็จเสร็จก็ขึ้นรถตู้กลับเลย ค่อยถ่ายรูปกันวันหลัง ขอเซฟตัวเองก่อน ส่วนจะไปเรียนมวยไหม เดี๋ยวขอถามพี่บัวขาวก่อน ส่วนการรักษษอาการบาดเจ็บคุณหมอให้ยามาทาน หลังจากนี้ 1 สัปดาห์ให้ไปเช็กอาการอีกที เพราะระดับการได้ยินผมลดลงไปเยอะเหมือนกันครับ”

ด้านเจ้าของร้าน เปิดใจว่า “ส่วนตัวมองว่าเขาตั้งใจมาป่วนร้าน เพราะน้องพีอาร์ที่เป็นอดีตแฟนเขา ไม่ได้ลงงานแถวนี้ ถ้าเขาจะตามหาแฟนจริง ๆ เขาเดินเข้ามาในร้านต้องเดินถามหาอดีตแฟนกับน้อง ๆ พีอาร์คนอื่น ๆ แต่เขามานั่งในร้านปกติ และระหว่างที่ “เอ๊ะ” เล่นคอนเสิร์ตเขาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคอนเสิร์ตเลย นั่งเงียบ ๆ ดูโทรศัพท์ เหมือนรอเวลา เครื่องดื่มที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็ยุบลงนิดเดียว ไม่น่าจะเมาเหมือนที่เขากล่าวอ้าง ส่วนการ์ดที่หลายคนดูว่าเขาสุภาพ เคารพผู้ก่อเหตุ ต้องชี้แจงว่าการ์ดที่มาดูร้านเป็นการ์ดจากบริษัทข้างนอก ฉะนั้นการ์ดที่มาดูแลความปลอดภัยในงานคอนเสิร์ตของเอ๊ะจึงเป็นชุดใหม่ทั้งหมด หลังเกิดเรื่องแจ้งไปที่บริษัทการ์ดไปแล้ว ทางบริษัทก็ขอโทษและยอมรับว่าเข้าระงับเหตุช้า ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าคนที่ก่อเหตุตอนเข้าร้านก็ไม่ยอมปั๊มแขน และตอนคอนเสิร์ตเล่นก็เดินเข้าเดินออกตลอดเวลา ไม่ได้สนใจคอนเสิร์ตเหมือนลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ตั้งใจมาดู ยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องทางร้านได้รับผลกระทบเยอะ คราวหน้าเวลาจะจัดคอนเสิร์ตก็ต้องสร้างมาตรฐานความปลอดภัย ทำการ์ดบังศิลปินบนเวที เพิ่มจำนวนการ์ดที่ดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ร้านขอโทษที่บกพร่องในการประเมินทีมการ์ด ขอโทษเอ๊ะที่ต้องมาเจอผลกระทบโดนตรง ขอโทษแฟนคลับเอ๊ะ และขอโทษลูกค้าแฟนเพลงที่ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เสียอารมณ์แบบนี้” ขณะที่ “กันจอมพลัง” มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันผิดปกติ การกระทำที่กล้า อุกอาจแบบนี้ คนต้องคิดว่าเขาต้องมีคนคุ้มครองอยู่ พูดง่าย ๆ มีปลอกคอ เพราะมีคนอินบ็อกมาบอกว่าแบ็กเขาใหญ่ ถ้าไม่มีปอกคอเขาจะกล้าขนาดนี้เหรอ วันนี้เอ๊ะจะไปแจ้งความเอาผิดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้น้อง ๆ ศิลปิน เพราะหากในอนาคตมีคนไม่พอใจแล้วตามไปต่อย “เอ๊ะ” ทุกคอนเสิร์ตจะทำยังไง หรือหากคนที่โดนไม่ใช่เอ๊ะแต่เป็นน้อง ๆ นักดนตรีจะทำยังไง ตัวคนก่อเหตุหลังเกิดเรื่องยังไม่สำนึก โพสต์ขอโทษแต่ในมือถือปืน แม้จะอ้างว่าเป็นปืนปลอม ทำคอนเทนต์ก็ไม่ควร ไม่อยากให้คุกคามศิลปิน ทุกคนมามอบความสุข ไม่ได้ขายเรือนร่าง อยากให้ให้เกียรติเขาครับ ในส่วนของคดีความเรื่องนี้เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวจะรวบรวมพยานหลีกฐานทั้งหมดไปมอบให้ตำรวจ เข้าส่วนไหน ดำเนินการส่วนนั้น เอาให้เต็มที่ ใครที่เป็นเจ้าของปลอกคอของเขาอยู่ ถ้าอยากจะออกมาช่วยเรื่องนี้ ออกมาเลยนะครับ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันถูก แต่ถ้าไม่ออกมาก็ต้องคิดดูดี ๆ ว่าจะเลี้ยงดูคนแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ส่วนเรื่องค่าเสียหายต้องว่ากันอีกทีว่ามีส่วนไหนที่กระทบกับเอ๊ะบ้าง ทั้งในตอนนี้และในอนาคต รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางร้านด้วย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 77 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม