“เก่ง ธชย” ถ้าไหวก็ไปต่อ หลังข่าวจีบพระเอกหมอลำ “นุกเกอร์ กฤษกร” ร้อนระอุ

ก่อนหน้านี้นักร้องเด็กแนว “เก่ง ธชย” ออกมายอมรับว่ากำลังขายขนมจีบพระเอกหมอลำคนดัง “นุกเกอร์ กฤษกร”
ซึ่งพอข่าวออกไปเจ้าตัวยอมรับว่ามีกระแสพูดถึงเป็นจำนวนมา คนไดเร็กมาถามเยอะมาก เพื่อนก็ถาม คนเจอทุกคนทัก จนรู้สึกว่าข่าวนี้มันเร็วและแรงมาก
ตอนแรกกังวลแทนน้อง เพราะเค้าไม่ได้เคยมาอยู่วงการบันเทิงแบบเต็มตัว ก็บอกเขาว่าอย่าอ่านคอมเมนต์ แต่ตัวน้องเขาบอกว่าเขาชอบอ่าน เราก็ได้แค่แนะนำว่าถ้าอ่านอย่าให้มันเป็นพลังลบ เก่งก็ไม่ค่อยอ่าน เพราะเราเคยแล้ว บางทีเราคิดว่าเราควบคุมความรู้สึกได้ แต่เอาเข้าจริงๆ มันอิมแพกกับใจเรา ก็เลยแค่ดูยอดเฉยๆ ไม่อ่านคอมเมนต์ กลัวจิตใจเราไม่แข็งพอกับคอมเมนต์ เพราะปัจจุบันเราไม่รู้ว่าคนคิดยังไง บางทีเหมือนมีคนเปิดอีกคนตามอะไรแบบนี้
เสียงคอมเมนต์มีกระทบกับความสัมพันธ์ไหม? กับน้องไม่รู้ แต่กับเราก็มีบ้าง อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้น บางทีเปรยไปนิดเดียวทุกคนตีต่อ เรื่องก็เลยใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากคลิปแรกที่เราสัมภาษณ์มันประมาณหนึ่ง แต่มันตีความได้ใหญ่มาก เราก็อาจจะต้องคิดมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานที่เราสัมภาษณ์ น้อยมากที่จะเป็นเรื่องความรัก หรืออะไรแบบนี้ อยู่วงการมา 10 ปีแต่ประสบการณ์น้อยมากสำหรับเรื่องแบบนี้ ดังนั้นตัวเราต้องมีสติมากขึ้นในการที่จะพูดอะไรเพราะว่าคนสามารถเอาไปขยายได้อีก หลังจากนี้ก็เลยสแตนด์บาย รักษาระยะ เหมือนทุกคนจับตามองเรา
บางคนอาจจะมองว่าทำเรียกกระแสเรียกงานกันหรือเปล่า? แต่เก่งมองกลางๆ เพราะเชื่อว่าคนเราคิดได้หลากหลาย ดังนั้นไม่มีใครรู้ทุกอย่างดีเท่าตัวเราเอง ถ้าน้องไหวก็โอเค ก็ไปกันต่อ
พอเป็นข่าวพูดคุยกันมากขึ้น เพราะมันมีประเด็นให้คุยกัน ซึ่งน้องเค้าเห็นข่าวแล้วก็ปกตินะ รู้สึกว่าจากวันนั้นถึงวันนี้เรารู้จักกันมากขึ้น พอมีข่าวเราได้คุยกันมากขึ้น เรารู้สึกว่าเราได้รู้จักน้องมากขึ้นด้วย นั่นเป็นข้อดีจากเหตุการณ์นี้ แต่คนที่ตกใจน่าจะเป็นทีมงานเรามากกว่า ทุกคนว่าจะยังไงต่อดีแต่ตัวเราไม่เป็นไรหรอก ลูกน้องคิดมากซะมากกว่า
ก็ยังมองเรื่องอะไรดีๆ ที่เข้ามามากกว่า เก่งว่าการที่เรากล้าพูดในบางสิ่ง เมื่อเรามีโอกาสของการเป็นคนที่มีพื้นที่สื่อ เราเล่าในเรื่องที่มันเป็นอิสระ รู้สึกว่ามันทำให้ใครหลายๆ คนกล้าที่จะพูดในบางเรื่อง เก่งอยากให้โลกของเรามันไปอีกสเต็บ ดังนั้นเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ขอสนับสนุนเรื่องของการเปิดกว้าง ส่วนตัวเรารู้สึกว่าศิลปะวัฒนธรรมมันไม่ได้บ่งบอกแยกเพศรู้สึกว่าตรงนี้มันน่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากจะเล่า แต่ไม่ได้บอกว่าผมเป็นอะไรนะ แม้กระทั่งเรื่องเก่งกับน้อง เราก็ยังไม่ได้สรุปว่าท้ายที่สุดเราเป็นอะไร เพียงแต่สิ่งที่เรากำลังพูด คือเรากล้าเล่าในเรื่องที่โลกมนุษย์มันมีหลากหลายกว่าที่เราคิด
ก่งว่าความรักในปัจจุบัน ด้วยความที่โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว แล้วเราก็เห็นว่าความชอบหลายๆ อย่างของมนุษย์แม้กระทั่งบุคลิกภาพหรือบางอย่างของคนเรามันเปลี่ยนเร็วมาก อย่าไปยึดติด อย่าไปเจาะจงหรือบังคับใส่กรอบเพราะความรักมันเป็นเรื่องของความรู้สึก ก็ให้ใช้หัวใจตัดสิน อย่าเอาข้อความแค่บางข้อความมาจำกัดความรู้สึกของเรา.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน




เข้าชม 577 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม