จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหากับพวก กรณีการใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) ซึ่งวานนี้ (18 ส.ค. 2565) มีการส่งฟ้องผู้ต้องหาครั้งเดียว 19 คน ในจำนวนนี้มีนางเอกดัง “พิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช” พร้อมคุณแม่ “อ้อย สรินยา” และพี่ชาย ในข้อหากระทำความผิดโดยทุจริต ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งหมด ก่อนอัยการแนะทาง DSI เรียกอีก 16 คน หนึ่งในนี้มีคู่รักคนดัง “ดีเจแมน พัฒนพล” และภรรยา “ใบเตย สุธีวัน” รวมอยู่ด้วย มาสอบเพิ่มก่อนดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้(19 ส.ค. 2565) ทางไนน์เอ็นเตอร์เทนได้ต่อสายตรงไปหา “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” ทนายชื่อดัง เพื่อสอบถามถึงกรณีคดีของ “พิ้งค์กี้” และ “แมน-ใบเตย” โดยทนายคนดังเผยว่า “สำหรับ “พิ้งค์กี้” ในกรณีที่เป็นจำเลย หรือ ผู้ต้องหาในคดีอาญา ร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อต่อสู้คดีเต็มที่ ซึ่งมีหลายเคส ที่ศาลไม่อนุญาตให้ทำการปล่อยตัวชั่วคราว เช่น คดีร้ายแรง , คดีสะเทือนขวัญ, คดีที่มีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก หรือจำเลยมีพฤติการหลบหนี พนักงานจะไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่จำเลยมีสิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยตัวใหม่ ที่ศาลอุทธรณ์ หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว
แต่ในกรณี ฝั่งทนายพิ้งค์กี้ สามารถยื่นขอคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวใหม่ได้เลย แต่ถ้าในมุมของทนายเจมส์ หากเป็นทนายในคดีนี้ จะยังไม่ยื่นคำร้องในตอนนี้ เพราะจะไปรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุดก่อนทำการยื่นเรื่อง เช่น ไปเช็กเส้นทางการเงินของพิ้งค์กี้ ว่ามีมูลค่าเกิน 2 พันล้านตามมูลค่าความเสียหายหรือไม่ สำหรับการยึดทรัพย์สิน ทาง DSI สามารถกระทำได้เลย แต่เป็นการยึดทรัพย์สินเพื่อไปตรวจสอบ ไม่ใช่ยึดเพื่อไปขายใช้หนี้ผู้เสียหาย เพราะถ้าถึงขั้นตอนนั้นต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อน
และตามที่ดูข่าวพิ้งค์กี้ โดน 2 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน 2. กระทำความผิดโดยทุจริต ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้ามีความผิดจริง มีการพิจารณาแบบเรียงกระทงความผิด ใครโอนเงินเท่าไร ก็เป็น 1 กระทงอย่างนี้ ความผิดอาจจะถึงขั้นโทษจำคุก 1 พันปี ก็เป็นได้ แต่เพดานโทษ มันมีกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 10 หรือ 20 ปี ตัวอย่างเช่น กรณีซินแสที่เคยฉ้อโกงประชาชนเจอโทษเป็น พันปี แต่ก็เจอโทษจริงแค่ 10 ปีเท่านั้น และถ้าอยู่ระหว่างถูกจำคุก มีการจัดชั้นนักโทษ และมีการอภัยโทษ ก็มีสิทธิได้รับการอภัยโทษได้
ในกรณีคดีของพิ้งค์กี้ถามว่าพิพากษาจะสิ้นสุดเมื่อไร แบ่งเป็น 2 อย่าง หากจำเลย ถูกคุมขังอยู่ ศาลก็จะดำเนินการโดยเร็ว ไม่สามารถปล่อยคดียืดเยื้อได้ ใช้เวลา 1-2 ปีก็จะได้รับคำพิพากษา แต่ถ้าไม่ คดีก็จะยืดยาวไปอีก คดีนี้ ทนายเจมส์มองว่าพิ้งค์กี้อาจจะไม่ได้ถูกดำเนินคดีแค่ 2 ข้อหา อาจจะโดนเพิ่มอีก 1 คดี คือ คดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน หากได้รับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับการจากการฉ้อโกงประชาชาน ก็อาจจะเจอข้อหานี้เพิ่มเติมด้วย แต่ต้องมาดูหลักฐานว่า มีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า สำหรับการเป็นคนดังที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อให้ร่วมลงทุนนั้น ไม่น่าเกี่ยวกับการทำให้คดีถูกเพิ่มโทษ เพราะคนดังเหล่านี้ก็อาจตกเป็นเครื่องมือของผู้กระทำความผิดก็ได้
และในส่วนของ “ใบเตย-แมน” ทางทนายเจมส์เผยว่า ” ทางอัยการมีสิทธิให้พนักงานสอบสวนมาสอบถามในสิ่งที่สงสัย แล้วก็ทนายเจมส์ กำลังรอหนังสือจาก DSI ว่าจะส่งฟ้องร้องหรือเปล่า สำหรับเรื่องภาพ ดีเจแมน ร่วมพูดคุยกับนายอภิลักษณ์ มองว่ามันเป็นเพียงภาพนิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นการพูดคุยเรื่อง Forex หรือเปล่า เพราะในกรณีของดีเจแมน ไม่ได้โพสต์ชักชวนอะไรเลย ดีเจแมนเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ร่วมลงทุนด้วยซ้ำ ก่อนหน้าดีเจแมนเคยถูกกันให้เป็นพยาน แต่ตอนนี้ไม่ทราบ ขอรอดูหนังสือจากทางอัยการก่อน ส่วนใบเตยไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย แค่เป็นภรรยาของดีเจแมนเท่านั้น และหลักฐานทั้งหมดครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าอัยการสงสัยตรงจุดไหน จึงมาแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเขาก็มีสิทธิสงสัย เราก็แค่ไปเคลียร์แล้วก็จบ ตอนนี้รอหนังสือจาก DSI ก่อน แล้วค่อยไปชี้แจง และรับทราบข้อกล่าวหา ถ้ามีการแจ้ง ตอนนี้คุยกับดีเจแมน-ใบเตย คร่าว ๆ ว่า ได้หนังสือหรือยัง ส่วนตัวทั้งหมด ทางฝั่งทนายและดีเจแมน-ใบเตย ไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
