“ทนาย” ยัน “ครูไพบูลย์” ไม่ฟ้อง “หนุ่ม กรรชัย” ล้านเปอร์เซ็นต์

จากกรณี “ไพบูลย์ แสงเดือน” ยื่นฟ้องอดีตภรรยา “เอ๋ มิรา” ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาทำให้เสียหาย หลังจาก “เอ๋ มิรา” ไปออกรายการหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลังจากได้รับหมายศาลทาง “เอ๋ มิรา” จึงได้ให้ทนายความรวบรวมหลักฐาน ยื่นฟ้องกลับ “ครูไพบูลย์” ในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นอาญาแผ่นดิน พร้อมกับเรียกร้องแบ่งสินสมรสมูลค่า 20 ล้านบาททันที


ล่าสุดวันนี้ (6 ต.ค. 2564) “เอ๋ มิรา” พร้อมทนายความเดินทางไปออกรายการที่เคยเป็นเรื่องราวฟ้องร้องกันอีกครั้ง โดยเป็นการชี้แจงรายละเอียดว่า การฟ้องร้องกลับอดีตสามีในข้อหาพรากผู้เยาว์ เกิดจากก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่จะมีการจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งขณะนั้น “เอ๋” อายุ 14 ปี คุณแม่ของ “เอ๋ มิรา” มิได้ยินยอมให้ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่หลังจากทราบว่าลูกสาวได้มีสัมพันธ์เกินเลยกันแล้ว จึงได้ทำสัญญาต่อหน้าผู้ใหญ่บ้านให้ฝ่ายชายนำเงินจำนวน 1-2 แสนบาทมาสู่ขอ ซึ่งฝ่ายชายไม่ได้ทำตามในสัญญาจึงถือว่ามิได้ยินยอม พร้อมกับออกปากฝากถึงอดีสามีว่า “ถ้าคุณไม่นอกใจ เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เป็นแบบนี้ คงอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ขอโทษลูกที่แม่ไม่สามารถรักษาครอบครัวไว้ได้ และถ้าลูกชายโตขึ้นคิดว่าคงไม่ทำให้ผู้หญิงต้องมาร้องไห้แบบนี้”

ล่าสุดทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนได้ต่อสายตรงพูดคุยกับทางทนายธีระพงษ์ทนายความของ “ครูไพบูลย์” ซึ่งได้เผยว่าหลังจากได้ชมรายการ รู้สึกเฉย ๆ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาจะทำอะไร เรามีเอกสารและข้อกฎหมายที่จะต่อสู้อยู่แล้ว การออกมาฟ้องของอีกฝ่ายมองว่าเป็นการออกมาแก้เกี้ยวซะมากกว่า

ในเรื่องของการฟ้องร้อง “ครูไพบูลย์” ข้อหาพรากผู้เยาว์มองว่าเราได้เตรียมหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเมื่อวานได้ทราบว่าอีกฝ่ายได้เข้าไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ศรีบุญเรือง เรามีพยานตัวบุคคลไว้ต่อสู้ทั้งหมด มองว่าไม่ใช่การพรากผู้เยาว์แต่เป็นการยินยอม เนื่องจากเราเอามาเป็นภรรยา เป็นแม่ของลูก จดทะเบียนสมรสทุกอย่างเรียบร้อย นั่นถือว่าเป็นความยินยอมแล้ว เช่นเดียวกับพ่อแม่ถ้าไม่รับรู้คงไม่มีการร่างสัญญาให้มาสู่ขอ และมองว่าหาก “ครูไพบูลย์” พรากผู้เยาว์จริง ทำไมไม่ฟ้องร้องตั้งแต่แรก ส่วนเหตุผลที่ตอนนั้น “ครูไพบูลย์” ไม่ไปสู่ขอ เพราะในตอนนั้นยังไม่รับราชการครู ยังไม่มีเงินมากพอที่จะไปสู่ขอ

เช่นเดียวกับการฟ้องเพื่อแบ่งสินสมรส ทนายความเผยว่า ตั้งแต่ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันจดทะเบียนสมรสเมื่อเดือน มิถุนายน 2561 และหย่าขาดกันในเดือน ตุลาคม 2561 ไม่มีสินสมรสใด ๆ มีเพียงหนี้สินเท่านั้น จากกู้สหกรณ์ประมาน 2 ล้านบาท และจากการซื้อรถประมาน 6 แสนบาท ที่ผ่านมา “ครูไพบูลย์” ได้ทำการชำระหนี้ด้วยตัวเองทั้งหมดแล้ว และหากอีกฝ่ายอยากฟ้องในประเด็นนี้ อาจจะจัดทำเอกสารเพิ่มเติม ให้นำเงินในส่วนที่ควรจะช่วยกันชำระหนี้มาจ่ายให้ “ครูไพบูลย์” ซึ่งที่ผ่านมา “เอ๋ มิรา” ทราบเรื่องนี้มาตลอด


ขณะที่การฟ้องร้องหมิ่นประมาทของ “ครูไพบูลย์” ที่ยื่นฟ้อง “เอ๋ มิรา” นั่น ทนายความเผยว่า เป็นการยื่นฟ้องโดย 2 โจทย์ คือ โจทย์ที่ 1 “ครูไพบูลย์” ฟ้อง “เอ๋ มิรา” เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท โจทย์ที่ 2 คือ “กระต่าย พรรณนิภา” ยื่นฟ้อง “เอ๋ มิรา” เรียกค่าเสียหายอีก 1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 คนร่วมกันฟ้อง 1 ล้านบาทอย่างที่หลายคนเข้าใจก่อนหน้านี้

ส่วนรายการดังที่ “เอ๋ มิรา” ไปออก จนเกิดเป็นชนวนแห่งการฟ้องร้องนี้ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าทาง “ครูไพบูลย์” ได้ทำการให้ทนายความรวบรวมเอกสารเตรียมยื่นฟ้องรายการ รวมถึงพิธีกรอย่าง “หนุ่ม กรรชัย” ทนายความยืนยันว่า ไม่มีการฟ้องทั้งในตัวบริษัทที่ผลิตรายการ และพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย” ล้านเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพิธีกรจะมีกฎหมายคุ้มครองตรงนี้อยู่แล้วในเรื่องการทำหน้าที่สื่อ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ แต่เร็ว ๆ นี้จะมีการฟ้องบุคคลอื่น ๆ เพิ่มอีก 3 ราย แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เป็นการฟ้องครั้งใหญ่ โดยภายในเดือนนี้จะมีการนัดสื่อมวลชน แถลงข่าวอีกครั้ง :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 390 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม