ขอแสดงความยินดีกับนักร้องลูกทุ่งสาวเสียงหวาน “ฝน ธนสุนธร” ที่เพิ่งถูกหวานใจสาวหล่อ “เอ อุไรมนัส” ที่คบหาดูใจและดูแลกันมานาน 18 ปี ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน
หลังควงกันไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่านรายการ “วู้ดดี้ โชว์” เจ้าตัวตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
.
โดย “ฝน” เผยว่า “ตอนแรกที่ไม่เปิดเผยว่าคบกันอาจจะอาจเป็นเพราะเราก็ยังไม่มั่นใจในตัวเราเองว่า จริงไหม ใช่ไหม เพราะตอนแรกเลยที่เราเปิดใจคบเขา เราไม่ได้จะคบ เราจะให้เขามาเป็นไม้กันหมาให้เราจากผู้ชายหลาย ๆ คนที่เขามาเป็นสิบคน เราก็รู้สึกว่าคนนี้ก็ไม่ใช่ คนนั้นก็ไม่ใช่ แล้วจะทำยังไงดีที่ไม่ต้องมานั่งบอกว่าไม่ ก็เลยดึงเอมาคบกันมาอยู่ใกล้ ๆ ให้คนเห็นเขาจะได้แตกออกไป แล้วผู้ชายทั้งหมดก็หายไปจริง ๆ เราก็โอเคสบายใจแล้ว อ้าวแต่คนนี้ยังอยู่ เราก็บอกเขาตรง ๆ ว่าที่แบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับเรา แต่สรุปแล้วพอเขาดูแลเรามาเรื่อย ๆ เราก็เลยรู้สึกว่าชีวิตคนเรามันต้องการอะไร ความรักจากใครที่ให้เรามา เราต้องการแบบไหนความรักซึ่งเขาก็ทำให้เราได้หมดทุกอย่าง แล้วเราจะต้องการสิ่งไหนอีก ในเมื่อเขาก็ดูแลเราได้ แล้วเราก็ทำมาหากินได้ ไม่ต้องไปหวังว่าหาแฟนรวย ๆ เพื่อที่จะเลี้ยงเรามาดูแลเรา แต่หาแฟนรวย ๆ แล้วเขาไปมีกิ๊กเราก็เจ็บปวดใจอีก แต่นี่เราช่วยกันทำมาหากิน แล้วเขาไม่เคยทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ ก็เลยถามตัวเองว่าแล้วคุณจะยังอยากได้อะไรอีก”
.
“คบกับเขาคุ้มแสนคุ้ม ไม่เสียดายอะไร เราไม่ได้ทำอะไรเสียหายด้วย จะบอกเลยนะคะว่าพวกเราแบบนี้แหล่ะ หรือว่าสาวประเภทสองก็ตาม คนเหล่านี้แหล่ะเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่จะบอกให้ เพราะฉะนั้นอย่ามองว่าเราผิดแปลก ผิดปกติ เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้สังคมแรก ๆ ที่มีดราม่าอาจจะเพราะว่าเป็นก่อนหน้านี้สังคมยังไม่ยอมรับ พอไม่ยอมรับ เราก็จะไม่พูด เราก็จะอยู่ในที่ของเรา ถามว่าเราดูแลกันมายังไง ก็เป็นมาแบบนี้เกือบ 20 ปี แล้ว แต่ที่ยังไม่พูดเพราะสังคมยังไม่ให้โอกาสเรา และสังคมยังคาดหวังกับเราอยู่ว่าเราจะต้องแบบยังงั้นยังงี้เหมือนที่เขาอยากจะให้เป็น พอไม่เป็นแบบนั้นเขาก็จะผิดหวัง จะไม่เป็นที่นิยม จะเลิกติดตาม แต่ตอนนี้ทุกคนเข้ามาคู่นี้น่ารักอ่ะ ชอบคู่นี้ หลายๆ คนบอกว่าคู่นี้เป็นไอดอลให้กับเขา บางคนก็บอกว่าขอบคุณมากเลยตอนนี้พ่อกับแม่ยอมรับเขาแล้ว”
.
“จริง ๆ ในความรู้สึกของฝนการแต่งงานมันไม่ใช่บทสรุป ในส่วนของเราคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย แต่มันสำคัญสำหรับเขา เราก็มองว่าอะไรที่ทำให้เขามีความสุขได้ เขาจะชอบถามฝนเสมอว่า รักเขาไหม? แล้วเราไม่เคยพูดเราไม่เคยตอบเพราะเรารู้สึกว่าแค่คำพูดมันไม่ได้คอนเฟิร์มอะไรหรอก แต่เราก็รู้ว่าเขาอยากได้ยิน เขาก็อยากทำอะไรให้มันเป็นรูปธรรม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดเลย แล้วเขาจะมานั่งร้องไห้ว่าพี่ฝนตกลงเขาคือตัวอะไรในชีวิตพี่ฝนอะไรแบบนี้ เราก็เลยบอกว่าโอเคถ้าวันนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินเรื่องอะไร เราก็อยากจะจัด เพื่อที่จะให้เขามีความสุข ถามว่าเรามีความสุขไหมก็มีความสุข แต่อยากให้เขามีความสุขมากกว่า”
“เอ” กล่าวเสริมว่า “ย้อนกลับไป 20 ปีก่อนเราเจอเขาตามงานร้องเพลง เมื่อก่อนเอเป็นแดนเซอร์ ก็แค่มอง ๆ ชอบเสียงเขา ชอบความน่ารัก ร้องเพลงเพราะ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่เคียงข้างกัน พอเขาเปิดโอกาสให้ก็ได้คบกัน ตอนที่เปิดตัวมีดราม่าเยอะมาก คำพูดที่ทำให้รู้สึกเสียใจคือคบกับเราแล้วเสียดายของ เหมือนกับว่าเราสบาย มาเกาะเขากินไม่ต้องทำงาน ทั้งที่เขาไม่รู้หรอกว่าเราทำยิ่งกว่าอะไรอีก เขาไม่ต้องจ้างคนขับรถ ไม่ต้องจ้างแม่บ้าน ไม่ต้องจ้างอะไรสักอย่างเลยในคอนเสิร์ตแม้แต่แดนเซอร์ก็ไม่ต้องจ้าง”
.
“จริง ๆ เรามีแพลนจะแต่งงานกันเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ต้องล้มโครงการเพราะโควิด คือตอนสิ้นปีได้จัดเลี้ยงปีใหม่ เราก็คุยกันโดนยุกันว่า 29 มี.ค. จะเป็นวันครบรอบ 18 ปีเต็มที่ผ่านมา งั้นครบรอบปีนี้จะพิเศษหน่อยเดี๋ยวเราจะจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในกลุ่มเพื่อน จัดกันเองแบบส่วนตัวแต่พอมาเกิดช่วงนี้ขึ้นก็ล้มเลิกไปก่อน ด้วยเศรษฐกิจและอะไรหลาย ๆ อย่าง จริง ๆ ฝนเขาแค่อยากจัดแค่พิธิเล็ก ๆ เพราะยังจดทะเบียนสมรสไม่ได้ ถามว่ายังอยากแต่งงานไหม ยังอยากแต่งอยู่ค่ะ (คุกเข่า หยิบแหวน) ก็ไม่มีอะไรมากมากมายค่ะ อยากอยู่ดูแลพี่ฝนตลอดไปแล้วก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ รักยังไงก็รักอย่างงั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่งงานกันนะ“
.
วินาทีที่หวานใจคุกเข่าขอแต่งงาน “ฝน” ซึ้งจนจนกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลงแบบยิ้ม ๆ ก่อนจะเปิดใจว่า “ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะกล้า มันก็เป็นความไฝ่ฝันของผู้หญิง ถึงแม้ว่าเราจะมองว่ามันไม่ใช่บทสรุป แต่มันก็เป็นอะไรที่ชื่นใจ จริง ๆ ก็อยากให้พ่อกับแม่ได้เห็นด้วย แต่พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้วแต่พ่อกับแม่คงเห็นว่าเอดูแลพี่ฝน ขอบคุณนะคะ แล้วก็ขอบคุณพี่วู้ดดี้มากๆ นะคะ” ด้าน “เอ” กล่าวต่อด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสุขว่า “ขอบคุณที่ทำให้ฝันเป็นจริง”
.
ส่วนแพลนอนาคตหลังจากนี้ “ฝน” เผยว่า “คือมันเป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มี บอกตรงๆ ว่าเราก็เป็นห่วงเขา เพราะว่าคือเราทำงาน 18 ปี ที่เราคบกันมาคือเราทำงานด้วยกัน หาเงินด้วยกัน อะไรด้วยกัน เพราะฉะนั้นทรัพย์สมบัติคือเราไม่ได้หาคนเดียว
เขามีส่วนร่วมช่วยกับเรา แต่ว่าพอไม่มีกฎหมายตรงนี้รองรับเราก็มองว่าเรารู้วันเกิดแต่เราไม่รู้วันตาย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราแล้วเขาจะเหลืออะไร ทั้งๆ เป็นคู่ชีวิตที่ช่วยหากันมา ถ้าไม่มีกฎหมายอะไรรองรับขณะนั้นก็คิดเหมือนกันค่ะ ว่าจะเขียนพินัยกรรมยกให้กับเขา
แต่ก็กลัวอีกว่าจะมีปัญหาอะไรมั้ยเพราะคนละนามสกุลกัน ก็เลยมองว่าเราจะเซ็นให้เขาเป็นน้องบุญธรรมเพื่อที่จะนามสกุลเดียวกันกับเรา เขาจะได้ไปบริหารจัดการอะไรได้ มีหนทางนี้แค่หนทางเดียว”
.
สำหรับเรื่องลูก เราเคยคุยกันสนุก ๆ มากกว่า ถ้าฝนมีลูกจะต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ เลย เพราะแม่ก็คงจะห่วงลูกทุกๆ ฝีก้าวในยุคนี้ อันนั้นอันนี้ก็คงไม่ได้ เราคงเป็นแม่ประเภทนั้นแน่ๆ แล้วก็เคยคุยกับนักร้องท่านหนึ่ง แล้วเขาบอกว่าเขายินดีไปรูดการ์ดให้นะ ก็คือเขายินดีที่จะบริจาคเชื้อ เขาให้คำนี้จริงๆ พี่วู้ดดี้ ให้ฉีดเข้าที่เอนะ เพราะฝนท้องไม่ได้ต้องทำงานให้ท้องแทนเพราะอายุน้อยกว่าอันนี้คือคุยกันเล่นๆ นะคะ ซึ่งเขาคือ พี่เท่ห์-อุเทน พรหมมินทร์ค่ะ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน