“มิเกล” เปิดใจ! ตัดสิ้นความเป็นแม่ลูก ปัดเป็นเพราะเรื่องค่าใช้จ่าย

หลังอดีตนางแบบสาวและร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ “สุกัญญา มิเกล” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Sukanya Migael แจ้งว่าตอนนี้ตนเองได้ตัดขาดความสัมพันธ์สิ้นสุดความเป็นแม่กับลูกสาวคนโต “น้องเลอเบีย” วัย 16 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา
.
ล่าสุดวันนี้(22 มิ.ย. 2564) “มิเกล” ให้สัมภาษณ์เปิดใจผ่านวิดีโอคอลกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่าสภาพจิตใจตอนนี้ถือว่าดีขึ้นแล้ว หลังจาก 3 วัน (รวมวันนี้) อยู่กับน้ำตาและรู้สึกดิ่งมาตลอดเพราะภาพความทรงจำเก่า ๆ ตั้งแต่วันอุ้มท้องย้อนกลับมาให้เห็นภาพเสมอ การตัดสินใจโพสต์ข้อความเกิดขึ้นหลังจากที่รู้สึกว่าชีวิตของลูกสาวได้เดินทางมาถึงจุดที่เราสามารถให้เขาตัดสินใจและเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้แล้ว ก่อนหน้านี้เคยเตรียมใจเรื่องนี้มาบ้างแล้ว เพราะมองว่าวันหนึ่งลูกจะต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง การเลี้ยงดูของครอบครัวมีมุมมองว่าวันหนึ่งจะไม่โยงลูกไว้ด้วยคำว่า “แม่” เพราะคำว่า “แม่” ในมุมมองตัวเองคือลูกต้องเลี้ยงดู สร้างความเป็นมนุษย์ และลูกต้องคอยปฎิบัติดูแล นั่นจึงทำให้มีความคิดว่าไม่อยากเอาสิ่งเหล่านี้โยงลูกเอาไว้
.
มองว่าการตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กในตอนนี้ไม่เร็วจนเกินไป เพราะลูกสาวอายุ 16 ปีแล้ว เป็นนางสาวมีบัตรประชาชนแล้ว ที่ผ่านมาหลังจากตัดสินใจจบชีวิตคู่กับอดีตสามีเมื่อ 5 ปีก่อน ได้ติดต่อลูกบ้าง ผ่านการคุยโทรศัพท์ ไลน์ และเฟซบุ๊กบ้าง แต่ช่วง 2 ปีหลังไม่เคยได้พบเจอกับลูกสาวเลย เชื่อว่าลูกคงมีเหตุผลของลูก การตัดสัมพันธ์แม่-ลูก ในวันนี้ เป็นเพียงการลดสถานะของตัวเองให้เหลือเพียงเพื่อนสนิทที่สุดกับลูกสาว ถ้าวันหนึ่งลูกสาวเกิดปัญหาในชีวิตยังคงให้คำปรึกษาได้ตามปกติ ผู้หญิงคนนี้ยังคงอยู่เคียงข้างเสมอ
.
การตัดสินใจได้ผ่านการคิดและตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว ได้พูดคุยกับลูกโดยตรงถึงเรื่องนี้แล้วด้วย ที่ผ่านมาได้ปรึกษาทนายความ เพื่อหาทางออกของการตัดพันธะหรือสถานะความเป็น “แม่” โดยจะใช้เวลาราว 3 เดือนเพื่อจัดการเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องมีการขึ้นศาลกัน แต่ฝั่งของลูกมีสิทธิ์ที่จะไม่เดินทางมาเจอหน้าได้ หรือหากมีข้อโต้แย้งใด ๆ ก็ต้องเดินทางมา แต่ส่วนตัวในมุมผู้หญิงที่สนิทที่สุดเชื่อว่าลูกจะไม่โต้แย้ง ยืนยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์เรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเรื่องเงินเป็นคำสั่งศาลเมื่อ 5 ปีก่อนอยู่แล้วว่าให้อดีตสามีเป็นผู้จัดการเรื่องเงินของลูกสาว ส่วน “มิเกล” จัดการในฝั่งของลูกชาย
.
ขณะเดียวกันในสื่อโซเชียลเองอาจมีข้อสงสัย หรือตั้งคำถามว่า “สามารถตัดความสัมพันธ์ของแม่-ลูกได้จริงหรือ” ซึ่งในมุมของเจ้าตัวมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวของแต่ละคน รวมถึงเป็นความสัมพันธ์ของแต่ละคน ไม่มีใครเข้าใจได้เท่ากับคนในครอบครัว ที่ผ่านมาอาจจะมีบางคนเขียนแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสได้อ่าน และหากยังไม่หยุดอาจมีการพึ่งกฎหมายมาเป็นตัวกลางในการจัดการ ตอนนี้ยังไม่มีการลิสต์รายชื่อแต่อนาคตไม่แน่ เช่นเดียวกับประเด็นที่บางคนอาจจะมองว่าสาเหตุของปัญหาครอบครัวเกิดขึ้นเพราะ “มิเกล” ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ครั้งใหม่แถมยังเป็นการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน “มิเกล” เผยว่าไม่ใช่ปัญหาตรงนี้แน่นอน สามารถไปดูหลักฐานในเฟซบุ๊กได้เลย
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา “มิเกล” โพสต์ข้อความว่า “บันทึกสุดท้าย..ส่งถึง น.ส.ลูก วันนี้..เป็นวันที่ฉันค้นพบความจริงที่ว่า “ความเป็นแม่นั้นมันสิ้นสุดได้” มันก่อตัวขั้นเมื่อมีอีกหัวใจในท้อง และต่างฟังเสียงหัวใจของกันและกัน ใช้เลือดฉันเป็นเลือดเธอ สเปิร์มตัวเดียวไม่สามารถสร้างมนุษย์ได้… เราเคยคิดว่าความเป็นแม่มันจะไม่มีวันสิ้นสุด…แต่เอาเข้าจริง ความเป็นลูกเป็นแม่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเลือดเดียวกัน หากแต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ผูกวิญญาณกันไว้หรือไม่ต่างหาก”วิญญาณสองดวงผูกพันกัน”
หากเราจะยังเหลือคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ไร้หัวโขน คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน มันต้องถึงเวลาปลดพันธะให้กันและกัน ความเป็นแม่..มันคงต้องมีไว้สำหรับคนที่เห็นคุณค่ามันเท่านั้น…..ไม่มีใครชนะ จากเหตุการณ์เช่นนี้ มีเพียงปีศาจเท่านั้นที่หัวเราะชอบใจ….. ลาก่อน น.ส.ลูก”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน