จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ : ลุงตู่ตูน โพสต์ภาพและให้กำลังใจนักแสดงตลกชื่อดัง “น้าค่อม ชวนชื่น” หรือ “นายอาคม ปรีดากุล” ที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคไวรัสโควิด-19 มีอาการเชื้อลงปอด ปอดอักเสบรุนแรงมาก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจทางปาก ตอนนี้อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และที่หนักลงไปอีกคือมีภาวะไตวาย ต้องฟอกไตวันละ 2-3 ครั้ง และตอนนี้ได้ย้ายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงแล้ว ซึ่งก็มีแฟนเพจเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา เปรียบเทียบกับเคสอื่น ๆ ที่กักตัวเองรอเตียงว่างเพื่อเข้ารับการรักษา แต่บางรายการรอนานจนทนไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด บางส่วนมองว่าเคสนี้เป็นการใช้เส้นสายหรืออภิสิทธิ์หรือเปล่า
.
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 เม.ย.2564 ) เฟซบุ๊กเพจ : Vibharam Hospital ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอคำชี้แจงจาก “นายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม เรื่อง การย้ายผู้ป่วยโควิดวิกฤตฉุกเฉินที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการรักษา#น้าค่อม #ผู้ป่วยโควิดวิกฤตฉุกเฉิน #โรงพยาบาลวิภาราม
.
นายแพทย์ไพบูลย์ ระบุว่า “เหตุผลที่ต้องย้ายน้าค่อมเพราะเป็นคนที่สูงอายุแล้ว มีโรคประจำตัวหลายอย่าง และตรวจเจอเชื้อโควิด-19 ช่วงแรกอาการยังไม่มาก ก็ไปอยู่อีกโรงพยาลาลหนึ่งในเครือของเรา แต่ปอดมีอาการอักเสบมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น จึงได้ย้ายมาที่โรงพยาบาลวิภาราม ซึ่งเรามีห้องไอซียูความดันลบ (ICU Negative Pressure Room) อยู่ 12 เตียง ซึ่งตอนนี้เต็มหมดแล้ว น้าค่อมเข้ามาในจังหวะที่ว่างพอดี พอว่างเข้ามาเราก็ดู ปรากฏว่าจากที่ให้ยาให้อะไรไปแล้ว แต่อาการของน้าค่อมก็ทรุดลงอีก จนเราต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และใส่เครื่องช่วยหายใจ ซ้ำร้ายเมื่อวานยังมีภาวะของไตที่วายเฉียบพลันอีก เราก็ต้องฟอกเลือดแบบฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากฟอกเลือดก็ดีขึ้น คราวนี้เราก็มองไปข้างหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อไปบ้าง นอกจากจากที่เราสามารถทำได้เต็มที่แล้ว เราก็คิดอีกเรื่องหนึ่งก็คือพวกเครื่องมือต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเอคโม (ECMO: Extracorporeal Membrane Oxygenation)หรือเครื่องที่ช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด อาจจะต้องใช้หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่อย่างน้อยที่สุดเรารู้ว่าถ้าต้องถึงตรงนั้น ถ้าต้องหามันจะช้าไป
.
เราติดต่อไปที่ศิริราช ปรากฏว่าเตียงเต็ม ที่ไหนก็เตียงเต็มหมด โชคดีได้ที่โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ เป็นจังหวะที่คนไข้ออกไปพอดี เราก็เข้าไปได้พอดี เป็นจังหวะของการ Refer ปกติระหว่างโรงพยาบาลด้วยกัน ฉะนั้นอยากทำความเข้าใจนะครับว่าสิ่งที่เราทำ ระบบสาธารณสุขเราไม่ได้เลือกจะเป็นรัฐหรือเอกชน แต่พอถึงเวลาที่ต้องทำศักยภาพให้ได้มากขึ้น ให้ได้เต็มที่กับคนทุกคนที่อยู่ในเมืองไทย ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทยนะครับ ทุกคนทุกชีวิตมีค่า เราจะดูแลให้ดีที่สุด ให้ทุกคนรอดปลอดภัย อันนี้เลยอยากจะขอชี้แจงมาว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับในเรื่องของเส้นสาย ในเรื่องของอะไรเลย เป็นเรื่องของทางคลินิกล้วน ๆ นะครับ ขอบคุณครับ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
