“คารีสา” สุดปลื้ม จบป.ตรี 4 ปี เผยอยากให้พ่อแม่ภูมิใจมีลูกที่ดี


ถึงในโซเชียลดาราสาวรักอิสระ “คารีสา สปริงเก็ตต์” จะดูใช้ชีวิตสุดโต่งขึ้นเหนือ ล่องใต้ เที่ยวในทุกที่ที่ใจอยากไปแต่เจ้าตัวก็แบ่งเวลาทำงานได้อย่างลงตัว รวมถึงบทบาทของการเป็นนักศึกษา ที่ไม่เคยทิ้งการเรียนอีกด้วย จนล่าสุดเพิ่งเข้ารับปริญญาบัตร หลังเรียนจบ 4 ปี จากวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล เอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ โดยมีครอบครัวและคนสนิท ทั้ง จุ๋ย-วรัทยา และ พุฒ-พุฒิชัย , คริส หอวัง , กวาง เดอะเฟซ และเพื่อน ๆ ร่วมยินดี ซึ่งไฮไลต์ความฮาเห็นจะเป็นที่บัณฑิตป้ายแดงปรินต์คิวอาร์โค้ดมาห้อยคอ สำหรับใครที่อยากร่วมยินดีด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงได้ทันทีนั่นเอง
.
ขณะที่ในอินสตาแกรมของคารีสา ได้ลงภาพความประทับใจพร้อมบอกเล่าสาเหตุที่เลือกและตั้งใจเรียนจนจบ ว่า “นางสาว คารีสา สปริงเก็ตต์ ลูกสาวของคุณแม่น้องนิด อำไพ คุณพ่อเดวิด สปริงเก็ตต์ เรียนจบ ป.ตรี ด้วยระยะเวลา สี ปี !! เหตุผลในการมาเรียนมหาลัยของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่สำหรับหนู ฟังแล้วอาจจะดูเฉยหน่อยแต่ก็จริง หนูทำให้พ่อกับแม่ อยากให้ท่านภูมิใจ อยากให้ท่านรู้สึกว่าท่านคือพ่อแม่ที่ดีที่สุด มีลูกที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วง
.
ตอนเด็กหนูค่อนข้างเป็นเด็กเกเร ชอบมีเรื่องให้แม่ร้องไห้เสียใจ และทำให้แม่ได้แต่โทษตัวเค้าเองว่าเป็นแม่ที่ไม่ดี เลี้ยงลูกแค่นี้ก็ทำไม่ได้ พอหนูเริ่มเข้า ม4 เกรดหนูก็ล่วงลงไปเรื่อย ๆ ละคิดว่าไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็ทำงานหาเงินและก็คิดว่าจะไม่เรียนแล้ว ม.4 ก็พอ ไม่มีใครคาดหวังด้วยซ้ำว่าหนูจะเรียนจบไหม ระหว่างนั้นแม่ก็มีการเปรียบเทียบตัวหนูกับลูกคนอื่นมาตลอด ชมว่าลูกคนนี้ดี เรียนจบ ทำงานที่ดี นั้นไม่ได้ทำให้หนูคิดได้นะคะ มันยิ่งทำให้หนูประชดตัวเองให้อิสระเสรีสุด ๆ ไปเลย จนกระทั้ง วิชาการแสดง ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของหนูเป็นอย่างมาก ทำให้หนูวิเคราะห์ตัวเอง และสิ่งที่มากระทบจิตใจอย่างมีสติละเอียดมากขึ้น มันทำให้หนูเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่
.
พ่อกับแม่ไม่ได้เกิดมาพร้อมคู่มือการเลี้ยงหนู เค้าพูดไม่เป็น แต่เชื่อสิว่าเค้ารักเรามาก ๆ การเลี้ยงลูกให้ดีมันไม่มี how to หรอก แต่พอโตขึ้นมาหนูถึงเข้าใจ subtext ของสิ่งที่เค้าคอยสอนมากขึ้น เราต้องเลือกเอง ว่าอยากมีชีวิตแบบไหน และมุ่งไปทางนั้น หนูเลยตัดสินใจลงเรียน พร้อมกับทำงานไปด้วย ทำให้ชีวิตยากขึ้น ท้าทายขึ้น เราจะได้ไม่เป็นคนขี้เกียจ หรือได้อะไรมาง่ายจนโลกแคบเกินไป วันนี้หนูมีงานทำ มีรถ มีบ้าน ของตัวเอง เรียนจบให้พ่อแม่แล้ว อยากให้เค้าไปที่ไหนก็มีแต่คนชมลูกเค้าให้เค้าฟัง อยากให้เค้ากอดตัวเอง บอกกับตัวเองว่าเค้าเป็นพ่อแม่ที่ดีมาก ๆ สำหรับหนู ทุกวันนี้ที่หนูมีมันมาจากการเลี้ยงดูของเค้า
.
หนูไม่ได้โตมากับครอบครัวที่รวยที่สุด เข้าใจที่สุด อบอุ่นที่สุด หนูเลยกล้าพูดจริง ๆ ว่าชีวิตมันมีทางเลือกให้เราเสมอ อยู่ที่ว่าเรามองแบบไหน หนูพูดได้ว่าถ้าหนูไม่ได้มาอยู่กรุงเทพ ต้องมาแข่งขันตัวเองกับชีวิตจริง ตอนนี้หนูอาจจะทำงานง่าย ๆ เรียนไม่จบ ใช้ชีวิตไม่มีคุณภาพอยู่พัทยาแล้ว และขอบคุณพัทยาที่เป็นพื้นที่ ที่ปลูกฝังความสดใส บังเทิง มาให้หนูตั้งแต่เด็ก ๆ วันนี้หนูโคตรดีใจเลย ที่หนูทำสำเร็จมาก้าวนึง ขอบคุณความรักความช่วยเหลือจากทุก ๆ คนที่เข้ามาในชีวิตหนูเลยนะคะ หนูโชคดีมาก ๆ ที่มีทุกคน”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 330 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม