เมื่อวานที่ผ่านมา (23 ก.พ. 2564) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีโรงงานแห่งหนึ่ง ย่านลำลูกกา ลักลอบผลิตผงชูรส น้ำยาล้างจาน และสบู่ ปลอม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก. ปคบ. เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ก่อนจะสามารถจับกุมแรงงาน และยึดอุปกรณ์การการผลิตได้จำนวนหนึ่ง
ด้านซือเจ๊สั่งลุย “บุ๋ม ปนัดดา” ในฐานะเป็นพรีเซนเตอร์สบู่ยี่ห้อดังที่ถูกผลิตปลอมและวางขายเกลื่อนตลาดในราคาที่ถูกกว่าปกติเผยว่า “ถือเป็นข่าวดีที่มีการทลายโรงงานนี้ได้ แต่นี่ถือว่าไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ทางบริษัทสบู่ยี่ห้อดังได้พยายามจับกุมโรงงานที่ผลิตสินค้าปลอมอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งสบู่ที่ผลิตจากโรงงานดังกล่าวจะมีการส่งขายไปในแถบภาคใต้ คาดว่าอาจจะเป็นพื้นที่ห่างไกล ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าอาจยากในการตรวจสอบการเป็นของแท้หรือของปลอม”
พิธีกรคนดังยืนยันว่า เจ้าตัวไม่ใช่เจ้าของ เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ที่ปีนี้ทำมาเข้าปีที่ 18 แล้วเท่านั้น หลังจากที่ผ่านมาถูกหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนคือเจ้าของ พร้อมบอกวิธีการเช็กสินค้าแท้หรือปลอมแตกต่างกันอย่างไร เรื่องนี้เจ้าตัวอยากให้ดูที่ตัวกล่องของแท้จะต้องมีเลขล็อตในการผลิตอย่างชัดเจน ซึ่งหากยังมีการปลอมอีก ให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากทางร้านที่ซื้อ และหากเทียบราคาจากร้านสะดวกซื้อ ถ้าของแท้อาจถูกกว่าไม่เกิน 1 บาทเท่านั้น หากถูกมากกว่านี้จนเกินไป นั่นคือของปลอม
การจับกุมครั้งนี้ แม้จะมีใบหน้าของพิธีกรคนดังติดอยู่ที่กล่องของสบู่ปลอมอย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าตัวก็ขอยืนยันว่า จะไม่เข้าไปดำเนินคดี หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ทางเจ้าของบริษัทสบู่เป็นผู้จัดการด้วยตัวเอง ส่วนตัวไม่คิดติดใจเพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ เกิดขึ้นกับตัวเองค่อนข้างบ่อย สุดท้ายยังอยากให้ทุกคนมั่นใจในตัวสินค้าที่เป็นของแท้ เพราะบุ๋มยืนยัน “อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี อะไรปลอม บุ๋มบอกเลยว่าไม่ดีแน่นอน”
ขณะที่ผู้บริหารบริษัทสบู่ดังกล่าวเผยกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนปรึกษากับทางทนายความ ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ฐานผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตและปลอม มีโทษสูงสุด จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาทถึง 1 แสนบาท ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ฐานผลิตวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 โดยไม่แจ้งข้อเท็จจริงและปลอม มีโทษสูงสุด ต้องระวางโทษกึ่งหนี่งของโทษตามมาตรา 75 (จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 7 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) และตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐานผลิตเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง ปลอม แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ในประเด็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า จะมีการฟ้องร้องในคดีอาญา เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า ซึ่งจะมีการดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย และยังเตรียมฟ้องคดีทางแพ่งเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้
ส่วนผู้ต้องหาเจ้าของโรงงานปลอมตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามตัวอยู่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกับบริษัทสบู่ชื่อดังแล้วเมื่อราว ๆ 5 ปีก่อน เป็นการจับกุมตัวแทนรายย่อย ก่อนจะมีการจับกุมได้อีกครั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นล็อตใหญ่ กรณีใบหน้าของ “บุ๋ม ปนัดดา” สามารถฟ้องร้องเพิ่มเติมได้ ในข้อหา นำภาพไปใช้เพื่อการโฆษณาขายสินค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเรื่องนี้ปล่อยให้ตัว “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นผู้ตัดสินใจเอง :-ไนน์เอ็นเตอร์เทน