“ฟ้าใส MUT2019” ควง ผจก. เปิดไทม์ไลน์ซัดกลับ “ปุ้ย TPN” ชี้เจอเปลี่ยนเนื้อสัญญา ท้ากองมิสยูฯ เปิดโชว์ทุกฉบับ-พร้อมเผชิญหน้า


ยังคงเป็นประเด็นฮอตวงการนางงามสำหรับกรณีของ “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 (MUT2019) ที่ตั้งแต่ชี้แจงเหตุผลที่เลือกไม่ต่อสัญญากับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สร้างความงงและเกิดเป็นดราม่าในกลุ่มแฟนนางามทันที ต่อมา “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูฯ ได้ออกมาโต้กลับแบบหนังคนละม้วน พร้อมแจงไทม์ไลน์ตั้งแต่วินาทีมงลงหัวฟ้าใสช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ว่ารองนางงามทั้ง 4 คน เข้าเซ็นสัญญายกเว้น “ฟ้าใส” นัดมาเซ็นแต่ไม่มา ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอ ก่อนฟ้าใสเดินทางแอตแลนต้า ส่งสัญญาให้ 3-4 หน้า แต่ก็ไม่เซ็น ตามที่เคยเสนอข่าวไปก่อนแล้ว
.
ล่าสุดวันนี้(9 พ.ย. 2563) “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” MUT2019 พร้อมด้วยผู้จัดการ “เอส อนุสิทธิ์” และทนายความส่วนตัว เดินทางมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจครั้งแรกที่ไนน์เอ็นเตอร์เทน โดย “ฟ้าใส” เผยว่า “เรื่องไม่ต่อสัญญา ที่พี่ปุ้ยบอกว่าไม่เคยเปลี่ยนสัญญา ซึ่งทาง TPN 2018 เป็นคนเปลี่ยนเนื้อหาสำคัญในสัญญาฉบับ 2 ที่ แอตแลนต้า และฉบับที่ 3 หลังกลับไทย ทั้งที่ฉบับที่ 1 ระบุเงินรางวัล บทบาทหน้าที่ และรายละเอียกการหักเปอร์เซ็นต์ปกติ แต่ฉบับ 2-3 ทีพีเอ็น 2018 เปลี่ยนแปลงเนื้อหาไม่ตรงกับฉบับที่ 1 พอทราบเลยทักท้วงไปว่าเนื้อหาไม่ตรง วันนี้จึงอยากชี้แจงไทม์ไลน์ดังนี้
.

  1. วันที่ 6 มิ.ย. 2562 ได้เซ็นสัญญาฉบัแรก ในขณะเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ระบุรางวัลและระยะเวลาผูกพัน แบ่งกี่เปอร์เซ็นให้กอง และบทบาทหน้าที่ ซึ่งผู้เข้าร่วมประกวด 60 คน ทุกคนต้องเซ็นสัญญาฉบับนี้
  2. วันที่ 17 ก.ค. 2562 TPN 2018 แถลงว่ารองทั้ง 4 คนได้เซ็นสัญญา ยกเว้นฟ้าใส เรายืนยันว่าไม่เคยได้รับแจ้งและไม่เคยเรียกเราไปเซ็นสัญญา และหลักฐานคือตารางงานของกองประกวด วันนั้นทำงานตั้งแต่ 08.00 – 21.00 น. ซึ่งแพลนงานทาง ผจก. กอง ต้องเป็นคนลง แต่ไม่ลงให้ไปเซ็น ไม่มีการเรียกให้ไปเซ็นใด ๆ ดังนั้นข้อที่บอกว่าบ่ายเบี่ยงไม่เซ็นคือไม่เป็นความจริง
  3. ในการแถลงข่าว พี่ปุ้ยบอกว่าส่งสัญญาไปให้เซ็นก่อนเดินทางไปแอตแลนต้า แต่ปรากฎส่งมาคืนก่อนวันเดินทางไปประกวด ส่งมาตอนเที่ยงคืน ซึ่งวันรุ่งขึ้นต้องเก็บกระเป๋าไปแอตแลนต้าเพื่อไปประกวดแล้ว
  4. เดินทางถึงแอตแลนต้า 28 พ.ย. 2562 คืนก่อนเข้ากอง เราได้รับสัญญาจากมือพี่ปุ้ย ซึ่งแม่ฟ้าใสอยู่ในเหตุการณ์ เลยได้รู้ว่าสัญญานี้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา เพิ่มปี เพิ่มหักเปอร์เซ็น แม่เลยขอให้เปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ตรงกับข้อตกลงฉบับแรก ซึ่งที่แม่ขอหัก 70 : 30 จริง เพราะในสัญญาฉบับแอตแลนต้ามีการหักมากกว่า 70 : 30 แล้วที่ทางปุ้ยพูดว่า ขอหักงานต่างประเทศ 50 : 50 และเคลียร์เอเจนซี่ แต่สัญญาจริงคือระบุว่าถ้าน้องได้มิสยูนิเวิร์ส จะขอหัก 50 เปอร์เซ็นทุกกรณี
  5. วันที่ 15 ม.ค. 2563 หลังกลับจากมิสยูเวิร กองได้เรียกไปเซ้นสัญญา เข้าไปและอ่านสัญญา เมื่อ่อาน ได้รู้ว่าเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเยอะมาก มากกว่าฉบับก่อนหน้านี้ จึงขอกลับไปปรึกษาผู้ใหญ่และไม่ได้เซ้นวันั้น
  6. วันที่ 2 ก.พ. 2563 ติดต่อไปที่ ผจก. กอง ขอนัดเข้าไปคุย ได้คิววันที่ 21 ก.พ. 2563 ซึ่งการนัดครั้งนี้เกิดจากการทวงถามของฟ้าใส และเราไม่ได้บ่ายเบี่ยงการเข้าไปพบเลย
  7. วันที่ 21 ก.พ. 2563 ฟ้าใสเข้าไปพบ TPN 2018 อีกครั้ง แต่ทางบริษัทปฎิเสธแก้ไข จนมีการจบสัญญาที่วันที่ 4 มี.ค. 2563

โดย “เอส อนุสิทธิ์” ผู้จัดการฟ้าใส ยังกล่าวเพิ่มว่า “ที่พี่ปุ้ยยินยอมให้เปิดข้อตกลงสุดท้าย ฟ้าใสก็ยินดี และอยากให้เปิดเนื้อหาสัญญาในทุกฉบับว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า เพราะบางข้อในสัญญาไม่ตรงกับฉบับแรก อยากให้พี่ปุ้ยเปิดสัญญาทุกฉบับ ซึ่งเรายินดีมาร่วมงานแถลงด้วย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของทั้งสองฝ่าย และเพื่อได้ไม่เป็นการโต้กันไปมาของทั้งสองฝ่าย ว่าเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงสัญญา เรายังเคารพรักกองประกวดเหมือนเดิม แต่เราอยากให้ประชาชนเข้าใจด้วย เพราะน้องถูกเข้าใจผิด ความยุติธรรมต่าง ๆ อยู่ที่การเปิดสัญญาครั้งนี้ และเราให้เกียรติTPN 2018 จะไม่มีการทะเลาะ มีแต่ความเข้าใจ สัญญาจะบอกเองว่าใครโกหก ไม่มีใครจะโกหกต่อหน้าเอกสารได้ วันนั้นเราจะมาเพื่อเคลียร์ตัวเองและให้TPN 2018 เคลียร์ตัวเองด้วย เปิดสัญญาร่วมกัน ความจริงจะชนะทุกสิ่ง ที่ผ่านมาฟ้าใส ดำรงตำแหน่งมา 1 ปี ยินยอมให้หักตามสัญญาทุกบาทตลอด ถ่ายโฆษณาให้ 2 ตัว ดำรงตำแหน่งและทำหน้าที่สมบทบาท สิ่งที่TPN 2018ได้ไป เป็นตัวบอกเลยว่า ฟ้าใสรักกองประกวดและไม่เคยรู้สึกอะไรกับการที่กองหักเปอร์เซ็นตามฉบับที่หนึ่งเลย น้องยินดีให้หักครบหมด แต่พอปีที่สองคนใหม่มา สัญญาถูกเปลี่ยน เราจึงต้องคิดก่อน ส่วนเรื่องที่บางคนบอกว่าเป็นนางงามรับงานกิ๊กก๊อก อันนี้บอกเลยทุกงานที่รับและทำคืองานสุจริต มันมีคุณค่าหมด อย่าใช้คำว่ากิ๊กก๊อก”
“ฟ้าใส ปวีณสุดา” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กล่าวปิดท้าย ว่า “ประกวดมาหลายเวทีมาก ทั้งไทยและต่างประเทศ ปกติเราจะมีการตกลงสัญญาฉบับแรกกัน แล้วถ้ามีการเซ็นสัญญาฉบับสอง เนื้อหาจะต้องตรงกับสัญญาฉบับแรกตลอดทุกเวที แต่พอครั้งนี้มาเจอไม่ตรงกันเลยตกใจ ที่ผ่านมาหลายคนทักว่าเราเป็นซึมเศร้าหรือเปล่าเพราะเราไม่เหมือนเดิม ปกติเราจะชอบคุยกับพ่อ ชอบทำอะไรหลายอย่าง แต่มันหายไปหมด คือเราเจอมาเยอะ ประกวดมาเยอะไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมาเงียบไม่ได้หมายความว่าไม่รู้สึกนะ เราคิดเสมอว่าเขาเป็นคนที่พาเรามาจุดนี้ เลยไม่อยากพูดอะไร แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เขาพูดมันกระทบกับเราโดยตรง อยากให้ประชาชนตัดสินอย่างเป็นธรรม”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 136 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม