4 ข้อเรียกร้องใหม่ของ “ซาร่า คาซิงกินี” ยอมใจอ่อนให้เจอลูกได้เหมือนเดิม

หลังจากที่ยื่นเงื่อนไข 6 ข้อ เมื่อ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้ร้องขอเป็นบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้


  1. ชำระค่าเล่าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่ภูเก็ต และจ่ายต่อไปในอนาคตในโรงเรียนนานาชาติ หรือเทียบเท่า จนกว่าลูกจะจบปริญญาเอก : สิ่งที่ซาร่าจ่ายไปแล้ว ไมค์ต้องจ่ายคืน
  2. จ่ายเงินค่าคนขับรถและพี่เลี้ยงให้ลูก จนกว่าลูกจะช่วยเหลือตัวเองได้
  3. ปกติไมค์จ่ายเงินให้ซาร่า เดือนละ 30,000 ขอปรับเป็น 50,000 จนกว่าลูกจะช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ใช่เพียงแค่บรรลุนิติภาวะ
  4. ขอให้ไมค์ซื้อคอนโดหรือบ้านใน กทม. ให้ลูก ให้ลูกมีที่อยู่ใกล้โรงเรียน
  5. ห้ามพาลูกไปหารายได้เพื่อผลประโยชน์ใด ๆ : ซาร่ามองว่า การที่ไมค์เอาลูกไปถ่ายรูปลงไอจี เพราะหวังรายได้จากยอดวิว ยอดไลก์ ซึ่ง ไมค์ บอกว่า หากมีการติดต่อให้ตนออกงานพร้อมลูก ตนปฏิเสธตลอด
  6. หากไมค์นำลูกไปหารายได้ ถือว่าเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรง ดังนั้น จึงทำให้ซาร่ามีสิทธิ์กีดกันไม่ให้ลูกไปกับไมค์ จนกว่าไมค์จะสำนึก

จากนั้นก็เกิดทัวร์ลงอย่างหนักกับ 6 ข้อเรียกร้องนี้ จนส่งผลให้ “ซาร่า คาซิงกินี” ต้องเปลี่ยนทนายมาเป็น นางสาว ศิรินทรา หรือ ศิริญญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช (ทนายผู้คัดค้าน) พร้อมยกเลิก 6 เงื่อนไขทั้งหมด
ล่าสุด นางสาว ศิรินทรา ทนายของซาร่า ได้เผยถึง 4 ข้อเรียกร้องใหม่ที่ยื่นคำร้องขอคัดค้านไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

“ข้อ 1 ที่เรียกร้องไปคือเราเลี้ยงลูกมาโดยตลอด และก็ให้โอกาสฝ่ายชายมาเยี่ยมตลอด โดยเวลาอบรมการสั่งสอนควรจะเป็นอำนาจในการปกครองของเรา”


“ข้อ 2 คือ ทางฝั่งฝ่ายชายทำงานที่จีนเป็นหลัก 3-4 เดือนก็กลับมาเมืองไทยทีนึง หรืออยู่เมืองไทย 1-2 สัปดาห์ เจอลูกนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่เขากลับมา เราก็ไม่เคยกีดกัน มันลำบากถ้ามีอะไรที่ต้องใช้อำนาจปกครองร่วมกัน หรือว่าเร่งด่วน ต้องเข้าโรงพยาบาล และฝ่ายชายอยู่ทางเมืองจีนมันจะลำบาก”

“ข้อ 3 เมื่อเขากลับมาเมืองไทย เป็นนักแสดง งานค่อนข้างรัดตัว ลักษณะการทำงานอาจจะไม่ค่อยมีเวลา ไม่มีเวลาเลี้ยงเด็ก สมมติถ้าเขามีอำนาจปกครอง และเอาลูกที่ยังเล็กอยู่ไปเลี้ยงเอง เด็กอาจจะต้องอยู่กับพี่เลี้ยงเป็นหลัก ซึ่งดีกว่าไหมถ้าให้อยู่กับแม่ที่เป็นคนให้กำเนิด”


“ข้อ 4 ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ได้อยู่ร่วมกันฉันสามี ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเวลาใช้อำนาจการปกครอง ซึ่งคนที่ใช้อำนาจปกครองสามารถกำหนดได้ ให้ลูกอยู่ที่ไหน กำหนดถิ่นที่อยู่ และถ้าทั้งคู่ใช้อำนาจปกครองร่วมกันล่ะ ทั้งคู่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจร่วมกัน และใครล่ะจะมีอำนาจในการตัดสินใจหลัก เพราะในเมื่อทั้งคู่มีคนละ 50 : 50 มันมีปัญหาแน่นอน เวลาหลักๆ พ่อแม่เลิกกัน ลูกต้องอยู่ฝ่ายไหน และต้องยินยอมให้อีกฝ่ายมาเยี่ยมตามสมควรนะ”


โดยทนายความของซาร่าเสริมต่ออีกว่า ในส่วนของคำคัดค้าน ไม่ได้เขียนลงรายละเอียดชัดเจน แต่หลัก ๆ จะคุยกันตอนไกล่เกลี่ย แต่อยากให้แยกก่อนในเรื่องของการเซ็นรับรองบุตรเพื่อเป็นบิดาชอบโดยกฎหมายกับอำนาจปกครองบุตร 2 สิ่งนี้ที่ต้องแยกกัน เขาเป็นพ่อที่แท้จริง เป็นพ่อตามสายเลือด ที่นี้การใช้อำนาจการปกครองตามกฎหมาย มันมีปัญหาตามที่เรียกร้องไป 4 ข้อที่ไม่ควรใช้อำนาจปกครองร่วม โดยที่ผ่านมาไม่ได้กำหนดขนาดนั้น ซึ่งต่อไปนี้การกำหนดหลังจากนี้จะดีต่อทั้งคู่ไหม แต่เท่าที่คุยกับซาร่าก็พร้อมที่ให้ฝ่ายชายเจอลูกได้เหมือนเดิม
.
ถามถึงคำว่า “เหมือนเดิม” ที่อาจจะ “ไม่เหมือนเดิม” เพราะถ้า “เหมือนเดิม” จะกลายเป็นปัญหาเหมือนวันนี้
“ก็ต้องไปคุยตอนไกล่เกลี่ย ว่าอารมณ์ตอนนั้นทั้งคู่เป็นยังไง ทางซาร่าพร้อมที่จะให้ฝ่ายชายเจอเหมือนเดิม แต่ต้องไปดูว่าคุยแล้วลงตัวยังไงบ้าง ถ้ามันลงตัวไม่ได้ ก็ต้องกำหนดไปเลย เรายอมให้มีการไกล่เกลี่ย คือทางฝ่ายหญิงไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะมันเกิดจากการที่คุยกันไม่รู้เรื่อง แค่ไม่ได้สื่อสารกัน และเราอาจจะติดต่อเขาไปก่อนก็ได้ หรือถ้าทางนั้นพร้อม เราก็โอเค อยากให้เสร็จก่อนถึงวันที่ศาลนัด ต้องคุยกับทนายฝ่ายนั้น เราก็ต้องเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยด้วย และ 6 ข้อที่เกิดมาก่อนหน้านี้ ยกเลิกไปหมดเลย” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 301 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม