มือกีตาร์ชื่อดัง กบ ไกรภพ หรือ กบ ไมโคร ออกมาชี้แจงหลัง ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล บิ๊กบอสใหญ่ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน ที่ตอนนี้มียอดผู้เสียหายทั่วประเทศเกือบ 10,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีคำสั่งจาก บอสพอล ให้ดำเนินการทางกฎหมายกับ กบ ไมโคร ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง หลังได้รับเงินส่วนแบ่งจากการเป็นแม่ข่ายดิไอคอนกรุ๊ป รวมมูลค่า 607,204.95 บาท ตลอดระยะเวลา 15 เดือน (เมษายน 64 – สิงหาคม 65) โดยมีลูกทีมทั้งหมด 152 ราย
กบ ไมโคร โต้มีลูกข่าย 152 เพราะจริง ๆ มีแค่ 75 คน
ล่าสุดวันนี้ (29 ต.ค. 67) กบ รีบแจงทันทีว่า เจ้าตัวมีลูกข่ายเพียงแค่ 75 คนเท่านั้น แบ่งเป็นผู้ซื้อกินใช้ 60 คน และผู้ที่ลงทุน 25,000 บาท รวม 7 คน และดีลเลอร์ลงทุน 250,000 บาท อีก 8 คน ซึ่งไม่ได้เอ่ยปากชักชวนแต่เค้ามาร่วมลงทุนเอง ทุกคนก็เป็นคนในครอบครัว ญาติ และเพื่อนสนิท ซึ่งทุกคนไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่มีใครออกมาโวยวายหรือแจ้งความ ตอนนี้ทั้งหมดก็ให้เราเป็นตัวแทนในการดำเนินคดีความตรงนี้ ค่าเสียหายรวม 2,000,000 กว่าบาท และเงินส่วนแบ่งจากการเป็นแม่ข่าย 607,204.95 บาท จริง ๆ ได้แค่ 450,000 บาท ที่เหลือเป็นแคชแบ็กจากที่ตนลงทุนไปกับภรรยา 2 ล้านกว่าบาท
โดยตอนนี้ยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป ก็ได้แต่เตรียมหลักฐานและเอกสารเอาไว้ และเตรียมความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อความเป็นประโยชน์ ถ้าหากถูกเชิญตัวเมื่อไหร่ภายใน 1 ชั่วโมงจะต้องถึง ซึ่งทนายก็บอกว่าความจริงเท่านั้นที่จะช่วยเราได้
กับคำว่าผู้เสียหายจะกลายเป็นผู้ต้องหารู้สึกยังไง? เค้าบอกว่าเราเป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราก็เข้าใจว่าคนต้องการจะต่อสู้มันก็ต้องทำทุกทาง แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าบอกว่าเราผิดเราก็มีเอกสารยืนยัน แต่ถ้าถูกตัดสินแล้วก็เป็นไปตามนั้น ที่บอสพอลเลือกเราเป็นกลุ่มแรกที่จะเอาผิด เพราะเราเป็นกลุ่มคนแรก ๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวตรงนี้ เพราะตอนนั้นเราก็ไม่อยากให้คนต้องมาโดนแบบที่เราโดน ถามว่างงไหมเพราะเราไม่ใช่เป็นแม่ข่ายใหญ่? กบ บอกว่าถ้าหากมี 300,000 คน เราน่าจะอยู่ที่ลำดับ 290,000 เลย ถ้าจัดลำดับเราจะอยู่พื้นเลย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป แต่ใจเรารู้สึกว่าเราทำชื่อเสียงของ “ไมโคร” เรื่องที่เราจะเสียหายเท่าไหร่อันนั้นเรื่องนึง แต่ความเป็น กบ ไมโคร ความด่างพร้อยที่อยู่ในใจของแฟนเพลง เราเป็นคนสร้างให้มันเกิดขึ้น เราไม่ควรสร้างให้มันเกิดขึ้น เราไม่ควรทำให้ชื่อของ “ไมโคร” มาทำให้เพื่อนในวงทุกคนรู้สึกว่าเราทำอะไร เราไม่มีหน้าที่จะไปขึ้นเวทีร่วมวงกับทุกคนด้วยซ้ำ เพราะมันรู้สึกแย่ ถ้าไม่ผิดภาพมันอาจจะล้างได้ แต่ความรู้สึกในใจไม่ล้างไม่ได้จริง ๆ “ไมโคร” คือชีวิตทั้งชีวิตของเรา เราเลิกเล่นกีตาร์ไม่ได้หรอก แต่จะมีโอกาสได้ไปยืนบนเวทีหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คุยกับแฟนคลับเลย แต่อยากจะบอกทุกคนว่าขอโทษนะ พอถามว่ากลัวจะมีคลิปเสียงออกมาเหมือนคนอื่น ๆ หรือเปล่า? ไม่น่าจะมี เพราะเราไม่เคยคุยกับบอสพอลเป็นการส่วนตัว
ส่วนคลิปขึ้นพูดบนเวทีของดิไอคอนที่อิมแพ็ค? เค้าเรียกว่าไปแบ่งปันความประทับใจในการขายของออนไลน์ มันไม่มีสคริปต์ แต่เค้าจะบอกว่าเราจะต้องพูดถึงองค์กร พูดถึงครูผู้สอน และพูดว่าทำไมเราถึงมาทำการขายตรงนี้ แล้วเขาก็เอาคลิปที่เราพูดไปใช้ในงานต่าง ๆ และหลังจากที่เราถอนตัวออกมาช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2565 เราก็ได้บอกกับทางบอสสวยแล้ว ก็คิดว่าเค้าจะเอาคลิปเราออก แต่ก็ยังคงใช้มาเรื่อย ๆ จนมาต้นปี 2566 เราได้ส่งข้อความไปบอกบอสสวยว่าให้ลบคลิปออกยุติการใช้คลิป ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2566 ซึ่งตรงนี้เรามีหลักฐานเพราะเราแคปเอาไว้ แล้วที่ไปรีวิวคอร์สเรียนออนไลน์ บอสสวยเป็นคนมาชวนให้ไปออกรายการ ให้ไปรีวิวคอร์สออนไลน์ ไม่ได้ไปขายของ และที่ไปรายการก็เป็นรายการที่มีชื่อเสียง พิธีกรก็มีชื่อเสียงเราก็เลยตัดสินใจไปออก และก็ไปพูดอย่างบริสุทธิ์ใจเพราะมันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มันดี เพราะเชื่อว่าอาชีพขายของออนไลน์มันเป็นทางออกของเราในช่วงนั้นในวันที่เราไม่มีงานทำ ถามว่ากลัวไหมว่าล็อต 2 อาจจะมีชื่อเราในหมายจับ? กบ บอกว่าฉันท์ใดฉันท์นั้น ถ้าหากมันจะผิดแล้วต้องเข้าไปจริง ๆ เจอกันก็เจอกัน .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ภาพจาก กบ ไมโคร