เปิดเยี่ยมบอสชาย ดิไอคอน วันแรก เยี่ยมเสร็จบางคนน้ำตาคลอออกมา ด้านแม่บอสพอลเลี่ยงหนีสื่อ

ภายหลังจากที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้มีการคุมขังผู้ต้องหาชายในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 11 ราย ที่มีซีอีโอของบริษัทอย่าง บอสพอล – วรัตน์ วรัทย์วรกุล รวมไปถึงมี 2 นักแสดงหนุ่ม กันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ และ แซม – ยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม ร่วมด้วย เนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญารัชดาภิเษกพิเคราะห์เหตุแห่งคดี มีการทำเป็นขบวนการและมีการแบ่งหน้าที่กันทำ นับเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบเป็นวงกว้าง ประกอบกับคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนและผู้เสียหาย เกรงว่าจะมีการหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำการใดกระทบกระเทือนต่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดี จึงยกคำร้องการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำตัวเข้าเรือนจำฯ ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 6 วัน และจะสิ้นสุดการกักโรคในวันที่ 24 ต.ค. เพื่อให้ญาติสามารถเดินทางเข้าเยี่ยมได้


เปิดประตูคุกให้ “ครอบครัว-คนรัก-ทนาย” เยี่ยมบอสชายดิไอคอนวันแรก

ล่าสุดวันนี้ (24 ต.ค. 67) เวลา 10.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ตนได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนได้นำเอกสารที่จะแจ้งความกรณีที่มีพนักงานของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำและยึดโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกรณีนักร้องเรียนหญิงที่มีพฤติกรรมเรียกรับเงินมาให้ บอสพอล เซ็นชื่อ (แต่ทนายไม่ได้บอกว่าเมื่อบอสพอลเซ็นแล้วจะเอาเอกสารไปใช้วัตถุประสงค์ใด) และตนได้ออกจากเรือนจำฯ มาแล้ว ขณะนี้ตนอยู่ที่ศาลอาญารัชดาฯ เพื่อติดตามคดีอื่น ทั้งนี้ในกรณีของการจะเดินทางไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเที่ยงหรือไม่นั้น อาจจะไม่ทัน อาจจะไปช่วงเย็นแทน

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่ามีทนายความหรือญาติของบรรดาบอสชายรายอื่นมาเยี่ยม ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานว่าทางเลขานุการและน้องสาวของบอสพอล จะเข้ามาเยี่ยมในรอบเวลา 10.10 น. ส่วนบอสชายคนอื่นตนไม่ทราบ แต่อาจจะมีทนายความของแต่ละคนเข้ามา


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.50 น. ปรากฏมีผู้หญิงสูงวัย 1 ราย ผมสั้น สวมเสื้อสีเขียวลายดอกไม้และกางเกงสีดำ ถือกระเป๋าสาน ได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับผู้หญิงสูงวัย สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำใบหน้าละม้ายคล้ายนางจินดา แซ่ก๊อก แม่ของ บอสพอล จึงรีบรุดเข้าไปสวัสดีสอบถามว่า ใช่คุณแม่บอสพอลหรือไม่ ปรากฏว่ามีการยกมือปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าตนเองไม่ใช่แม่บอสพอล ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล ขณะที่เมื่อตอนมาถึงด้านหน้าเรือนจำฯ ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. กลับเดินทางมาด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ซึ่งขามาและขากลับใช้รถคันละคัน ทั้งนี้มีรายงานว่าในตอนเข้าเยี่ยมทางแม่บอสพอลไม่ได้เข้าไปเยี่ยมด้วย แต่รออยู่ด้านนอกแทน เนื่องจากไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าไปก่อน และภายหลังการเข้าเยี่ยม ครอบครัวมีการยืนพูดคุยกัน บางคนที่เข้าถึงกับน้ำตาคลอออกมา ขณะที่เเม่บอสพอลก็ยืนพูดคุยกันกับท่านอื่น ๆ เกี่ยวกับคดีของลูกชาย

สำหรับบรรยากาศบริเวณห้องเยี่ยมญาติ พบว่า ห้องเยี่ยมญาติมีทั้งหมด 7 ห้อง โดย 1 ห้องมี 4 เก้าอี้ และนั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซึ่งการพูดคุยของญาติและผู้ต้องขังจะมีซี่กรงกั้นกลางไว้ และใช้โทรศัพท์คล้ายโทรศัพท์บ้านในอดีตในการสื่อสารระหว่างกัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา นอกจากนี้การจะเข้าเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ ทุกคนจะต้องลงทะเบียนเยี่ยมบริเวณจุดคัดกรองที่ด้านหน้าเรือนจำฯ เพื่อตรวจสอบและลงทะเบียนขอเยี่ยมผู้ต้องขัง และเพื่อตรวจเอกสารต่าง ๆ ก่อน และต้องเป็นบุคคลที่อยู่ใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้ เมื่อตรวจเอกสารเสร็จสิ้น จะได้รับใบคิวที่จะระบุรอบเวลาการตีเยี่ยมและเลขเครื่องที่จะใช้ในการเยี่ยม โดยการเยี่ยมญาติกำหนดเวลาเพียง 20 นาทีต่อคน

ขณะที่ห้องขวาสุดถัดจากห้องเยี่ยมญาติผู้ต้องขังจะเป็นห้องงานเยี่ยมญาติผ่านแอพพลิเคชันไลน์ (LINE) ส่วนตรงข้ามกับห้องเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ จะเป็นร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งของกินของใช้ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับฝากเงินผู้ต้องขัง และตรงข้ามห้องรับฝากเงินผู้ต้องขังคือห้องทนายความและล่าม มีจำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ก่อนเข้าเยี่ยมญาติในห้องทุกคนจะต้องเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ในล็อกเกอร์


เปิดเมนูอาหารเหล่าบอสชายวันนี้ (24 ต.ค.)

ส่วนเมนูอาหารวันนี้ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (24 ต.ค.) มื้อเช้าเป็นเมนูแกงจืดไก่ใส่ผัก และข้าวสวย ส่วนมื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่น้ำไก่ใส่ผัก ขณะที่มื้อเย็นเป็นเมนูแกงเผ็ดปลา หมูใส่ผัก ปลาทอดขมิ้น และข้าวสวย

ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับอาการล่าสุดของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ การปรับตัว การรับประทานอาหารนั้น ทุกคนเริ่มปรับตัวได้ มีความเครียดน้อยลง และจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครเจ็บป่วย ส่วนวันนี้คือวันตีเยี่ยมญาติเป็นวันแรกสำหรับบรรดาบอสชาย หลังครบกำหนดระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ทำให้ทั้งหมดจะถูกย้ายไปยังแดนควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาดี ห้องละ 2-3 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยเลขแดน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่บรรดาบอสหญิงที่ครบกักโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.นั้น ก็ได้ถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ข้อมูลการตีเยี่ยมญาติของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผู้ต้องขังไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ภาพจาก Kan Kantathavorn , sam_yuranunt

เข้าชม 3,377 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม