แม่ เผยทั้งน้ำตา ทะเลาะกัน ก่อน เมย์ จีระนันท์ หนีออกจากบ้าน เผยลูกสาวป่วยซึมเศร้า หวั่นคิดสั้น

จากกรณีอดีตนักร้องยุค90 “เมย์ – จีระนันท์ กิจประสาน” หายตัวออกจากบ้าน ซึ่งเธอใส่เสื้อสีขาว กางเกงช้าง ขับรถ Honda Jazz สีขาว ไปตั้งแต่ 03.05 น. วันที่ 18 มิ.ย. 67 จนตอนนี้คุณแม่ยังไม่สามารถติดต่อกับ เมย์ ได้เลย และพิกัดสุดท้ายจากกล้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือบริเวณ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.


ล่าสุดทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน ต่อสายตรงหาคุณแม่ของ เมย์ ก็ได้เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า คุณแม่กับเขาทะเลาะกัน แล้วแม่ก็หลับไป ตื่นมาอีกที 6 โมงเช้าก็ไม่เห็นเขา เห็นแค่จดหมายทิ้งเอาไว้ เป็นจดหมายที่เขาลา แม่ขอไม่ลงรายละเอียดในจดหมาย ตอนที่เห็นจดหมายตอนแรกแม่ก็ตกใจ และรีบขับรถออกไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย ทันที

เมย์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นมานานแล้ว ประมาณครึ่งปี เวลาที่แม่พูดอะไรออกไป เป็นคำที่ไม่มีอะไร คงจะไปทำให้เขาดิ่ง และยังมีปัญหาภายในครอบครัว เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว ช่วงที่มีข่าวยาไซยาไนด์ เขาได้มาสารภาพว่าเขาได้สั่งซื้อ แต่มันสั่งไม่ได้ และเขายังสั่งพวกเตาอั้งโล่มา ก่อนหน้านี้เขาบอกอยากจะขับรถลงน้ำ แม่ก็กลัวเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่ป่วยเขาหนีออกจากบ้าน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และทุกครั้งจะมีการทะเลาะกัน ครั้งแรกที่เขาหนีไป เขาปิดโทรศัพท์ และได้ส่งข้อความมาบอกว่า “ไม่ต้องห่วงหนูนะ หนูถึงที่ปลอดภัย ถ้าหนูสบายใจ แล้วหนูจะกลับ” อันนั้นแม่โล่งใจที่เขายังมีสติ


แต่ครั้งนี้เขาปิดโทรศัพท์หมดเลย และไม่ได้เอาอะไรไปด้วย นอกจากโทรศัพท์กับกระเป๋า เขาทำอะไร จัดแจงไว้ให้แม่หมดทุกอย่าง เขาบอกเป็นข้อ ๆ ว่าทำอะไรไว้ให้แม่บ้าง แม่จึงกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่เขาพูด แม่ไม่รู้จะทำยังไง ตำรวจก็ตามหา ตามมาทั้งวัน แม่โทรไปเช็กกับเพื่อน ๆ เขาก็ไม่ได้ไปหาใคร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อคืนน้องเขาไลฟ์สดร้องไห้? “ใช่ค่ะ นั้นเป็นหลังจากที่เราทะเลาะกันทั้งวัน แม่ก็ได้เห็นเขาไลฟ์สด แม่ไม่คิดว่าเขาจะขึ้นไลฟ์ เพราะหน้าตาเขาไม่พร้อม แต่เขาก็คงจะรวบรวมกำลังของเขาขึ้นไลฟ์” ถ้าน้องฟังอยู่ อยากบอกอะไรน้อง? “แม่ขอโทษ ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่พูด มันเป็นเรื่องที่แม่หวังดีกับลูกทุกเรื่อง ถ้าไม่ว่าลูกจะทำผิดอะไร แม่จะไม่โกรธ แม่จะไม่โทษ ลูกจะทิ้งแม่ไว้อย่างนี้ไม่ได้ เรามีกันแค่ 2 คน อยากบอกเขานึกถึงตัวเอง นึกถึงแม่ให้มาก ๆ ” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 6,354 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม