เจอเองกับตัว! พระจอนนี่ เชื่อกฎแห่งกรรมมีจริง เล่าเคยราดน้ำมันเผาหนูทั้งเป็นนับร้อยตัว วันหนึ่งตัวเองถูกไฟคลอก

หลังจากที่เข้าพิธีอุปสมบทไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ จอนนี่ แอนโฟเน่ สามีนักแสดง-ผู้จัดมากฝีมือ นก จริยา ซึ่งตอนนี้ได้เดินทางไปบวชพระศึกษาพระธรรมแล้ว ที่ประเทศศรีลังกา ณ วัดคงคาราม โคลัมบา และได้ฉายาทางธรรมว่า “พระจอนนี่ ฉันทฺชาโต”


ล่าสุด พระจอนนี่ เผยในติ๊กตอกที่ชื่อ “ข้อคิดดี ๆ กับพลรีนเรศน์” เล่าเรื่องของเวรกรรม เจ้ากรรมนายเวร ตามทันในชาตินี้จนตัดสินใจบวช โดย พระจอนนี่ พูดว่า “วันนี้สิ่งที่อยากจะมาพูดก็คือเรื่องของกรรม ถึงเหตุการณ์ที่เคยโดนไฟไหม้ ครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว และทำให้เจ็บสาหัส ไหม้ไปถึง 30% ของร่างกาย ตั้งแต่เอวขึ้นมาด้านซ้ายทั้งหมด และมีแผลเป็นอยู่ตอนนี้ จีวรก็บังอยู่มองไม่เห็น

แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะพูดคือเรื่องของกรรม สิ่งที่ได้ทำเอาไว้ ทำไมถึงได้เกิดสิ่งนี้ ทำไมสิ่งนี้เกิด และเกิดเพราะอะไร มาเพราะอะไร นั่นคือเรื่องของกรรมทั้งนั้น สมัยก่อนหมู่บ้านที่ผมอยู่เมื่อ 32 ปีที่แล้ว เป็นหมู่บ้านที่ซื้อแล้วปลูกเอง ไม่ได้เป็นหมู่บ้านจัดสรร เพราะฉะนั้นบ้านก็จะอยู่ห่าง ๆ กันไป


อาตมาจะเล่าโดยสรุป คือว่าเราก็จะเป็นเหยื่อของหนู หนูจะเข้าบ้านเยอะมาก และอาตมาเป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ที่บ้าน และหาวิธีที่จะกำจัดหนู นึกไม่ออกว่าจะกำจัดหนูยังไง ก็คิดหาสารพัดวิธีที่จะกำจัดเขา ทั้งเอาน้ำมันราดจุดไฟเผา ทั้งเอาถ่วงน้ำ แต่ส่วนใหญ่ถ่วงน้ำเขาจะตาเหลือกและมองหน้าเราและขาดใจตาย เลยมีความรู้สึกว่ามันดูทารุณเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะใช้น้ำมันรอนสันราดเข้าไปในกรงเขา แล้วก็จุดไฟเลย เขาดิ้นทุรนทุราย 3-4 ตัวอยู่ในกรง ถ้ายังไม่ตายโดยเร็ว อาตมาก็จะรดน้ำมันเข้าไปอีก เพื่อเร่งให้เขาจะตายเร็ว ๆ บางตัวก็ตายโดยง่าย แต่บางตัวที่เคยเห็นจะมายืนตรงลูกกรงแล้วมองหน้าเรา เราจำได้ถึงตาเขาที่แค้นเราอย่างสุดแสนจะแค้น ไม่ว่าชาตินี้ ชาติไหน ชาติอะไรก็แล้วแต่ เขาต้องตามล้างแค้นเราให้ได้

วันที่อาตมาถูกไฟไหม้ ถูกหิ้วตัวเข้าสู่โรงพยาบาล ฉีดยาให้สลบ เพราะดิ้นรนเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ ถูกล็อกด้วยบุรุษพยาบาลประมาณ 5-6 คน แล้วก็ให้ยานอนหลับ อาตมาโดนถึง 5 โดษแล้วก็หลับไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์เวลาประมาณเที่ยงถึงบ่ายโมง อาตมามาฟื้นเอาเช้าวันจันทร์ ประมาณตี 4 ตี 5 หลังที่ฟื้นตัวขึ้นมานอนอยู่ในห้องไอซียู ในห้องปลอดเชื้อ

เชื่อมั้ยว่าภาพบนเพดานที่อาตมามองเห็น หรืออาตมาจะเบลอ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ปรากฎเบื้องหน้าคือหนูทั้งหมดที่เราเคยฆ่าเขา สายตาที่เราเคยเห็น เคยมาจ้องมองตรงกรง แล้วเราจุดไฟเผาเขา ตาเขาถลน ตาเขามอง อาตมาเห็นเป็นร้อย ๆ ตัวที่อยู่บนเพดาน อาตมาตกใจและถามบุรุษพยาบาลว่าที่นี่คือที่ไหน บุรุษพยาบาลก็แจ้งว่าที่นี่คือโรงพยาบาล พออาตมาทราบเสร็จก็หลับไปเลย


แต่หลาย ๆ ครั้งเวลาเราให้มอร์ฟีนเพื่อบำบัดความเจ็บของอาการไฟไหม้ เพราะมันเจ็บ แสบ ร้อน มันทรมานแบบไม่มีอะไรที่จะเจ็บจะแสบจะทรมานมากกว่านี้แล้วในโลกและในชีวิตนี้

อาตมาขอเตือนไว้เลยนะคือเรื่องไฟ ทุกครั้งเวลาที่เราได้มอร์ฟีนเข้าไป มันก็จะอยู่ในภวังค์ที่เราจะเคลิ้ม ๆ พวกเขาก็จะมาลอยอยู่ข้างหน้าอีกเหมือนกัน และหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ใช้เวลารักษาตัวอยู่หลายเดือน เกือบปีนึง ทั้งหลอดเลือดดำที่ขาก็ตีบ ทั้งต้องติดมอร์ฟีน ต้องมานั่งเลิกมอร์ฟีนอีก ประมาณ 5-6 เดือน รักษาที่โรงพยาบาลขัดแผล 9 ครั้ง ผ่าตัดเอาหนังตรงนั้นมาแปะตรงนี้ อีกเกือบ 2 เดือน รวม ๆ แล้วเป็น 1 ปีทุกข์ทรมานอยู่กับการรักษา

พอหลังจากที่ออกมาก็มีคนมาทักอาตมาว่าเจ้ากรรมนายเวรเขารออยู่นะ อาตมาตกใจมากเลยนะ ตอนนั้นเพิ่งรักษาตัวหายและไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น นึกขึ้นได้ว่าต้องเป็นเขา (หนู) แน่ เพราะสิ่งที่เราเห็นมีแต่เขา (หนู) ทั้งนั้นเลย และมีเพื่อนได้เป็นสะพานบุญ เพื่อนก็ได้มาบวชที่วัดเทพศิรินทร์ ก็ไม่มีเหตุอันใดเลย บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงตามมางานบวชด้วย และหลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนีก็ได้ถามอาตมาว่าบวชมั้ย อาตมาก็บอกว่าช่วงนี้งานยุ่ง

คืนนั้นกลับไปคิดทั้งคืน และได้แต่ภาวนาว่าบวชดีกว่า ถ้ารอให้ว่างเมื่อไหร่ก็ไม่มีเวลาว่างแน่นอน และได้ภาวนาอษิธฐานว่าพรุ่งนี้จะไปใส่บาตรใหม่ และให้เจ้าพระคุณสมเด็จธีรญาณมุนีถามอีกครั้งนึง ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากว่าเราจะได้เจอท่านมั้ย ท่านจะเดินผ่านเรามั้ย และท่านจะถามเราอีกครั้งนึงหรือไม่ อาตมาก็ไปอยู่ที่เดิม นั่งเหมือนเดิมและรอใส่บาตร ปรากฎว่าเจ้าพระคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี พระอุปปัจฉาได้เดินมา และได้ถามคำเดิมว่า “ว่ายังไง ตกลงจะบวชมั้ย” อาตมาไม่คิดเลยรีบตอบทันที เพราะเตรียมคำตอบไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า “บวชครับ”

หลังจากบวชนั้นอาตมาก็ได้อุทิศส่วนกุศลผลบุญต่าง ๆ ที่อาตมาทั้งที่ได้บวช ทั้งที่ได้ให้ทาน ทั้งที่ทำบุญทั้งหมด ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เราได้ทำต่อเขา หลังจากนั้นชีวิตก็ดีขึ้น ๆ และเราก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย นี่คือเรื่องของกรรมเวร เพราะฉะนั้นใครก็ตามนะครับที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมเวรมีจริง ทำร้ายเขา คิดว่าชาตินี้ตามไม่ทันหรอก หรือเขาเป็นสัตว์มันไม่มีทางเรียกเป็นเวรเป็นกรรมกัน ในกรณีของอาตมา อาตมายกให้เป็นตัวอย่างเลย อาตมาเผามาเป็นร้อย ๆ ตัว และสุดท้ายเขาก็กลับมาเผาอาตมาชนิดที่เรียกว่าแทบตายเหมือนกัน ยังดีที่ยังเอาชีวิตรอดมาได้” ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 1,582 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม