เวทีขาอ่อนปีนี้ร้อนแรงจริง ๆ โดยเฉพาะประกวดเวที Miss Universe Thailand 2019 ที่ถึงจะจบไปแล้ว แต่ดราม่าไม่จบ เพราะล่าสุดกับประเด็นของ “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” เจ้าของตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2019 ที่มีข่าวลือว่าถูกปลดและยึดมงกุฎ ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวของฟ้าใสได้ออกมาโพสต์ข้อความ ยอมระบว่าฟ้าใสไม่มีมงกุฎแล้ว พร้อมเล่าเหตุการณ์วันประกาศ Miss Universe Thailand ว่าได้ประสานทีมงานในงานวันนั้นว่า ขอมงกุฎน้องหน่อย จากนั้นทีมงานคนดังกล่าวได้ส่งข้อความมาบอกว่า ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกำลังให้คนไปเอามาให้จากที่บ้านึ่งมีหลักฐานยืนยัน จากนั้นมีทีมงานถือกล่องมงกุฎมาให้ฟ้าใสใส่อำลาตำแหน่ง และพออำลาตำแหน่งปุ๊บ ทีมงานก็ขอมาเก็บมงกุฎคืน ทางฟ้าใสอยากใส่มงกุฎไปถ่ายรูปกับแฟนคลับสัก 15 นาที โดยมีทีมงานเดินถือกล่องมงกุฎประกบตลอด
ล่าสุด “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้จัดกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้เปิดเผย เรื่องราวของฟ้าใสที่หลายคนบอกว่าเป็นดราม่า สำหรับตนและกองประกวดแล้ว ไม่ได้มีดราม่า เพราะเรื่องนี้มันจบไปตั้งแต่ต้นปต้นปีแล้ว ทุกอย่างก็จบแบบสวยงาม ซึ่งหลายคนบอกว่ามีเรื่องแล้ว แต่สำหรับตนไม่มีเรื่องแน่นอน ส่วนเรื่องที่มีภาพว่าทีมงานเดินถือกล่องมงกุฎ แล้วถูกมองว่าตามทวง ซึ่งตนอยากให้ไปถามผู้โพสต์ เพราะจริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีการไปตามทวงอะไรเลย แต่อย่าลืมว่า มงกุฎมีมูลค่าเป็นล้าน ก็ต้องมีการดูแล ไม่ได้ไปตามทวง เพราะยังไงก็ต้องให้ใส่ไปพบปะผู้คนอยู่แล้ว
ในเรื่องของสัญญาที่บอกว่ามีปัญหาจนต้องเอามงคืนนั้น ต้องบอกก่อนว่า การเอาคืนนั้นหมายถึงให้แล้วยึกคืน แต่สำหรับกรณีนี้เรียกว่า ไม่ได้ให้ ตั้งแต่แรก
“ในเรื่องของมงกุฎเมื่อครบวาระหนึ่งปี ก็ต้องคืนอยู่แล้ว ในวันนั้นคือเราให้เขาอำลาตำแหน่ง ซึ่งถ้าหากเรามีปัญหากับเขาตั้งแต่แรก ซีนนั้นคงไม่มีใครเห็น ทางกองประกวดไม่ได้มีปัญหาอะไรกับฟ้าใส และขอยืนยันว่ามงกุฎของทางกองประกวดไม่มีเวียน อย่างอแมนด้า ถ้าครบวาระปุ๊บ มงกุฎนี้ก็จะเป็นของเขา ส่วนน้องจะไปเก็บไว้ในตู้ที่บ้านล็อกกุญแจให้ดี เพราะว่ามันเป็นของที่มูลค่า เป็นสิ่งที่น้องจะต้องได้
สำหรับเราไม่มีดราม่า ทุกอย่างมีสัญญาและตกลงปลงใจ เราต้องเคารพในเกียรติของน้องด้วย เพราะวันที่ตกลงกันในช่วงเดือนก.พ. 2563 ทางฟ้าใสก็มาพร้อมทนายความและผู้ใหญ่ของเขา แล้วก็ตกลงกันด้วยดี เลยไม่เข้าใจว่าวันนี้มันเกิดเรื่องได้อย่างไง ในส่วนของกองประกวดเองไม่มีประเด็นอะไรกับฟ้าใสเลย และเราขอท้าว่าเราไม่เคยบอกมาพูดอะไรว่าร้ายน้อง มีแต่บอกว่า คนเราถ้ามีดราม่าอะไรเกิดขึ้น เราจะบอกว่าให้มองในจุดดี น้องเขาก็ทำเต็มเหนี่ยวเต็มที่ของเขา นำความสุขมาให้กับพวกเรา ดูในจุดดีเพื่อความสร้างสรรค์ ไม่แปลกเรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ แต่คนไหนที่เกินเลยไป เดี๋ยวคงจะต้องเจอกัน
ผู้จัดการกองประกวดยังเผยอีกว่าได้มีการพูดคุยส่วนตัวกับฟ้าใส ซึ่งฟ้าใสยืนยันว่าไม่ได้มีการเล่าเรื่องสัญญาใด ๆ ให้กับทางผู้จัดการของเธอฟังเลย ซึ่งฟ้าใสยังบอกให้ตนว่าหากไม่พอใจกับการโพสต์ของผู้จัดการส่วนตัวให้โทรไปคุยเอง ตนเองก็มองว่าไม่ใช่ธุระที่ต้องไปไล่โทรหา
“ไปถามทางผู้จัดการประกวดในทุกเวทีว่านางงามทุกคนที่ได้จะต้องมีการเซ็นสัญญา เป็นธรรมเรียมปฏิบัติ แต่ในส่วนของน้องฟ้าใสไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันตั้งแต่แรก เราเองก็เคารพการตัดสินใจของน้อง”
โดยเป็นสัญญานางงาม 1 ปีและสัญญาศิลปิน 3 ปี ยันกองประกวดไม่ได้ทำสัญญาทาสแต่เป็นมาตรฐานเดียวกับกองประกวดทั่วไป มั่นใจตนไม่เคยย้อนแย้งในคำพูดแต่ทุกอย่างยึดตามเอกสารและหลักฐาน ในส่วนไม่ได้ตัดขาดกับฟ้าใส มีงานอะไรถ้าเหมาะสมก็จะติดต่อไป ส่วนเขาจะรับหรือไม่รับเป็นสิทธิ์ของเขาในฐานะศิลปินคนหนึ่ง ในส่วนที่ว่าเขาจะทำมงสำรองขึ้นมาใส่นั้น ทางเราไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ต้องทำหนังสือขออนุญาตมา เพื่อทางกองประกวดจะได้ไปชี้แจงกับทางผู้ออกแบบมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เพื่อขออนุญาตผู้ออกแบบ พร้อมปิดท้ายว่าการสวมมงกุฎของมิสยูนิเวิร์สมีกฎ ไม่ใช่ว่าจะทำแล้วใส่ไปไหนมาไหนก็ได้ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
