
หลังจากเมื่อเช้าวานนี้ (3 มี.ค. 2568) นักร้องดัง ลำไย ไหทองคำ ออกมาโพสต์กลางเฟซบุ๊ก เลิกกับนักร้องมาดเซอร์ ปุ้ย Lกฮ. แล้ว ไร้ปัญหามือที่สาม แต่ไม่ขอตอบคำถามใด ๆ ทำเอาแฟน ๆ ที่เชียร์คู่นี้ช็อกไปตาม ๆ กัน ก่อนจะมีเพจดังขุดสาเหตุเลิกว่าเอี่ยวซุ่มคบแดนซ์เซอร์ชายในวง ?
ล่าสุดเช้าวันนี้ (4 มี.ค. 2568) ลำไย ออกมาโพสต์สาเหตุบอกเลิก ปุ้ย Lกฮ. ก่อนแจงยิบทุกเรื่อง คบแดนซ์ชาย โดยระบุว่า “สวัสดีค่ะ -ประเด็นเรื่องที่โพสเลิกกับพี่ปุ้ยยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่สามค่ะ ปัญหาเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่เป็นปัญหากันมานานไม่เกี่ยวกับเรื่องแดนซ์ชาย
-เรื่องที่เพจต่าง ๆ โพสต์เรื่อง ลำไย กับแดนซ์ชาย คือคุยกันจริงค่ะ แต่คุยช่วงที่ตกลงกับ พี่ปุ้ย ว่าลองไปใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูค่ะ และเรื่องนี้จบไปพักใหญ่แล้วค่ะ
- สาเหตุที่โพสต์เลิกกันมาจากปัญหาสะสมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับแก้กันไม่ลงตัวซักที ตามที่เราเคยพูดกันหลายครั้งเกี่ยวกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย แต่ก็ยังไม่ลงตัว จนมีช่วงที่ พี่ปุ้ย ไปทัวร์คอนเสิร์ต แล้วลงไปอยู่ใต้ เราได้ตกลงกันว่าเราลองใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูมั้ย จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเรายังต้องการกันอยู่หรือป่าว หรือว่าเราจะคิดถึงกันมั้ยเราอยู่ได้มั้ย ถ้าไม่มีกันอยู่ได้มั้ย ตอนนี้เราอยู่กันเพราะความรักหรือความเคยชินที่มีกันเฉย ๆ แล้วถ้าช่วงที่เราห่างกันไป มีคนเข้ามาแล้วเรารู้สึกโอเคกว่าตอนที่เรามีกันก็บอกกัน เราตกลงกันแบบนี้ ช่วง5-6เดือนที่พี่ปุ้ยอยู่ใต้ ไป ๆ มา ๆ บ้าง ถ้าเข้าบ้านส่วนมากจะมาช่วงที่หนูไปงาน ตจว. ระหว่างนี้เราคุยกันน้อยลงจากเดิม แต่ก็ยังถามสารทุกข์สุขดิบกัน และอัปเดตชีวิตกันอยู่เรื่อย

ช่วงนี้คือช่วงที่ลองคุยกับ บอส ค่ะ
แต่ก่อนจะคุยหนูได้ถามย้ำไปกับ พี่ปุ้ย ว่าตกลงเรายังไง พี่จะกลับมาอยู่บ้านมั้ย แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนค่ะ ตอบแค่ว่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ปุ้ยกำลังทำบ้านที่ใต้อยู่ หนูก็เลยบอกไปว่างั้นหนูจะลองคุยกับคนอื่นนะคะ พี่ปุ้ย บอกว่าถ้าลองคุยแล้วโอเคหรือไม่โอเคก็บอกนะครับ ตอนนี้ ปุ้ย ไม่ได้มีใครแต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นและไม่ได้โหยหา ปุ้ย เข้าใจชีวิตวัยรุ่น หลังจากนั้นเราก็คุยกับบอส แต่ก็อัปเดต พี่ปุ้ย บ้างว่าเป็นยังไง พี่ปุ้ย ก็รับรู้ค่ะ
บอส มีแฟนอยู่แล้วทำไมถึงไปคุยได้
เริ่มต้นจากที่ บอส เข้ามาทำงานซักพักแล้วเวลากินข้าว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในวงด้วยกันแล้วน้อง มักจะทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์บ่อย ๆ จนเกิดการถามกันขึ้นในวง น้องก็เล่าให้ฟังบ้างเรื่องปัญหาที่ทะเลาะกัน และมีวันนึงน้องทักมาหาส่วนตัวจะปรึกษาเรื่องการเต้นบนเวที เพราะมีบางช่วงที่ทะเลาะกับแฟนเพราะการหึงหวงการแสดงบนเวที เราก็รับฟังและให้คำปรึกษา เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พูดคุยกันทางแชต หลังจากนั้นเวลามีอะไร บอส ก็จะมาปรึกษาเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว และจะบ่นตลอดว่าเวลาทะเลาะกันชอบโดนแฟนด่าว่าแรง ๆ ไม่โอเคเลย ไม่ไหวแล้ว ประมานนี้ เราก็มีปรึกษาเรื่องความรักของเราไปบ้าง หลังจากนั้นน้องบอกว่าตอนนี้ เลิกกับแฟนแล้ว แต่ยังอยู่คอนโดเดียวกันเพราะยังตกลงกันไม่ได้เรื่องแมว และยังไม่ได้บอกครอบครัว
หลังจากนี้เราก็ได้ลองคุย ๆ กันมากขึ้น (เราเข้าใจว่าน้องเลิกกันแล้ว แต่จริง ๆ ไม่ได้เลิกกัน) หลังจากนั้นไม่นานแฟนบอสมาเห็นแชตที่คุยกับเราเลยเป็นปัญหา วันนั้นต้องเรียกคนมาเต้นแทนกะทันหัน ตอนนั้นเรางง ๆ ว่าเกิดไรขึ้น หลังจากนั้นบอสก็ได้มาบอกความจริงของเรื่องทั้งหมด หนูเลยไปปรึกษา พี่ปุ้ย และทางค่าย ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำยังไงดี และทางแฟนของบอสได้ติดต่อมาที่ค่ายพอดี ก็คุยกันหาตรงกลางกันว่าจะเอายังไงดี จะให้บอสออกจากวง ให้อภัยกันแล้วคบกันต่อ หรือว่าจะเลิกกัน แล้วให้ทางเราทำยังไงได้บ้างให้ซอฟต์ต่อความรู้สึกของทุกฝ่าย สรุปได้ว่าแฟนบอสขอเรียกเงิน 10 ล้าน ทางค่ายคิดว่ามันเยอะเกินไปเลยเสนอใหม่ว่าสามารถจ่ายให้ได้ 2 ล้านน้องผู้หญิงโอเคมั้ย น้องก็ตกลงว่ารับเงิน 2 ล้านไปแล้วต่างคนต่างอยู่น้องก็จะไปเรียนต่างประเทศ ไม่ได้ติดใจอะไรกันก็แยกย้ายกันไป ส่วน บอส ที่ต้องทำงานต่อเพราะต้องทำงานใช้หนี้ที่ทางค่าย หลังจากนั้น หนู พี่ปุ้ย บอส ก็มาคุยกัน พี่ปุ้ย ก็คุยกับ บอส ว่าให้ทำงานใช้หนี้ต่อได้ เป็นอันว่าจบปัญหาตรงนี้ไป
หลังจากเรื่องบอสจบไป หนูกับ พี่ปุ้ย ก็มาเปิดใจคุยกันอีกครั้ง สรุปได้ว่าตอนอยู่ด้วยกันน่าจะโอเคกว่าเลยลองมาปรับกันอีกทีเพราะเดินด้วยกันมาไกลแล้ว และก็ยังมีความผูกพันห่วงใยกันอยู่ หลังจากนั้น พี่ปุ้ย ก็กลับมาอยู่บ้าน เราก็พยายามปรับกันให้มากขึ้น แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ทำให้เราน้อยใจอยู่บ้าง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดปล่อยผ่านไปบ้าง เพราะเรื่องดี ๆ เราก็มีร่วมกันเยอะมาก จนมาถึงช่วงวันเกิดที่ผ่านมา พี่ปุ้ยรับปากว่าจะมางาน เตรียมชุดเตรียมของเรียบร้อย พอถึงช่วงเป่าเค้กหนูยังไม่เห็นคนที่บ้านมาถึงงานเลย ทั้งแม่ทั้งพี่ปุ้ย หนูเลยโทรไปถามสรุปว่าพี่ปุ้ยบอกว่าปุ้ยไม่ไปแล้ว แล้วก็บอกว่าจะให้คนมาส่งแม่ ซึ่งถึงเวลาเป่าเค้กแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าโกรธมาก ๆ แต่แขกก็มางานเยอะก็เลยปล่อยผ่านไปก่อน หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มตึง ๆ กัน คุยกันน้อยลง ทำอะไรนิดหน่อยก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนวันที่ได้โพสต์ข้อความลงเฟซก่อนจะโพสต์ได้ถามกันอีกทีว่าเราจะเอายังไง สรุปคือเราปรับกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน น่าจะด้วยอารมณ์บวกกันการประชดประชันกัน พอได้คำตอบก็เลยโพสต์ไปตอนนั้นเลย หลังจากโพสต์ไปไม่นาน พี่ปุ้ย ก็โทรมาขอปรับความเข้าใจอีกครั้ง ซึ่งเราทั้งคู่ก็อารมณ์เย็นลงแล้ว สรุปได้ว่าเราขอลองปรับตัวเข้าหากันอีกรอบค่ะ****”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
