ดีเอสไอ เรียกสอบ 3 พยานปากสำคัญ เข้าให้ข้อมูลคดี “แตงโม” | ผู้เชี่ยวชาญเรือ ยันไม่ได้แก้ไข GPS

วันนี้ (18 ก.พ. 68) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม – ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ได้เรียกพยาน 3 ราย เพื่อให้ข้อมูลกับดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568


โดยวันนี้ในช่วงเช้ามีพยาน 2 ราย เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ประกอบด้วย พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง ซึ่งเป็นเจ้าของเรือลำเกิดเหตุ และนายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ทั้งนี้พยานอีก 1 ราย นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า จะเดินทางเข้าให้ข้อมูลในประเด็นโทรศัพท์ที่รับมาจากบังแจ็ค ในเวลา 15.30 น.


โดยนายกิตติภัฎ พยานเกี่ยวกับ GPS เรือลำเกิดเหตุ ที่ให้การผ่านรายการโหนกระแสเมื่อสามปีที่แล้ว ได้เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะพยาน และนำหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารเป็นใบรับรองว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญในด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยัน ข้อมูลการเดินเรือการติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยืนยันว่าตนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง GPS เรือ และหลักฐานที่นำไปให้กับทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอในวันนี้ก็เป็นหลักฐานเดียวกันกับที่เคยยื่นไว้แล้วกับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน

ซึ่งหลักฐานที่นำมามอบให้นั้นจะสามารถทำให้รู้ว่า วันเกิดเหตุเรือมีการเดินทางไปในทิศทางใด และสามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือนั้นหันไปในทิศทางใด และจอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ และอยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือดังกล่าว โดยการตรวจสอบในครั้งนั้นได้ทำงานร่วมกันกับบริษัทแนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ

สำหรับข้อมูล GPS ที่มอบให้พนักงานสอบสวนในครั้งนี้ ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS ระบุว่า เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก เมื่อถามถึงเซ็นเซอร์ของใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างก็จะทำงาน จากนั้นก็จะทำให้เรือหยุด เรื่องนี้ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว และก็อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้


ด้านนายวิชชุพันธ์ จิตภักดี ทนายความของนายกิตติภัฎ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากมีสื่อไปพาดพิงว่าพยานไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จึงมาให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีและชี้แจงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยมีความเชี่ยวชาญเรื่องเรือและ GPS มานานกว่า 30 ปี และมาพิสูจน์ต่อคดี ยืนยันไม่มีการแก้ไข GPS ตามที่มีการเสนอข่าวไป ทั้งนี้มาให้ปากคำกับทางดีเอสไอเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่กำลังสัมภาษณ์นายนายกิตติภัฏ ผู้เชี่ยวชาญด้าน GPS ปรากฏว่า พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง ซึ่งเป็นผู้ที่ขายเรือให้กับ ปอ – ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ได้ชิ่งเดินออกจากห้องสอบสวนไปโดยที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากที่ใช้เวลาให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเกือบ 5 ชั่วโมง .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ข่าวจาก สำนักข่าวไทย

เข้าชม 198 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม