เป็นอีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ล่าสุดค่าย GDH พาภาพยนตร์ไทยแนวแฟมิลี่-ดรามา เรื่อง “หลานม่า” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “How to Make Millions Before Grandma Dies” ผ่านเข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้าย จากภาพยนตร์ทั่วโลกทั้งหมด 85 เรื่องที่ส่งเข้าพิจารณาในปีนี้ เพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งถือหนังไทยเรื่องแรกที่ผ่านเข้ารอบลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการส่งผลงานเข้าชิง
ภาพยนตร์ไทย ส่งผลงานเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม มาตลอดระยะเวลา 40 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าร่วมต่อจากประเทศฟิลิปปินส์สำหรับคุณสมบัติของหนังแต่ละเรื่องที่เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในแต่ละสาขา จะต้องเป็นภาพยนตร์ที่ผลิตนอกประเทศสหรัฐอเมริกาและมีความยาวมากกว่า 40 นาที โดยจัดฉายในโรงภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ต่อเนื่องกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน และต้องมีบทสนทนาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเป็นหลัก (หรือมากกว่า 50%) รวมทั้งผลงานแอนิเมชัน หรือสารคดีก็สามารถส่งเป็นตัวแทนได้เช่นกันและที่สำคัญจะต้องเป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 เท่านั้น
ที่ผ่านมา หนังไทย มีรายชื่อเข้าพิจารณารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ทั้งหมด 31 เรื่อง น้ำพุ, เสียดาย2, ตลก69, 14 ตุลาสงครามประชาชน , มนต์รักทรานซิสเตอร์,โหมโรง, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ประกาศอิสรภาพ, รักแห่งสยาม ,ความจำสั้น แต่รักฉันยาว ,ลุงบุญมีระลึกชาติ , เคาท์ดาวน์ ,คิดถึงวิทยา ,อาปัติ,มะลิลา,แสงกระสือ,ฮาวทูทิ้ง,ร่างทรง และปีที่แล้วกับเรื่อง เพื่อน(ไม่)สนิท ฯลฯ และในปีนี้กับเรื่อง “หลานม่า” ภาพยนตร์ไทยเรื่องที่ 31 ต้องมาลุ้นกันต่อจะประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มกราคมปี 68 ส่วนงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 จะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ปี 68
สำหรับ “หลานม่า” ถือเป็นภาพยนตร์ไทยที่สร้างปรากฏการณ์ เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่ 3 ที่ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ต่อจาก เรื่อง “พี่มากพระโขนง” และเรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ หนัง “หลานม่า” กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 2,059 ล้านบาท “หลานม่า” ยังมีรางวัลการันตีมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้ง รางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival / และคว้า 3 รางวัล จากเวที The 61st Asia Pacific Film Festival ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งรางวัล Best Leading Actor ที่ตกเป็นของหนุ่ม “บิวกิ้น” รวมถึงภาพยนตร์รางวัล Best Picture และ Best Original Screenplay อีกด้วยล่าสุดกับการผ่านเข้ารอบ เป็นหนัง 15 เรื่องสุดท้าย เพื่อลุ้นรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม วันนี้ “พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์” ผู้กำกับภาพยนตร์, นักแสดงนำของเรื่องอย่าง “คุณยายแต๋ว อุษา” และ 2 โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์ “เก้ง จิระ มะลิกุล” และ “วัน วรรณฤดี” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับความสำเร็จของ “หลานม่า”
โดย “พัฒน์” ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกและประสบผลสำเร็จ เผยว่า ดีใจกับความสำเร็จของตัวเองในครั้งนี้ เมื่อครั้งที่ได้นำ หลานม่า ไปฉายในฝั่งตะวันตกและยุโรป ผู้ชมชื่นชอบเกินความคาดหมายไปเยอะมาก มองว่าตนโชคดีที่มีทีมงานที่ดี มีโปรดิวเซอร์ที่ดี ตนเพียงคนมาต่อยอดประสบการณ์ของทีมงาน ไม่มีทางคาดหวังที่จะมาถึงจุดนี้ เพียงแค่ทำในทุกขั้นตอนออกมาให้ดีที่สุด ก่อนจะชื่นชมทีมงานทุกส่วนที่เก่งมาก ทำผลงานออกมาให้ได้ดี ที่ผ่านมาตนไม่ค่อยท้อกับการทำหนัง เพราะเป็นคนชอบเอาชนะ จนทำออกมาสำเร็จและรู้สึกหายเหนื่อยตั้งแต่ตัวอย่างปล่อยออกไปแล้ว ยอมรับว่ายังไม่ได้ดูผลงานของผู้เข้าแข่งขัน รู้เพียงแค่ได้อยู่ในจุดเดียวกับผู้กำกับฝีมือรางวัลในต่างประเทศก็ถือว่าที่สุดแล้ว ก่อนจะขอให้คนไทยเป็นกำลังใจให้กับหลานม่าต่อไป
ฟากนักแสดงนำของเรื่องอย่าง คุณยายแต๋ว เจ้าของบท อาม่า ที่เป็นผลงานแสดงเรื่องแรกยังเปิดใจว่า ไม่เคยคิดว่าจะแสดงได้ และไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ระหว่างที่ถ่ายทำก็มีท้อบ้าง เพราะเหนื่อยกับการเดินเยอะ ๆ รวมถึงบางฉากที่แสดงไม่ได้ แต่พอได้เห็นผู้ชมร้องไห้ออกมาจากโรง เมื่อครั้งไปฉายที่สหรัฐอเมริกา ผู้ชมเข้ามากอด บอกว่าอยากเอาอาม่าไปอยู่ด้วยก็รู้สึกดีใจ พร้อมเล่าว่า หนังเรื่องนี้ได้เข้าไปอยู่ในใจของคนดู ทุก ๆ วัย เพราะคนในวัยเดียวกันก็มีฟีดแบคกลับมาว่า หลาน ๆ ก็เดินทางกลับมาหาตนบ่อยมากขึ้น ได้มีความสุขร่วมกับครอบครัว ยายแต๋ว บอกอีกว่า ไม่คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ฟลุ๊ค เป็นเพราะฝีมือล้วน ๆ มีลุ้นในใจว่าเรื่องนี้จะผ่านเข้ารอบลึก 5 เรื่องสุดท้าย มีคิดไว้ เตรียมตัดชุดที่เป็นเอกลักษณ์ไทยไว้ไปโชว์บนเวทีโลกแล้ว
ฟาก 2 โปรดิวเซอร์มือรางวัลประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เก้ง จิระ และ วัน วรรณฤดี เผยว่า หนังเรื่องนี้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทย ย้อนไปเมื่อ 20 ปี ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แต่วันนี้มันก็เป็นไปได้ ก่อนจะเล่าว่า การตัดสินนี้เป็นเรื่องที่ยากที่จะคาดเดา แต่ความสำเร็จจุดนี้ถือเป็นความภูมิใจมาก ๆ แล้ว ถือว่าได้รับการยอมรับจากสากล ได้รับเกียรติที่ได้ยืนบนเวทีที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐาน มันเป็นการเริ่มต้นที่เปิดการยอมรับทั้งเรื่องของหนัง กระบวนการทำหนัง และการยอมรับในประเทศไทยด้วย เป็นความสำเร็จของคนทั้งประเทศ เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ต่างชาติได้รู้ตักประเทศไทย และอยากเปิดใจดูหนังไทยต่อไป
“เก้ง” ยัง ชื่นชม “พัฒน์” ว่าเป็นคนทำงานที่ทำให้งานมีเสน่ห์ ทำให้คนอยากชมงานต่อไป มีความน่าสนใจ ผลงานเข้าใจง่าย สื่อสารอารมณ์ได้ดี ถือเป็นผู้กำกับที่เป็นอนาคตของประเทศ หวังว่า พัฒน์ จะทำงานให้วงการภาพยนตร์ต่อไป เพราะ พัฒน์ เป็นคนที่พิถีพิถันในการทำผลงาน ทำให้ผลงานมีความพิเศษ ก่อนจะมองว่า ทุกประเทศที่เข้าชิง 15 เรื่องในสาขานี้ ทุกประเทศมีสิทธิเข้าลุ้น “วัน” เสริม ต่อจากนี้ “หลานม่า” ยังคงทำงานต่อ มีฉายในประเทศในแถบยุโรป และอเมริกาใต้อีก หลังจากนี้ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อภาพยนตร์เข้าชิง 5 เรื่อง คงต้องทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในกระแสและทำให้คนดูรู้จักเพิ่มมากขึ้นไปอีก ก่อนจะขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักได้ และอยากให้เป็นกำลังใจให้หลานม่าต่อไปเรื่อย ๆ
ขณะที่ “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่อง เผยว่า “ดีใจที่ภาพยนตร์ไปไกลเกินคาด เพราะระหว่างที่ทำตนก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ก่อนจะถ่ายทำมีความยากลำบากอยู่เหมือนกัน แต่โชคดีที่เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ มันประสบผลสำเร็จได้ด้วยทีมงานทุกคน ดีใจที่ได้ติดขบวนความสำเร็จไปด้วย หนังเรื่องนี้ได้พาตนไปเจอกับประสบการณ์ใหม่ ๆ เจอคนใหม่ ๆ พอนึกถึงก็ทำให้อมยิ้ม การที่จะเข้ารอบต่อไป 5 เรื่องสุดท้าย ตนไม่ได้คาดหวัง แต่ตนก็รอลุ้นอยู่เหมือนกัน เห็นว่า “ยายแต๋ว” เตรียมตัดชุดแล้ว แต่ตนไม่คิดอย่างนั้น รอเช่าชุดเอาดีกว่า .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน