อีกครั้งที่วงการบันเทิงต้องสูญเสียบุคคลสำคัญไปอย่างไม่มีวันกลับ ล่าสุด “เรือตรี สันติ ลุนเผ่” จากไปอย่างสงบเวลา 01.01 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 67 สำหรับ “เรือตรี สันติ ลุนเผ่” นามเดิม ไพศาล ลุนเผ่ เกิดที่บ้านในย่านวัดราชบพิธ จังหวัดพระนคร เป็นบุตรของหม่องลุนเผ่ ซึ่งเป็นนักร้องละครชาวพม่า ที่อพยพมาอยู่ ณ จังหวัดลำปาง แล้วนำชื่อ ลุนเผ่ มาใช้เป็นชื่อสกุล ก่อนย้ายรกรากมายังกรุงเทพมหานคร และได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ (อสช 15713) จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาในปี พ.ศ. 2496 และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรือตรี สันติ ชื่นชอบดนตรีคลาสสิกมาตั้งแต่วัยเยาว์บิดาซึ่งชอบฟังคารูโซเป็นผู้สอนร้องเพลงให้ นอกจากนี้ขณะเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เป็นลูกศิษย์ของครู สังข์ อสัตถวาสี ครูดนตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมวงดนตรีวายุบุตร ของ เชาว์ แคล่วคล่อง และสอบชิงทุนยูธ ลีดเดอร์ชิป (Youth Leadership) ไปศึกษาด้านการเรียบเรียงเสียงประสานที่ประเทศอิสราเอลเป็นผลสำเร็จ
ฃจากนั้นจึงกลับมาร่วมวงดนตรีวายุบุตรในตำแหน่งนักกีตาร์ โดยเล่นประจำที่โรงแรมเอราวัณ ได้รับการฝึกฝนดนตรีคลาสสิกจากการร้องเพลงในโบสถ์คริสต์ ฝึกสอนโดยแมรี คลิฟฟอร์ด เจฟฟรีย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน จากการฝากฝังโดยหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา และได้ร่วมเป็นนักร้องเสียงเทเนอร์ในวงดนตรี The Bangkok Combined Choir (BBC) เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในวง สันติ ได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกโดยวงดนตรีวายุบุตรคือเพลง “คมแสนคม” ผลงานของ เชาว์ แคล่วคล่อง เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง “คมแสนคม” ในปี พ.ศ. 2507
ช่วงสงครามเวียดนาม เรือตรี สันติ ได้สอบหลักสูตร ทรีนิตี้ คอรัส ออฟ ลอนดอน ซึ่งเปิดสอบที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบเกรด 8 เทียบเท่าอนุปริญญา ต่อมาได้ร่วมวงดนตรีโดมิงโกกับนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ ตระเวนเล่นดนตรีตามค่ายทหารอเมริกัน ต่อมาได้ตั้งวงดนตรีร่วมกับพันจ่าเอกธวัช ไพโรจน์ ประจำที่ภัตตาคารสวนกุหลาบ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ในปี พ.ศ. 2518
เรือตรี สันติ มีโอกาสได้ขับร้องเพลงคารูโซถวายต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในงานเลี้ยงพระราชทานพระกะยาหารเหล่ากาชาดนานาชาติ ร่วมกับวงดุริยางค์กองทัพเรือ โปรดเกล้าฯ ให้นายไพศาลเข้าเฝ้า และรับสั่งให้ร่วมขับร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงรักชาติ (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดให้เรียกเพลงปลุกใจ ว่า “เพลงรักชาติ” เนื่องจากคำว่า “เพลงปลุกใจ” สื่อความหมายไปในด้านความรุนแรง)[ต้องการอ้างอิง] ในครั้งนั้นพระพันปีหลวงทรงรับสั่งเรียกชื่อ “สันติ ลุนเผ่” ชื่อ “สันติ” เป็นชื่อในการร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียง เขาจึงใช้ชื่อ “สันติ ลุนเผ่” เป็นชื่อจริงมาตั้งแต่นั้นเพื่อความเป็นศิริมงคล
เรือตรี สันติ มีชื่อเสียงจากการขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงรักชาติ เป็นจำนวนมากเช่น ความฝันอันสูงสุด ทหารพระนเรศวร ดุจบิดามารดร เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย แด่ทหารหาญในสมรภูมิ มาร์ชทหารไทย หนักแผ่นดิน ถามคนไทย ได้เข้ารับราชการทหารเรือ ประจำวงดุริยางค์ทหารเรือ มีหน้าที่สอนขับร้อง และเรียบเรียงเสียงประสาน จนกระทั่งนาวาเอกสำเร็จ นิยมเดช อดีตผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เสียชีวิต จึงลาออกจากราชการ ต่อมาได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล – ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558
ช่วงบั้นปลายชีวิต เรือตรี สันติ ประกอบอาชีพร้องเพลง สอนขับร้องดนตรีคลาสสิก และเป็นที่ปรึกษาคณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน