อุ้ม พรรษวุฒิ
หลังจากเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เพจดาราภาพยนตร์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายคนเล็ก ของอดีตพระเอกชื่อดังผู้ล่วงลับ “สมบัติ เมทะนี” ว่า “เรื่องเศร้าคนบันเทิง ครอบครัวศิลปินแห่งชาติ สมบัติ เมทะนี สุดเศร้า สูญเสียลูกชายคนเล็ก #อุ้มพรรษวุฒิ หรือ พรรษวุฒิ เมทะนี สวดพระอภิธรรม ศาลา 11 วัดลาดพร้าว
โดยก่อนหน้านี้ก็ได้สูญเสียศิลปินแห่งชาติ “อาแอ๊ด-สมบัติ เมทะนี” ไปเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ.2565 และเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ครอบครัวต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้ง เมื่อลูกชายคนเล็ก “อุ้ม-พรรษวุฒิ เมทะนี” จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งบรรยากาศรดน้ำศพและสวดพระอธิธรรมคืนแรก เต็มไปด้วยคนเบื้องหน้า เบื้องหลัง รวมทั้งเพื่อนสนิทมาร่วมไว้อาลัยกันล้นศาลา โดยกลุ่มเพื่อนอุ้มรับเจ้าภาพในคืนแรก ฟากคนบันเทิงก็มาร่วมพิธี อธิเช่น แหม่ม วิชุดา , ลิฟท์ สุพจน์ – ออย ธนา , เจมส์ เรืองศักดิ์ ,วินัย พันธุรักษ์ ฯลฯ
ด้านพี่ชาย “อั๋น สิรคุปต์ – เอ้ ศตวรรษ เมทะนี” เผยว่าน้องชาย “อุ้ม พรรษวุฒิ” ค่อนข้างเป็นคนดื้อ ก่อนหน้านี้มีอาการปวดหลังแต่ก็ยังไม่ไปตรวจเช็ค จนมาตรวจพบเป็นมะเร็งในขั้นที่สายไปแล้ว โดยเริ่มจากบริเวณปอดลามไปกระดูกสันหลัง และได้เข้าทำการรักษาประมาณ 4 เดือน ก่อนที่จะเสียชีวิต บอกน้องชายใจเขาสู้มากและเขาบอกจะสู้แต่ด้วยตัวโรคอาจยากต่อการรักษา เผยจุดสังเกตุตอนนั้นคือเขาผอมซูบแบบผิดปกติและปวดหลังจนทนไม่ไหวเลยไปหาหมอ ที่ผ่านมาน้องชายเป็นคนออกกำลังก่ย ดูแลสุขภาพ ปั่นจักรยานตลอด มองเรื่องสุขภาพสำคัญมากและไม่ควรประมาท หากใครพบร่างกายผิดปกติต้องรีบเช็คดีที่สุด ด้านคุณแม่ท่านเข้มแข็งตั้งแต่ตอนเสียคุณพ่อไปแล้ว ท่านรับรู้กระบวนการรักษาของอุ้มตลอดและท่านเป็นคนไปหาหมอด้วยทุกครั้ง มีเพียงครั้งล่าสุดที่อุ้มขอไม่ให้คุณแม่เข้าไปฟังผลการรักษาด้วย ทุกคนเลยยังไม่รู้ว่าคุณหมอแจ้งว่าอย่างไร ตอนนี้ลูกๆก็ผลัดกันมาอยู่กับคุณแม่ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ให้ห่างสายตา สำหรับพิธีทางศาสนานั่นจะสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3คืน และฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 15.00 น. ณ วัดลาดพร้าว ส่วนสำหรับอัฐิจะรอทางหลาน ๆ ที่ไปเรียนต่างประเทศและเดินทางกลับมาประเทศไทยไม่ทันกลับมาก่อนค่อยว่าแผนเรื่องลอยอังคารหรือจะนำอัฐิบรรจุไว้ที่ไหน
ฟากเพื่อนสนิท “แหม่ม วิชุดา” เปิดใจทั้งน้ำตาว่า อุ้มเป็นคนขี้น้อยใจและรักเพื่อนมาก เขาจำคนเก่ง หากใครเห็นข่าวนี้ก็อยากให้รีบมาลาเขาเพราะงานจัดเพียง 3 วัน ด้านลิฟท์ สุพจน์ บอกที่ผ่านมาเขาเป็นคนดูแลสุขภาพดีมาตลอดและออกกำลังกายทุกวัน เพื่อนทุกคนตกใจไม่คิดว่ามะเร็งจะเกิดขึ้นกับเขา แต่ยอมรับว่าตอนที่เจอผอมซูบทุกคนก็ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าเขาลีนจากออกกำลังกาย เลยสะท้อนถึงตัวเองว่าไม่ควรชะล่าใจกับสุขภาพ ตอนที่เขาไปพบแพทย์คือตอนที่ปวดหนักจนแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว ยอมรับอุ้มเป็นคนดื้อ ใครสั่งก็ไม่ได้ จนสุดท้ายคุณแม่เป็นคนลากเขาไปรักษา เผยลางบอกเหตุคือภาพที่ถ่ายด้วยกันตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลแล้วเขาชวนให้ถ่ายรูปกันเดี๋ยวจะไม่ได้ถ่ายด้วยแล้ว ขนลุกอุ้มมาสื่อสารกับพี่ที่แต่งหน้าศพให้ว่าขอเปลี่ยนหมอนที่นอนเพราะเป็นหมอนสีแดงที่บ้านเพราะนอนไม่สบายแล้วก็ไปเจอจริง ๆ พร้อมฝากบอกอยากกินอาหารฝีมือแม่ ซึ่งคุณแม่รับทราบแล้วและบอกว่าไม่ได้ทำให้กินนานแล้ว เชื่อเขาหมดห่วงทุกอย่างแล้วและไปสบายไม่ได้ทรมาน ห่วงแค่สภาพจิตใจของคุณแม่ที่เป็นผู้สูงอายุเพราะมองในมุมตัวเอง แม่ต้องมางานศพลูกก็ทำใจยากเหมือนกัน .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ขอบคุณ wichudapindum