ลูกคนรักใหม่ที่แท้ทรู! “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” เสียบแทนพิธีกร “บอสกันต์ กันตถาวร” ทั้ง “ร้องข้ามกำแพง” ล่าสุดกับ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ซึ่ง เจ้าตัว เปิดใจว่าอยากให้ทุกคนเปิดใจกับทำหน้าที่พิธีกร ทั้ง 2 รายการ พร้อมการันตีจะไม่ทำให้ใครต้องผิดหวังแน่นอน
การทำหน้าที่พิธีกรรายการร้องข้ามกำแพงเป็นยังไงบ้าง?
ซี : จริง ๆ แล้วคือตัวแพลตฟอร์มของรายการมันดีอยู่แล้วผมว่าใครมาทำก็ได้แล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างแต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเองซึ่งถ้าจะให้เครดิตจริง ๆ คงไม่ใช่เพราะผมหรอกต้องให้เครดิตดีเจนุ้ยให้เครดิตปั้นจั่นและให้เครดิตศิลปินทุกคนแล้วก็ทีมงานเพราะแพลตฟอร์มของรายการร้องข้ามกำแพงมันดีอยู่แล้ว
เทปแรกกดดันมากไหม?
ซี : คือไม่ได้กดดันเรื่องของงานแต่เป็นความรู้สึกที่อย่างที่ทุกท่านทราบมันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้ดีมากแต่ว่าเราก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพทีมงานทุกคนมีความมืออาชีพศิลปินทุกคนมีความเป็นมืออาชีพเราเป้าธงที่เราตั้งไว้คือเรายังคงดำเนินให้รายการนั้นออกมาแล้วทำให้ทุกคนมีความสุขครับนั่นคือเป้าเราส่วนหลังบ้านเนี่ยเราจะรู้สึกอะไรยังไงมันเป็นหน้าที่ที่เราต้องจัดการความรู้สึกของตัวเองครับวันนี้ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันเข้าสู่กระบวนการแล้วเนี่ยมันก็ว่ากันไปตามนั้น
ตอนที่เขาแจ้งว่าให้เรามารับบทบาทนี้คิดหนักไหม?
ซี : ไม่ได้คิดหนักอะไรเลยครับเราก็ทำหน้าที่เอาจริงๆผมก็เป็นลูกจ้างผมเป็นคนในบริษัทเวิร์คพอยท์การที่ผมจะไปแทนใครมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมผมยินดีมากอะไรก็ตามที่ทำสำหรับบริษัทเราก็ทำตามที่ผู้ใหญ่เห็นชอบผมก็ทำมันด้วยความสุขอยู่แล้วแต่เพียงแค่ว่าครั้งนี้มันแตกต่างจากทุกๆครั้งที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นการแทนชั่วคราวมันไม่ได้เป็นการแทนช่วงใดช่วงหนึ่งหรือซีซั่นหนึ่งคือมันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่อันนั้นมันเป็นความรู้สึกของผม
อย่างวันแรกที่ผมได้มีการถ่ายรายการผมก็ส่งข้อความหาเอมี่แล้วพูดอะไรบางอย่างที่มันอัดอั้นในใจผมมันเป็นความรู้สึกที่ผมพูดตรงๆว่ามันเป็นความรู้สึกที่แย่บางอย่างเพราะมันก็คนใกล้ตัวเหตุการณ์นี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับทั้งคนใกล้ตัวทั้งใครทั้งผู้เสียหายอย่างไรก็ตามอย่างที่ผมบอกในฐานะที่เราควรจะเป็นมืออาชีพในการทำงานเราต้องวางไว้คนละเรื่อง
ซึ่งเทปแรกได้รับการตอบรับที่ดี?
ซี : ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วตั้งแต่ก่อนแล้วนะครับตั้งแต่ก่อนจะทำงานแล้วมันก็เป็นอะไรที่มันต้องเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆนะครับคือจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคงไม่รู้สึกดีคงเป็นไปไม่ได้ขอบคุณมากทุกแรงเชียร์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ที่เห็นผมเหมาะสม จริง ๆ แล้วขอบพระคุณมากเลยนะจากใจเลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากครับ จริง ๆ ผมไม่ได้กดดันตั้งแต่แรกอยู่แล้วบอกเลยว่าผมก็แค่ดำเนินรายการคือหน้าที่พิธีกรมันไม่ได้มีหน้าที่เป็นพระเอกของเรื่องอยู่แล้วเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราคิดถึงตัวเองว่าเราจะต้องเป็นพระเอกของเรื่องมันก็คงต้องมีภาวะความกดดันหน้าที่ของพิธีกรคือเรามีหน้าที่สร้างบรรยากาศให้ทุกคนมีความสุข พี่ไม่ได้มีหน้าที่ในการเป็นพระเอกของเรื่องก็แค่นั้นทำให้สภาวะความกดดันมันเลยไม่มี
อีกรายการนึงที่หลายคนก็จับตามองคือ The mask หน้ากากนักร้อง ว่า ซี จะมารับบทบาทพิธีกรแทนอีกไหม?
ซี : ครับผมคืออ่ะผมถือโอกาสตรงนี้เลยครับว่าครับผมเองแหละครับแต่มันไม่เหมือนกันร้องข้ามกำแพงมันคือการถ่ายทำใหม่ the mask เดี๋ยวให้ทางบริษัทประกาศแต่ถึงไม่ประกาศทุกคนก็พอจะเดาได้อยู่แล้ว คือจริง ๆ the mask มันได้มีการถ่ายทำเสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหน้าที่ของผมผมคงต้องไปแก้ไขอะไรบางอย่างซึ่งบอกได้เลยว่าอะไรบางอย่างตรงนั้นมันเป็นงานที่หินมากอันนี้คือยากมากยากทั้งทีมงานและยากทั้งผมยากทั้งทุกๆ คนอันนี้ขอเป็นตัวแทนบริษัทเวิร์คพอยท์กราบขอบพระคุณศิลปินและกรรมการหลายท่านที่น่ารักกับเรามากอะไรที่ใช้ของเดิมได้เราก็ใช้อะไรที่ต้องมีการเข้าใหม่กับผมมันต้องมีการถ่ายทำใหม่ซึ่งมันก็ยากอันนี้ผมไม่รู้ว่าเขาให้บอกหรือเปล่าแต่ผมก็พูดไปแล้วเอาเป็นว่าผมพูดตามนี้แล้วกัน จริงๆความสนุกของสิ่งที่มีมันดีอยู่แล้วเอาเป็นว่าก็ขอให้ทุกท่านเปิดใจผมการันตีว่าซีซั่นนี้ยังไงก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน คนที่เครียดคือทีมงาน
ตอนนี้กลายเป็นว่าซีรับจบ?
ซี : ก็ยินดีเสมอครับจริงๆแล้วผมเป็นคนยินดีอยู่แล้วผมไม่ได้คิดอะไรเลยครับว่ามันไม่ใช่ของผมมันไม่ใช่ของมันไม่ได้เรื่องที่ผมจะต้องคิดว่ามันเป็นของใครหรือใครทำมาคือเราแค่เป้าของเราในทิศทางที่เราต้องการจะทำคือให้ทุกคนมีความสุขเท่านั้นเองอันนี้ไม่ได้โลกสวยหรือพยายามพูดให้ดูดีนะครับแต่ผมเป็นคนแบบนี้จริงๆงั้นผมก็เลยไม่เคยจะต้องมีสภาวะความกดดันว่าถ้าผมทำแล้วมันจะดีไหมคนจะมองผมยังไงคือไม่มีใครคือยังไงเทปแรกออกมามันไม่ได้ดีหรอกครับเดี๋ยววันนึงพอมันเริ่มชินมันเริ่มอะไรทุกอย่างมันก็จะมันก็จะดีของมันเองนะครับ
เอาจริง ๆ กับคำว่าลูกรักคนใหม่?
ซี : อันนี้ก็แล้วแต่ว่าแต่ละท่านให้ความหมายยังไงสำหรับตัวผมเองไม่ได้มองว่าเป็นลูกรักหรืออะไรคือผมเองก็มีงานมาตลอดผมก็ทำหน้าที่ของผมมาโดยตลอดด้วยความตั้งใจมาโดยตลอดมันจะเป็นยังไงมันก็เป็นไปตามกระบวนการของธรรมชาติ
ตอนนี้มีกี่รายการ?
ซี : 5 รายการ
เอมี่ สนับสนุนสามียังไง?
เอมี่ : เราก็พูดกับเขาเสมอเขาตั้งใจทำมาตลอดเขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์พอโอกาสมันมาเขาก็ทำได้ดีอยู่แล้วเราก็บอกเขาว่าทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ตอนวันที่เขาอัดรายการครั้งแรกเขาโทรมาตอนนั้นเราก็ถามเขาว่าเขาเป็นอะไรคือเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นพอเรามาฟังเขาซึ่งที่ผ่านมาเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลยคือเขาก็มีความรู้สึกปกติเขาเป็นคนที่ทำได้หมดเขาเป็นคนจัดการความรู้สึกได้แต่ครั้งนี้เขาค่อนข้างที่จะใช้เวลาที่ทำหน้าที่ตรงนั้น ซึ่งตอนนั้นที่เขาโทรมาจริง ๆ เราก็เหมือนรู้รู้กันมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้วพอไปถึงตรงนั้นแล้วเขาจะต้องแสดงว่าแฮปปี้ความดีใจแต่ในใจเขาก็พยายามที่จะกดความรู้สึกบางอย่าง
หลังจากนี้สามีก็อาจจะมีเวลาให้น้อยลงเราโอเคไหม?
เอมี่ : โอเคมากเลยค่ะ (หัวเราะ) เราก็อยากให้เขาทำงานอะเนอะรายการหลากหลายซึ่งเขาทำงานเราก็ทำงานเพราะเราก็ทำธุรกิจคือช่วงนี้เป็นช่วงที่เราแยกย้ายไปทำงานกัน
ซี : บางทีก็อยากรู้ว่าเขาประชุมเขาประชุมอะไรยังไงเวลาประชุมทีไรกลับมาทุกครั้งสะเงาะสะแงะประชุมยังไง
เอมี่ : มันเหนื่อยมันก็มีเดินเซกันบ้าง (หัวเราะ) เธอเป็นพิธีกรเธอไม่เข้าใจหรอกว่าธุรกิจจะเขาทำอะไรกันบ้าง .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน