ทนายประมาณ ทนายความของ “ปู มัณฑนา” เผยว่ามีการสืบพยานโดยการเบิกความโจทก์ก่อน และทนายจำเลยถามค้าน ตนก็เริ่มซัก “ลูกหมี” ตั้งแต่เช้าเลย ตนก็ซักเรื่องการเอาเงินไปลงและค่าตอบเทนเรื่องการลงทุนกับ “ปู” ซึ่งบางก้อนก็ได้รับเงินคืนหมดแล้ว แต่ยังเหลือก้อนใหญ่ “ลูกหมี” ลงทุนไป 3 เดือน ก้อนแรก ลงทุน 1 ตุลาคม 66 ลงทุน 850,000 “ปู” ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้อีก 150,000 รวมเป็นหนึ่งล้าน ภายใน 1 มกราคม 67 แต่พอถึงเวลา “ลูกหมี” บอกยังไม่ได้รับเงิน จึงได้เขียนเช็คจ่าย พอวันที่ 31 มกราคม 67 ยังเรียกเก็บเงินไม่ได้ ก็ยังไม่ได้จ่ายคืน ซึ่งเงินที่ยังไม่จ่าย 1 ล้านบาทก้อนนี้ กลับกลายเป็นรวมอยู่ในเงิน 2 ล้านบาทที่เป็นคดี จึงซักลูกหมีไปว่า สรุปต้นเดือนมีนาคมที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ปูยืมเงิน 2 ล้าน ทำสัญญากู้และเขียนเช็คให้ มีการยืมจริงไหม? “ลูกหมี” กลับตอบว่า ไม่มี ทนายแจง มาจากมูลหนี้เดิม ส่วนอีกหนึ่งล้านหลังนี่มากจากไหน จะไปซักต่อในช่วงบ่าย
“ทนายประมาณ” เผยต่อ ที่บอกว่าคดีพลิก มีทั้งข้อเท็จจริงที่จะพลิกไปจากเรื่องอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์กับสื่อและข้อกฎหมายก็จะไม่ใช่ความผิดตามพรบ.เช็คและฉ้อโกง ตนไม่มีอะไรหนักใจ ตอนบ่ายก็รอซักค้าน “คุณอ้อม” พยานอีกฝ่ายแล้ว ทาง “ปู” เผย รู้สึกดีใจที่ได้มาฟังอันเรื่องเรื่องจริง-ไม่จริง เหตุผลที่อยากมาคือ อยากมาฟังด้วยตัวเอง ในเรื่องของคนสองคน อีกฝ่ายจะพูดว่ายังไง มันควรเป็นเรื่องของคนสองคน แต่เขาเลือกที่จะใช้วิธีนี้ ที่จริงมันจะไม่บานปลายขนาดนี้ถ้าพูดคุยกันดี ๆ ที่ ลูกหมี ดีใจที่เห็นตนมีความสุข “ปู” ตอบ ก็มีความสุขดีเพราะตนไม่ได้ผิดอะไร เอกสารทุกอย่างก็ส่งให้ทางทนายหมดแล้ว บรรยากาศในห้องไม่ได้มาคุ ตนเองก็เฉย ๆ ไม่ได้อะไร ยังไม่ได้คุยกัน ก่อนจะบอกว่า ตนสบายใจมาก เพิ่งได้เห็นทนายโซเชียลที่อยู่ต่อหน้าสื่อจะพูดอีกแบบหนึ่ง แต่พออยู่ในศาลจะเงียบกริบ ถามว่าหมายถึง ทนายเดชา หรือเปล่า “ปู” ตอบ หมายถึงทั้งคู่เลย เป็นคนละภาพ ก่อนหน้าที่ตนเครียดจนเข้าโรงพยาบาลถึง 7 ครั้ง ตนเครียดจริง ๆ เพราะไม่เคยมีข่าวเสียหาย พอเขามาทำแบบนี้ เขาเองรู้ดีว่ากำลังทำอะ ตอนนี้มีภูมิต้านทานดีขึ้น มูลที่แท้จริงไม่ใช่ยอด 2 ล้าน ต้องรอศาลตัดสิน ไม่เคยบอกว่าเป็นหนี้ไม่ใช้ แต่หนี้ที่เขาแจ้งไม่ถูกต้อง ไม่ได้ต่อสู้ เพราะจะไม่ใช้หนี้ “ทนายประมาณ” เสริม มันเป็นการทำลายชื่อเสียงเลยเถิดล้ำเส้น การต่อสู้คดีเพื่อความถูกต้องให้กับครอบครัว
ฟาก “หาญ” มาเป็นกำลังใจให้ภรรยา ได้เห็นอีกฝ่ายให้ข้อมูล เพราะฉะนั้นจะได้เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องชัดขึ้น ถ้าจบได้ก็ดี ขอให้พี่น้องเป็นกำลังใจให้ด้วย อย่างเพิ่งทัวร์ลงตนแบบเต็มที่ “ทนายประมาณ” มองว่ามันเป็นกระแสที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เกลียดชังพวกเรา โดยกระบวนการหลังจากไต่สวนมูลฟ้องเสร็จ ศาลจะมีคำสั่งว่ามีมูลหรือเปล่า ถ้าไม่มีมูลก็ยกฟ้องไปเลย ถ้ามีมูล มีความเป็นไปได้ทางศาลก็จะประทับฟ้องและสู้คดีต่อไป ทนายมองว่าตามรูปคดี ศาลน่าจะยกฟ้อง โดยโจทก์ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ โดยที่ศาลจะต้องรับรองก่อน ส่วนคดีดิไอคอนที่มีภาพปูร่วมเฟลมกับ “บอสพอล” ทาง “ปู” เผยว่าตนเองถูกชักชวนลงทุน มีเงินบางส่วนได้คืนแล้ว ยังไม่ได้คุยรายละเอียดในส่วนนี้ ตนเข้าไปพรีเซ็นต์งานในอีเวนต์ ยังไม่อยากพูดว่าตนเป็นผู้เสียหาย ตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเคลียร์คืนอยู่ ไม่กังวลใจว่าจะเอี่ยว ยังไม่ใช่แม่ข่าย-บอสปูแน่นอน ตนมีหลักฐานทุกอย่าง คนรู้จักก็คุยงาน-ทานเข้ากัน คุยกันแค่เรื่องธุรกิจ มีคุยชักชวนให้เป็นบอสด้วยแต่ตนไม่ได้ตอบตกลงไป พอเกิดเรื่องรู้สึกตกใจ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่เลย เรื่องเกิดเมื่อปลายปีที่แล้ว ตนตกใจและไม่คิดว่าจะมีผู้เสียหายเยอะขนาดนี้ “ทนายประมาณ” บอกไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วง แค่ลงทุนไป 250,000 เป็นดีลเลอร์ ได้ของไปบางส่วนเพื่อมาใช้เอง แต่ไม่ได้หาลูกค้าต่อ ขายไม่เป็น ที่อยากสมัครเพราะอยากได้อีเวนต์เขา .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน