ทนายวิฑูรย์ เตรียมพูดคุยกับ บอสกันต์ เป็นครั้งแรก หลังได้รับแต่งตั้งเป็นทนายทั้ง บอสพอล บอสกันต์ บอสแซม ส่วน บอสมิน มีทนายอีกชุดดูคดี

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท The Icon Group เดินทางมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าปรึกษาหารือเรื่องคดีความกับ บอสพอล โดย ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า วันนี้มีนัดคุยกับทีมทนายความหลายทีมภายในเรือนจำ เบื้องต้นประเด็นหลัก ๆ คือการมอบหมายส่งงานการแจ้งความนักร้องสาวให้ทีมงานอีกชุดทำต่อ รวมทั้งจะมีการประชุมแบ่งงานกันว่าทนายแต่ละคนจะทำหน้าที่เรื่องอะไรบ้างและยื่นหนังสือแต่งตั้งทนายให้บอสกันต์ กันตถาวรเซ็น เพื่อให้ทนายทุกคนทำงานเป็นทีมงานทีมเดียวกัน ทนายความสามารถคุยกับผู้ต้องหาได้ทุกคน จะไม่มีการแบ่งแยกแล้วว่าทนายดูแลแค่คนใดคนหนึ่ง แม้ผู้ต้องหาแต่ละคนจะมีทนายความเฉพาะบุคคล แต่โดยภาพรวมทีมทนายความจะร่วมดูแลคดีทั้งหมด 18 คน ซึ่งรูปแบบการต่อสู้คดีจะเป็นรูปแบบเดียวกันและทำงานคล่องตัวกันมากขึ้น โดยการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในวันนี้ นอกจากจะพูดคุยกับบอสพอลแล้ว ตนจะพูดคุยกับบอสกันต์และบอสแซมด้วย ส่วนบอสมีน พีชญา จะเป็นทนายความอีกชุดหนึ่งเป็นคนคุย


ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกลับบุคคลที่ได้รับออเดอร์นั้น ทีมที่ดำเนินการฟ้องกลับเพิ่งได้รับหนังสือมอบอำนาจในวันนี้และเตรียมจะดำเนินการยื่นหนังสือให้ DSI หากบอสพอลสามารถเซ็นเอกสารที่ตัวเองจำเป็นต้องส่งให้ DSI ทันภายในวันนี้ ก็จะรีบไปยื่นเพื่อเปิดหัวเรื่องแก่ DSI ในช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนที่จะให้ทีมที่ดำเนินการฟ้องกลับมาดำเนินการต่อ

นอกจากนี้ อีกเป้าหมายหนึ่งในการเข้าพบ DSI ในช่วงบ่ายวันนี้ คือเรื่องการหารือเกี่ยวกับการนำพยานฝั่งของตนเองไปให้ปากคำกับ DSI สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ตนได้มีการประชุมกับบรรดาแม่ทีมฝั่งตนเองทุกสายถึงความพร้อมในการนำพยาน 2,000 กว่าคนเข้ามาให้ปากคำกับ DSI โดยจะต้องหารือกับทาง DSI ว่า มีความพร้อมในการสอบปากคำพยานวันละกี่คน เพื่อจะได้จัดสรรจำนวนพยานในแต่ละวันไปให้ DSI สอบปากคำจนกว่าจะครบ


ส่วนการนำพยาน 2,000 กว่าคนมาให้ DSI สอบปากคำเป็นการประวิงเวลาคดีหรือไม่ ทนายความยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะเนื่องจากที่ผ่านมาได้เน้นการสอบปากคำฝั่งผู้เสียหายหรือผู้กล่าวหาฝ่ายเดียวมากกว่า ส่วนฝั่ง The icon นั้นสอบปากคำเพียงแค่ผู้ต้องหา 18 รายและพนักงานในบริษัท ยังไม่มีการสอบปากคำนักธุรกิจที่ทำธุรกิจกับ The icon จริง ๆ เลย ทั้งนี้พยาน 2,000 กว่ารายนั้น ใครจะให้ปากคำแบบไหนก็เป็นสิทธิ์ส่วนตัวและเป็นเรื่องของพยานแต่ละบุคคล แล้วส่วนตัวก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การให้ปากคำของพยานฝั่งตนนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่าไม่มีการกำหนด Pattern เหมือนฝั่งผู้เสียหาย ขณะที่ทาง DSI จะสามารถรองรับการสอบปากคำนี้ได้หรือไม่ ทนายมองว่าถ้ารับไม่ได้ก็ต้องรับให้ได้ เพราะต้องให้โอกาสฝั่งตัวเองชี้แจงด้วย

กรณีที่มีแม่ข่ายบางคนถอนแจ้งความแล้ว ทนายมองว่าตามกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ เพราะว่าตำรวจได้ดำเนินการส่งมอบคดีให้ DSI ไปแล้วตามขั้นตอน คดีก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป สำหรับกรณีฟอกเงินนั้น เชื่อว่าทาง DSI จะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องขัง 18 รายเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ผู้ต้องขังถูกคุมขังนานขึ้น เนื่องจากจะเป็นการขยายระยะเวลาการฝากขังเป็น 84 วัน ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่ DSI บอสพอลโอนเงินให้แม่ของนักการเมือง ส.เสือ 2.5 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ที่รับข้อมูลสอบถามทราบว่า เป็นเพียงเงินโอนไปร่วมทำบุญทุกเดือน เพราะทั้งสองฝ่ายรู้จักและสนิทกัน ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับคลิปเสียงที่มีลักษณะคล้ายเป็นการเรียกรับเงินก่อนหน้านี้ ซึ่งหาก DSI สงสัยในเงินจำนวนนี้ก็สามารถมาสอบถามตนเองได้ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามย้ำอีกว่า มีการโอนเงินให้แม่นักการเมือง ส.เสือ ทุกเดือนใช่หรือไม่ ทนายความตอบว่า ไม่ทราบเส้นทางการเงิน เพราะไม่เห็นหลักฐานนี้เช่นเดียวกัน

ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลอื่น ๆ จะมีการพูดคุยกับทีมทนายความต่อไปว่าก่อนการทำงานอย่างไวที่สุดจะทำได้เมื่อไหร่ โดยล่าสุดทีมของตำรวจสอบสวนกลางได้เข้ามาพูดคุยกับตนเองว่า จะช่วยถอดคลิปเสียงที่ถูกเรียกรับผลประโยชน์ให้ โดยให้ทนายเป็นผู้จัดกลุ่มไฟล์เสียงส่งให้ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองแทบไม่ได้นอนเลย เพราะต้องฟังไฟล์เสียงที่มีความยาวหลายชั่วโมง สำหรับกรณีที่มีรายงานข่าวว่า เมื่อวานนี้มีเจ้าหน้าที่ DSI เข้ามาสอบปากคำบอสพอลในเรือนจำนั้น ทนายยืนยันว่า พบเจ้าหน้าที่ DSI มาจริง แต่เป็นการพูดคุยกับบอสพอล เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายสินบน ไม่ใช่สอบปากคำเข้าสำนวน ซึ่งทางบอสพอลให้ข้อมูลกับทาง DSI ว่าไม่มีการจ่ายสินบนในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่อย่างใด .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 1,545 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม